ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม 2563

25 ธันวาคม 2563, 06:00น.


มาเลย์, สิงคโปร์พบผู้ป่วยโควิดกลายพันธุ์



          สาธารณสุขมาเลเซียและสิงคโปร์รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเชื้อที่กลายพันธุ์



          โดยที่มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อที่รัฐซาบาห์ ซึ่งตันสรี นายแพทย์นูร์ ฮิชาม อับดุลเลาะห์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อชนิดกลายพันธุ์ "A701B” ซึ่งคล้ายกับโควิดกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีอัตราการแพร่ระบาดเร็วกว่าโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โควิด-19 มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นอยู่เสมอและกำลังมีการวิจัยถึงความเกี่ยวข้องของสายพันธุ์ต่างๆ ที่พบ โดยมาเลเซียเคยพบเชื้อกลายพันธุ์ก่อนหน้านี้คือ “D614G” ในรัฐเกดะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์หลักถึง 10 เท่า และทำให้รัฐเกดะห์มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา



          ขณะเดียวกัน นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขสหราชอาณาจักร แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่อย่างน้อย 2 คน ในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นผู้ที่เคยเดินทางไปแอฟริกาใต้ซึ่งพบโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ คือ N501Y ทางการสหราชอาณาจักรจึงประกาศเรียกร้องให้บุคคลใดก็ตามที่เดินทางกลับหรือมาจากแอฟริกาใต้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แยกกักตัวในทันที



          นายซเวลิ ไมซ์ รัฐมนตรีสาธารณสุขแอฟริกาใต้ เตือนว่าเชื้อกลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้นอกจากจะมีอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็วแล้ว ยังพบว่าคนรุ่นใหม่ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงกลับป่วยหนัก



          ส่วนที่สิงคโปร์ พบเชื้อกลายพันธุ์ชนิด B117 ที่พบในอังกฤษ โดยเป็นวัยรุ่นหญิงอายุ 17 ปีที่กลับมาจากอังกฤษ และไม่พบการแพร่ระบาดในชุมชน



รัสเซียติด-เสียชีวิตโควิดทุบสถิติ



          สาธารณสุขรัสเซียรายงานว่ามีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ในประเทศในรอบ 24 ชั่วโมงมากถึง 29,935 คน ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,963,688 คนมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และมีผู้เสียชีวิต 635 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตแล้ว 53,096 ราย เป็นความสูญเสียรายวันที่มากที่สุดของรัสเซีย



          ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในการแถลงข่าวว่า หากทุกคนปฏิบัติตามกฎและข้อเรียกร้องของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ก็ไม่มีความจำเป็นต้องล็อกดาวน์



ปธน.สหรัฐฯ อภัยโทษบุคคลใกล้ชิด 49 คน



          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ลงนามในคำสั่งอภัยโทษกลุ่มผู้สนับสนุนทางการเมืองของเขารวม 49 คนแล้วภายในเวลา 2 วัน โดยก่อนหน้านี้เขาลงนามในคำสั่งอภัยโทษ 15 คนและลดโทษ 5 คน จากนั้นก็อภัยโทษอีก 26 คน และลดโทษจำคุกอีก 3 คน ซึ่งในกลุ่มนี้ยังรวมถึงนายพอล มานาฟอร์ต อดีตหัวหน้าทีมหาเสียงของเขาที่ถูกศาลในรัฐเวอร์จิเนียตัดสินจำคุกเกือบ 4 ปี ฐานโกงภาษีและฉ้อโกงธนาคาร อีกคนคือนายโรเจอร์ สโตน ที่ปรึกษาซึ่งถูกพิพากษาจำคุก 40 เดือนในข้อหาให้การเท็จต่อสภาคองเกรสในกระบวนการสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2556 และนายชาร์ลส์ คุชเนอร์ บิดาของนายจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยนายทรัมป์ ที่ต้องโทษจำคุก 2 ปี ฐานเลี่ยงภาษี



          การอภัยโทษและลดโทษบุคคลใกล้ชิดกลุ่มใหญ่ ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะเป็นการใช้อำนาจประธานาธิบดีที่กำลังจะหมดลงในเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ยังคาดว่าเขาจะออกคำสั่งอภัยโทษเพิ่มเติม ให้แก่สมาชิกหลายคนในครอบครัว ทนายความของเขา และตัวของเขาเองต่อไปเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหลังพ้นตำแหน่งวันที่ 20 มกราคม 2564



          นายอดัม ชิฟฟ์ ส.ส.พรรคเดโมแครต และประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทวีตว่า การอภัยโทษทำให้แผนการทุจริตเสร็จสมบูรณ์



สหราชอาณาจักรบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีหลังเบร็กซิตกับ EU แล้ว



          นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร แถลงความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปมูลค่า 668,000 ล้านปอนด์ต่อปี โดยระบุว่า ข้อตกลงฉบับนี้ จะปกป้องตำแหน่งงานทั่วประเทศ และทำให้ขายสินค้าในตลาดยุโรปได้โดยไม่มีกำแพงภาษี และไม่มีการจำกัดโควต้า ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย โดยยอมรับว่า เขาถูกกดดันให้ต้องยอมยกเลิกข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการทำประมงในน่านน้ำสหราชอาณาจักร โดยยุโรปเสนอให้มีการใช้มาตรการโควตาเรือประมง



          โดยในวันที่ 30 ธันวาคม รัฐสภาสหราชอาณาจักรจะมีการประชุมเพื่อลงมติรับรองข้อตกลงการค้าจากนั้นจะส่งต่อให้รัฐสภายุโรปให้สัตยาบัน จึงจะมีผลบังคับใช้



          สหราชอาณาจักรกำลังจะออกจากตลาดการค้าเสรีของสหภาพยุโรป ในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ หรือ 1 ปีหลังจากที่ออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ



ข้อตกลงการค้าเบร็กซิตผลักดัน หุ้นสหรัฐฯ, ทอง, น้ำมันปรับขึ้น



          ข้อตกลงการค้าเบร็กซิตส่งผลดีต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกและหุ้นสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่า ช่วยให้สหราชอาณาจักรหลีกเลี่ยงการถอนตัวที่เต็มไปด้วยความสับสน ที่อาจก่อความผันผวนแก่ตลาดเงินมากขึ้นไปอีก



          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ปิดที่ 48.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



          เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 51.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



          หุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 70.04 จุด ปิดที่ 30,199.87 จุด



          เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.05 จุด ปิดที่ 3,703.06 จุด



          แนสแดค เพิ่มขึ้น 33.62 จุด ปิดที่ 12,804.73 จุด



          ส่วนราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,883.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์



....

ข่าวทั้งหมด

X