สปช.เดินหน้าปรองดองให้เสร็จภายใน4ปี ไม่นิรโทษพวกทุจริต หมื่นเบื้องสูง
569
https://www.js100.com/en/site/news/view/9613
COPY
08 มกราคม 2558, 18:16น.
การประชุมนัดแรกของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฎิรูปแห่งชาติหรือ สปช. ที่มี นาย เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธานโดยได้เชิญนาย เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฎิรูปแห่งชาติ นาย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสปช. พร้อมด้วยนาย สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ตัวแทนจากคณะกรรมาธิการปฎิรูปการเมือง สปช.เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยกระบวนการสร้างความปรองดองให้ควบคู่กับการปฎิรูปประเทศและการยกร่างรัฐธรรมนูญด้วยนั้น
นาย เทียนฉาย ระบุว่า การปรองดองเป็นเงื่อนไขและสิ่งสำคัญในการปฎิรูปประเทศ โดยการปฎิรูปที่กำลังดำเนินการทั้ง 11 ด้านคงสำเร็จได้ยาก หากประชาชนที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศยังมีเงื่อนไขเหมือนอดีต ทั้งความขัดแย้งทางความคิด และการแบ่งสีเสื้อ ดังนั้นสิ่งสำคัญของการปฎิรูปคือต้องทำให้รอยร้าวในอดีตหายไป รวมทั้งหลังเลือกตั้งในปี 2559 แล้ว ประเทศจะต้องไม่กลับไปเหมือนอดีต สปช. จึงเห็นควรให้จัดตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง เพื่อทำหน้าที่ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังระบุว่า สื่อมวลชนเองก็มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพราะสื่อมวลชนเป็นเครื่องมือสำคัญในการนำเสนอความคิดด้านต่างๆให้ประชาชน. อย่างไรก็ตามยอมรับว่า การปรองดองคงยากที่จะทำได้สำเร็จในเวลาอันสั้นแต่ก็หวังว่าอยากให้การปรองดองสำเร็จได้อย่างน้อยภายใน 4 ปี
ขณะที่นาย บวรศักดิ์ ยอมรับว่าจะมี การออกร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม แต่คงไม่นิรโทษคดีอาญา คดีทุจริตและคดีหมิ่นเบื้องสูง พร้อมระบุว่าการนิรโทษเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการสร้างความปรองดอง ไม่ใช่ประเด็นหลักของการปรองดอง ยอมรับว่า ประเทศมีความขัดแย้งมากว่า 10 ปี จากปัญหาใน 3 ด้านใหญ่ คือ ความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมด้านสังคม ปัญหาด้านการเมือง และปัญหาการสร้างความปรองดอง โดยจะต้องเร่งสร้างความปรองเองในระยะสั้น พร้อมระบุว่ารัฐธรรมนูญที่กำลังร่างนั้น ตัวเองให้ชื่อว่า "รัฐธรรมนูญฉบับปรองดอง" เนื่องจากเป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญที่จะมีการบัญญัติถึงการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ในภาค 4ของรัฐธรรมนูญ โดยจะมีการจัดตั้งองค์กรอิสระที่ชื่อองค์กรสร้างความสมานฉันท์อย่างยั่งยืน โดยจะประกอบไปด้วยตัวแทนสามฝ่าย จากสองกลุ่มที่เห็นต่างทางการเมืองและอีกฝ่ายจะเป็นสื่อกลาง เพื่อทำหน้าที่สร้างความปรองดองกับประชาชน โดยยังระบุว่า รัฐธรรมนูญจะช่วยแก้ไขความขัดแย้งได้ แต่ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าการปรองดองควรมีผลเป็นรูปธรรมอย่างน้อยก่อนการเลือกตั้ง ส่วนการปฎิรูปคาดว่าต้องใช้เวลากว่า 4 ปีหรือมากกว่านั้น เพราะการปฎิรูปหมายถึงการปรับโครงสร่าง ซึ่งต้องใช้เวลานาน
ส่วนนาย สมบัติ ก็เปิดเผยว่า เบื้องต้นคณะกรรมาธิการชุดตัวเองจะเป็นชุดหลักในการสร้างความปรองดอง และภายในสัปดาห์หน้าจะเชิญทุกหน่วยงานที่มีคณะทำงานด้านความปรองดองมาพูดคุยร่วมกัน เพื่อกำหนดขอบเขตการทำงานมิให้ซ้ำซ้อน รวมทั้งอนาคตจะเชิญกลุ่มเห็นต่างเข้าให้ความเห็นในการสร้างความปรองดองอีกครั้งด้วย
ข่าวทั้งหมด