ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น. วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2563

25 ธันวาคม 2563, 07:12น.


มติศบค.ไม่ล็อกดาวน์ ขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ขอให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย และขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกคนที่ร่วมกันเสียสละ อดทน และเตือนว่าหากเราไม่ประมาทก็จะไม่พ่ายแพ้ สามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้



          จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัด จึงจำเป็นที่จะต้องมีการตัดสินใจ เพื่อความปลอดภัยของคนทั้งประเทศ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆจะเป็นผู้พิจารณาออกมาตรการควบคุมโรคในแต่ละจังหวัด ส่วนศบค.จะพิจารณาว่ากิจกรรมใดที่สามารถทำได้หรือไม่ และรัฐบาลจะดูแลเรื่องเศรษฐกิจด้วย



          ขณะที่สถานการณ์ของการแพร่ระบาดในวันนี้ ทั้งคณะแพทย์ และกรมควบคุมโรคต่างๆ ยืนยันว่ายังสามารถควบคุมได้ หากทั้ง 70 ล้านคน ปฏิบัติตามระเบียบและมีวินัย สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปแหล่งที่มีคนจำนวนมาก การควบคุมโรคก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น



          โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาเรื่องการทุจริต ลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ และระบบการคัดกรองแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเพื่อให้สามารถทำงานได้



แบ่ง 4 พื้นที่ควบคุมโรค



          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ยืนยันว่า ไม่มีคำว่าล็อกดาวน์ประเทศไทยในการประชุม ศบค.มีแต่การพิจารณาเรื่องการเตรียมความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ โดยจะแบ่งพื้นที่ตามสถานการณ์ไว้ 4 พื้นที่ ได้แก่



1.พื้นที่ควบคุมสูงสุด คือ พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากและมีมากกว่า 1 พื้นที่ เช่น จ.สมุทรสาคร



2.พื้นที่ควบคุม คือ พื้นที่ที่ติดกับพื้นที่ควบคุมสูงสุดคือ พื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 ราย และมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น



3.พื้นที่เฝ้าระวังสูง คือพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย แต่มีแนวโน้มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้



4.พื้นที่เฝ้าระวัง คือ พื้นที่ที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อและยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ ซึ่งจะต้องมีการเร่งรัดตรวจหา ผู้ติดเชื้อในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มบุคคลที่เสี่ยง กิจกรรมและกิจการที่เสี่ยง เน้นย้ำมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19



          ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดและประกาศว่าจังหวัดตนเองเป็นพื้นที่ระดับใด



          ส่วนมาตรการควบคุมพื้นที่ อาทิ สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม กทม. จะต้องมีการเร่งรัดตรวจหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มบุคคลที่เสี่ยง กิจกรรม และกิจการที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก ส่วนสถานประกอบการ โรงงานที่ยังเปิดดำเนินการให้เน้นมาตรการป้องกันทั้งในบริเวณโรงงานและที่พัก หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้พิจารณาหยุดดำเนินการ พร้อมเฝ้าระวังการลักลอบเข้ามาในพื้นที่ของแรงงานต่างด้าวที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด หากตรวจพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ กับให้มีมาตรการของพื้นที่เฝ้าระวังสูง ให้มีการเร่งรัดการตรวจเชื้อแบบค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก เน้นย้ำมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19



                   กระทรวงกลาโหมสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในด้านบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจหาเชื้อเชิงรุกทางทะเล



          ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขตรวจหาเชื้อในสินค้าที่ออกมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยผู้บริโภค และการส่งออก



จัดงานปีใหม่และวันเด็กได้ แต่ต้องดำเนินมาตรการเข้มข้น



          สำหรับการจัดงานปีใหม่และงานวันเด็กแห่งชาติ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด งดกิจกรรมเฉลิมฉลองทุกชนิด เว้นแต่จัดกิจกรรมแบบออนไลน์



          พื้นที่ควบคุม งดการจัดกิจกรรมที่เป็นสาธารณะ แต่ผ่อนผันให้จัดกิจกรรมที่จำกัดผู้เข้าร่วมหรือจัดเฉพาะคนรู้จัก คุ้นเคย คนในครอบครัวเพื่อนฝูง โดยจำกัดจำนวน หรือพิจารณาจัดกิจกรรม แบบออนไลน์



          พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง สามารถจัดกิจกรรมได้ แต่ต้องลดขนาดของงานให้เล็กลงกว่าปกติ มีมาตรการควบคุมความหนาแน่นของผู้ร่วมกิจกรรม และมีมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดความคับคั่ง แต่ต้องดูสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด



กทม.ติดเพิ่ม 14 คนยอดสะสม 34 คน



          ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.มีผู้ป่วยยืนยันสะสมเป็น 34 คนแล้วและส่วนใหญ่ยังเชื่อมโยงตลาดสมุทรสาคร แต่ในกลุ่มที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับสมุทรสาครกำลังตรวจสอบที่มาเพราะมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อวงกว้าง



กรุงเทพมหานคร จึงขอไม่ให้มีการจัดงานปีใหม่และงานวันเด็ก ส่วนการจัดงานที่มีผู้ร่วมงานมากกว่า 300 คน ต้องขออนุญาตจากสำนักอนามัย เพื่อลดจำนวนคนลง และเว้นระยะห่างทางสังคมได้อย่างชัดเจน



ตม.จับต่างด้าวลอบเข้าไทยรวม 61 คนแล้ว



          พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา สามารถจับกุมแรงงานชาวเมียนมา กัมพูชา และลาว รวม 61 คน โดยเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง 51 คน อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด 9 คน และไม่แจ้งที่พักอาศัยภายใน 90 วัน 1 คน ทั้งหมดตรวจคัดกรองโรคแล้วไม่พบว่าติดไวรัสโควิด-19



          ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน ได้ผ่อนปรนการดำเนินคดีกลุ่มแรงงานต่างด้าว ทั้งผู้หลบหนีเข้าเมืองและผู้ที่เอกสารหมดอายุ เพื่อให้แสดงตนเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองโรค ลดปัญหาทิ้งแรงงานต่างด้าว ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและฝ่ายสืบสวนของกองบัญชาการทุกภาค เร่งสืบสวนขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ยืนยันว่าหากพบก็จะมีการดำเนินคดีโดยไม่มีการละเว้น



          ส่วนกรณีแรงงานตกค้างหน้าด่านชายแดนเมียนมา ชี้แจงว่าเป็นเพียงการกักตัว 14 วัน เพื่อรอผลักดันส่งกลับ



          ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบให้อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบกรณีที่มีสถานประกอบการมีการขนย้ายแรงงานต่างด้าวไปจังหวัดอื่นเพราะเกรงกลัวความผิด และขอผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าวว่าอย่าขนย้ายแรงงานออกนอกโรงงานเด็ดขาด และขอให้ยึดหลักมนุษยชน ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้น หากพบผู้ติดเชื้อ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อสืบสวนโรคตามขั้นตอน และกักตัว หยุดการแพร่เชื้อ



...

ข่าวทั้งหมด

X