ศบค.แจงเจ้าหน้าที่ทำเนียบไม่ติดเชื้อ ตรวจแบบเจาะเลือดครั้งแรกเพื่อประหยัดงบ

          นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ระบุถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจำวันนี้ (26 ธ.ค.63) แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 64 คน จากการตรวจเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 30 คน และที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้ากักตัวในสถานกักกัน 16 คน รวม 110 คน  โดยในส่วนของผู้ติดเชื้อในประเทศ แบ่งย่อยเป็นผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงมาจากการระบาดที่จังหวัดสมุทรสาคร 60 คน  ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า 3 คน และอีก 1 คน กำลังรอสอบสวนโรคว่าติดเชื้อจากการระบาดที่จังหวัดสมุทรสาครหรือไม่

          ส่วนจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อและเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาคร มีทั้งหมด 33 จังหวัด ซึ่งกรณีที่มีการรายงานจำนวนจังหวัดตามสื่อต่างๆ ไม่ตรงกัน เนื่องจากยังมีบางจังหวัดที่รอรายงานข้อมูลเข้ามายังส่วนกลาง และต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน จึงขอให้ติดตามข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก ศบค.ส่วนกลาง

          ที่ประชุม ศบค.วันนี้ ย้ำข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา กรณีตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย หรือ ศบค.มท.ส่วนหน้า เพื่อให้อำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ ออกมาตรการที่จำเป็นต่อการป้องกันการแพร่ระบาด มีอำนาจสั่งปิดสถานที่หรือกำหนดพื้นที่เสี่ยงการติดโรคหรือการแพร่ระบาดของโรค เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ  นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดห้ามการชุมนุมทั่วประเทศ หรือการรวมตัวกันในสถานที่แออัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการแพร่กระจายโรค

          ขณะที่ผลการตรวจหาเชื้อของเจ้าหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล ที่ตรวจด้วยการเจาะเลือดเมื่อวานนี้ พบ 6 คน ผลเป็นบวก แต่เมื่อตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูก ปรากฏว่าผลเป็นลบ ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อความน่าเชื่อถือและความแม่นยำในการตรวจหาเชื้อแบบเจาะเลือด  นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า การตรวจแบบเจาะเลือด เป็นการตรวจภูมิคุ้มกันร่างกาย ไม่ใช่การตรวจหาเชื้อโดยตรง ต่างจากการตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูก ซึ่งเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลารอผล 3-4 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายสูง  แต่การเจาะเลือดมีค่าใช้จ่ายน้อย การตรวจในกลุ่มคนมากๆ จึงใช้วิธีการตรวจแบบเจาะเลือด เพื่อประหยัดงบประมาณ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลมีถึง 700 คน  ซึ่งการตรวจแบบเจาะเลือดเป็นการตรวจทางอ้อม เมื่อพบว่ามีความเสี่ยง ก็นำส่งตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูก ก็ได้ผลยืนยันว่าไม่พบเชื้อ แต่ยอมรับว่าหลังจากนี้ จะทบทวนกระบวนการตรวจหาเชื้อให้รัดกุมมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก

          ส่วนที่มีกระแสข่าวในโซเชียลมีเดีย ที่ให้งดใส่หน้ากากผ้าทุกชนิด เพราะไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ นายแพทย์ทวีศิลป์ ยืนยันว่า หน้ากากผ้าสามารถใช้ป้องกันโควิด-19 ได้ เพราะละอองฝอยที่เกิดจากการพูดจา ไอจาม ยังเป็นมวลขนาดใหญ่กว่าละอองฝอยของเชื้อโรคที่ติดต่อทางอากาศ (Airborne infection) เช่น วัณโรค ดังนั้นยืนยันว่า สามารถใช้หน้ากากผ้าในการป้องกันโควิด-19 ได้แน่นอน

          ส่วนสถานการณ์ในต่างประเทศ ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรวม 80,207,155 คน  เสียชีวิตไปแล้ว 1,757,640 ราย  โดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 19,210,166 ราย