ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2563

ตร.เร่งสอบผู้ต้องสงสัยกราดยิงที่ลานโบว์ลิ่ง ที่รัฐอิลลินอยส์

          หลังจากเกิดเหตุมือปืน กราดยิงประชาชนที่ลานโบว์ลิ่ง ในเมืองร็อคฟอร์ด รัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯเมื่อเวลาประมาณ 18.55 น.ของวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีก 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้แล้ว พร้อมทั้งระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกราดยิงแบบสุ่มโจมตี ไม่มีการเฉพาะเจาะจงไปที่เป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ง

FBI ค้นบ้านผู้ต้องสงสัย ปมระเบิดใหญ่ที่แนชวิลล์

          จากเหตุระเบิดรถที่มีลักษณะเป็นบ้านติดล้อคันหนึ่ง ซึ่งจอดอยู่บนถนน ย่านใจกลางเมืองแนชวิลล์ เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐเทนเนสซี ของสหรัฐฯ เมื่อวันคริสต์มาส ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 คน ห้างร้านกว่า 40 แห่งได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) และสำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาวุธปืน และวัตถุระเบิด (เอทีเอฟ) ค้นบ้าน 2 ชั้นหลังหนึ่งบนถนนเบเกอร์ทาวน์ เมืองแอนติอ็อก รัฐเทนเนสซี ที่อยู่ห่างจากแนชวิลล์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ 18 กิโลเมตรเจ้าหน้าที่ FBI เชื่อว่าเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย         

          เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะระบุชื่อผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้ แต่ซีบีเอส นิวส์ รายงานว่า ผู้ที่ถูกเพ่งเล็งคือ นายแอนโทนี ควินน์ วอร์เนอร์ ชายวัย 63 ปี ที่ข้อมูลของทางการระบุว่า อาศัยอยู่ในรถบ้านหลังดังกล่าว และจากข้อความที่โพสต์ออนไลน์พบว่า วันที่ 25 พ.ย.2563 นายวอร์เนอร์ เซ็นเอกสารโอนบ้านหลังดังกล่าวให้ผู้หญิงคนหนึ่งในลอสแองเจลิส โดยไม่คิดเงิน แต่ไม่มีลายเซ็นหญิงผู้นั้นในเอกสารการโอน

          เพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลว่า พบเห็นรถบ้านคันที่เกิดเหตุระเบิด จอดอยู่ข้างบ้านของนายวอร์นเนอร์ๆหายไปก่อนที่จะเกิดเหตุ 

          นายบิลล์ ลี ผู้ว่าการรัฐเทนเนสซี ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขอให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้รัฐบาลกลางอนุมัติความช่วยเหลือในการฟื้นฟูเมือง

          ด้านนายจอห์น คูเปอร์ นายกเทศมนตรีเมืองแนชวิลล์ กล่าวว่า คนร้ายมีเจตนาก่อเหตุระเบิด โดยมีเป้าหมายคือการสร้างความเสียหายร้ายแรง

CR:Reuters,BBC

เปิดไทม์ไลน์ แรงงานชายไทยในเกาหลีใต้ที่นำเชื้อไปติดเพื่อนๆอีก 90 คน

          สถานการณ์กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนไทยในเกาหลีใต้ จำนวน 31 คน รายงานระบุว่า เมื่อวันพุธที่ 23 ธ.ค.2563 แรงงานชายไทย เริ่มมีอาการป่วย และได้เดินทางไปร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยด้วยกันที่เมืองชอนัน (Cheonan) ห่างจากกรุงโซล ลงไปทางใต้ราว 80 กิโลเมตร ทำให้มีการสัมผัสกับแรงงานไทยที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นอีก 90 คน โดยทั้งหมดได้รับการตรวจหาโควิด-19 และพบว่า 31 คนมีผลการตรวจเป็นบวก ส่วนอีก 31 คนไม่มีเชื้อไวรัส และที่เหลืออีก 28 คนกำลังรอผลการตรวจ

          เกาหลีใต้ ตรวจโควิด-19 ให้แรงงานต่างชาติผิดกฎหมายฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

          ขณะที่ ในกรุงโซล เตรียมประชุมหารือการยกระดับการเว้นระยะห่างทางสังคมขั้นสูงสุด เนื่องจาก พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 970 คน 

          ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซลว่า หน่วยงานเกาหลีใต้ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อคนไทย เนื่องจาก การแพร่ระบาดที่ร้านขายอาหารไทยในเมืองชอนัน รวม 67 คน โดยนำผู้ติดเชื้อทั้งหมดไปกักตัวที่สถานกักกันโรคในเมืองต่างๆ ของ จ.ชุงชองเหนือและใต้ เช่น เมืองชอนัน เมืองอึมซอง เมืองชองจู เมืองฮงซอง เมืองอาซาน โดยผู้ถูกกักกันส่วนใหญ่ 33 คน อยู่ในสถานที่กักกันโรคในเมืองอาซาน อย่างไรก็ดี ยังไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อคนใดมีอาการเจ็บป่วยสาหัส ส่วนมากไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย เช่น ไอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ สูญเสียการรับรส

          นายธานี กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ร่วมกับสำนักงานแรงงานประจำกรุงโซล ได้เร่งให้การช่วยเหลือและอยู่ระหว่างทยอยเชิญผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเกาหลีใต้เข้ากลุ่มไลน์ดูแลสุขภาพที่สถานเอกอัครราชทูตร่วมกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งขึ้น โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคโควิด-19 จากกรมการแพทย์คอยให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพระหว่างถูกกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน ล่าสุดมีคนไทยเข้าร่วมในกลุ่มไลน์ดังกล่าวแล้ว 32 คน

บางเมืองในเมียนมา เริ่มคลายล็อกดาวน์

          กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของเมียนมา ยกเลิกคำสั่งให้ประชาชนอยู่บ้านในบางเมืองของหลายภูมิภาคและรัฐ หลังจากที่จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวัน ลดน้อยลง ยกเว้นบางเมืองในภูมิภาคมัณฑะเลย์ พะโค อิระวดี รัฐมอญ และรัฐคะฉิ่น เริ่มต้นตั้งแต่วันอาทิตย์ 27 ธ.ค.2563 โดยนับเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรคโควิด-19

          เมื่อวันเสาร์ 26 ธ.ค.2563 ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 734 คน และเสียชีวิต 27 ราย ทำให้เมียนมามีผู้ป่วยสะสม 121,280 คน เสียชีวิต 2,579 ราย รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาล 102,163 คน

‘แอสตราเซเนกา’ เชื่อว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพหยุดยั้งไวรัสกลายพันธุ์ได้

          หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษ รายงานว่าพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ไปทั่วอังกฤษ เพราะติดต่อได้ง่ายและแพร่เชื้อได้เร็วขึ้นจากเดิมร้อยละ 70  มีการตรวจพบทั้งในและนอกยุโรป เช่น ฝรั่งเศส สวีเดน สเปน แคนาดา และขณะนี้มีกว่า 50 ประเทศที่ไม่อนุญาตให้คนที่เดินทางมาจากอังกฤษเข้าประเทศ

          หน่วยงานสาธารณสุขของอังกฤษ ระบุว่า มีประชาชนกว่า 600,000 คนแล้วที่ได้รับวัคซีนสองโดสแรกของบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯร่วมกับไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี

          นายปาสกัล โซริออต หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัทเวชภัณฑ์อังกฤษ แอสตราเซเนกา เปิดเผยกับซันเดย์ไทมส์ว่า นักวิจัยได้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ขึ้นมาจนพบสูตรที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับวัคซีนของบริษัทอื่นๆ แม้จะมีความกังวลอยู่บ้างว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อาจจะไม่ดีเทียบเท่ากับที่บริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯร่วมกับไบโอเอ็นเทคของเยอรมนีพัฒนาขึ้นมาจนสามารถแจกจ่ายอยู่ในอังกฤษและประเทศอื่นๆในขณะนี้ เพราะผลวิจัยบางส่วน ระบุว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกามีประสิทธิภาพร้อยละ 70ในการป้องกันอาการป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เทียบกับของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคที่มีประสิทธิภาพร้อยละ 95

          หัวหน้าฝ่ายบริหารของแอสตราเซเนกา กล่าวว่า เราคิดว่าเราพบสูตรสำเร็จและวิธีการที่ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังฉีดไป 2 โดส แต่ยังบอกรายละเอียดไม่ได้เพราะจะต้องตีพิมพ์รายงานวิจัย

          รัฐบาลอังกฤษ ระบุว่า หน่วยงานสาธารณสุขกำลังพิจารณาข้อมูลสุดท้ายของการทดลองวิจัยระยะสามของแอสตราเซเนกา เดอะไทมส์และสื่ออื่นๆรายงานว่า น่าจะได้รับการรับรองในวันพฤหัสบดีที่ 31 ธ.ค.2563 และสัปดาห์แรกของเดือนม.ค. 2564 จะแจกวัคซีนให้ชาวอังกฤษได้

          ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการได้รับวัคซีน รวมทั้งคำถามที่ว่าคนที่มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะภูมิแพ้ และหญิงตั้งครรภ์ สมควรได้รับวัคซีนแล้วหรือยัง รายงานขององค์การยาสหภาพยุโรป (อีเอ็มเอ) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระบุว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นกังวล ยังไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนตัวนี้จะไม่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ชนิดกลายพันธุ์ ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในสหราชอาณาจักร และ อีกหลายประเทศในภูมิภาคยุโรป

          ด้านพญ.อีเมอร์ คุก ผู้อำนวยการของอีเอ็มเอ กล่าวว่า วัคซีนเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หมดไป จากโลกได้ แต่อย่างน้อยการที่ประชาชนจำนวนมากที่สุดได้รับภูมิคุ้มกัน จะช่วยให้ การดำเนินชีวิตของทุกคนในสังคมกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุดได้

27 ชาติสมาชิกอียู เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

           ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) ทั้ง 27 ประเทศเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด -19 แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ 27 ธ.ค.2563 หลังจากคณะกรรมการกำกับดูแลการแจกจ่ายวัคซีนอนุมัติเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563

-เยอรมนี ผู้รับวัคซีนเข็มแรกของประเทศเป็นย่าทวดวัย 101 ปี ในบ้านพักคนชรา

-ฮังการี และสโลวาเกีย ตามหลังอังกฤษ สหรัฐฯ แคนาดา สิงคโปร์ จีน รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ เซอร์เบีย และซาอุดีอาระเบีย เริ่มฉีดไปแล้ว

-อิตาลี มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมกว่า 2,000,000 คน เสียชีวิตกว่า 70,000 ราย ขอให้ประชาชนรับวัคซีน แต่ผลสำรวจพบว่า มีเพียงร้อยละ 57 ที่จะฉีดวัคซีน

-ออสเตรีย มีผู้ป่วยสะสมกว่า 350,000 คน เสียชีวิตกว่า 5,800 ราย เริ่มล็อกดาวน์ทั้งประเทศครั้งที่ 3 เมื่อวันเสาร์ 26 ธ.ค.2563

-ฝรั่งเศส มีผู้ป่วยสะสมกว่า 2,500,000 คน เสียชีวิตกว่า 62,000 ราย เตือนว่าอาจต้องล็อกดาวน์ครั้งที่ 3 หากไม่สามารถทำให้อัตราติดเชื้อใหม่ลดลง

          เมื่อเดือนพ.ย.2563 นางเออร์ซูลา ฟอนเดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เปิดเผยว่า อียูได้อนุมัติสัญญาเพื่อจัดซื้อวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ปริมาณมากถึง 300 ล้านโดส จากบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯและไบโอเอ็นเทค บริษัทยาของเยอรมนี

CR:Reuters,BBC

ผู้สูงอายุในเบลเยียม เสียชีวิตถึง 18 ราย หลังได้รับของขวัญจากซานตาคลอสที่ติดเชื้อ

          กลายเป็นความเศร้าในเทศกาลวันคริสต์มาสปีนี้ เหตุการณ์เริ่มจากเมื่อต้นเดือนธ.ค.2563 กลุ่มอาสาสมัครได้เข้าเยี่ยมผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราเฮเมลริจก์ ในเมืองมอล จ.แอนต์เวิร์ป ทางภาคเหนือของเบลเยียม เนื่องจาก ชายที่แต่งกายเป็นซานต้า เริ่มรู้สึกป่วย ก่อนจะตรวจพบว่าติดโควิด-19 ในอีก 3 วันต่อมา ทำให้ผู้สูงอายุป่วย 157 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 121 คน เจ้าหน้าที่อีก 36 คน เสียชีวิต 18 ราย  

          เบื้องต้นทางบ้านพัก ยืนยันว่า การเข้าเยี่ยมมีมาตรการรักษาระยะห่าง รวมทั้งการสวมหน้ากากอนามัย แต่บางคนก็ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ไม่มีการเว้นระยะห่าง และยังมีภาพที่ซานตาคลอสถ่ายรูปกับผู้สูงอายุในบ้านพักอย่างใกล้ชิด

          นักไวรัสวิทยาของเบลเยียม วิเคราะห์ว่า กรณีนี้แม้อาสาสมัครที่แต่งตัวเป็นซานต้า อาจจะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อมีจำนวนมาก ซึ่งอีกปัจจัยน่าจะมาจากบ้านพักดังกล่าวมีการระบายอากาศได้ไม่ดี

          นายวิม เคเยอร์ส นายกเทศมนตรีเมืองมอล ระบุว่า จากกรณีดังกล่าวเป็นเพราะฝ่ายบริหารศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ไม่มีความรับผิดชอบ ยืนยันว่าทางการท้องถิ่น จะประชุมฉุกเฉินกับหน่วยงานสาธารณสุข กาชาด และผู้ว่าการจังหวัด เพื่อควบคุมสถานการณ์โดยเร็วที่สุด