หุ้นไทย ปิดตลาดพุ่งขึ้น 35.50 จุด หลังศบค.ไม่ล็อกดาวน์ประเทศ
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดัชนีหุ้นไทยกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน แม้จะมีแรงขายออกมาทำกำไรบ้างแต่ก็ไม่มากนัก โดยมีปัจจัยจากผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ไม่ได้ประกาศล็อกดาวน์แบบเต็มรูปแบบ แม้จะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น และกระจายในหลายพื้นที่ ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,451.52 จุด เพิ่มขึ้น 35.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 103,386.18 ล้านบาท
หุ้นต่างประเทศ ขานรับประเด็นเบร็กซิต-แพคเกจกระตุ้นศก.ของสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ตอบรับสัญญาณเชิงบวกของการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ ที่ใกล้บรรลุข้อตกลงแบบในการถอนตัวได้แบบมีพันธะสัญญาไม่ใช่การออกแบบไร้ข้อตกลงเหมือนที่ผ่านมา รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เชื่อว่าจะสามารถออกมาได้ เพราะแม้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะไม่ยอมเซ็นอนุมัติโครงการ แต่ในวันที่ 20 ม.ค.2564 นายโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ก็สามารถเซ็นอนุมัติโครงการได้ หลังจากสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเต็มตัว
-ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,664.80 จุด เพิ่มขึ้น 21.70 จุด หลังมีรายงานว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะฟื้นตัวในไม่ช้า ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวัน ก่อนที่จะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันคริสต์มาส
- ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ระดับ 26,668.35 จุด เพิ่มขึ้น 143.56 จุด จากปัจจัยเรื่องการถอนตัวออกจากอียูของอังกฤษ ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกันได้ในไม่ช้านี้ และยังขานรับความหวังเกี่ยวกับการแจกจ่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ ตกลงซื้อวัคซีนดังกล่าวที่บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ร่วมพัฒนากับบริษัทไบโอเอ็นเทค อีก 100 ล้านโดส
-ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดวันนี้ที่ 2,806.86 จุด เพิ่มขึ้น 47.04 จุด ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการที่เกาหลีใต้ ลงนามในข้อตกลงนำเข้าวัคซีนต้านโรคโควิด-19 จากบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และวัคซีนของบริษัทแจนส์เซน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ปิดที่ 3,363.11 จุด ลดลง 19.21 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากข่าวรัฐบาลจีน เปิดฉากสอบสวนบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ในข้อหาผูกขาดตลาด
-ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 26,386.56 จุด เพิ่มขึ้น 43.46 จุด โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐฯจะสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้
นายกฯ คุยกับคณะที่ปรึกษา กำหนดแนวบริหารเศรษฐกิจ
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังการประชุม ศบค. ในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้หารือกับคณะที่ปรึกษา โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ร่วมประชุมด้วย ประเด็นการหารือ เกี่ยวข้องกับแนวทางการบริหารเศรษฐกิจในช่วงหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ครอบคลุมในหลายมิติ
-เรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำหมุนเวียนในระดับชุมชน
-การรักษาระดับการจ้างงาน
-การวิเคราะห์การฟื้นตัวของสาขาอุตสาหกรรม
-การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ซึ่ง นายกฯ ตั้งเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้อยู่แนวหน้าของอาเซียน เพราะปัจจุบันไทยมีความพร้อมขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้ารายย่อย หาบเร่ แผงลอย มากกว่า 800,000 ร้านค้า ได้เข้าสู่ระบบการโอนเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากร่วมโครงการคนละครึ่ง
-การเร่งรัดมาตรการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทาง
-การพิจารณาทบทวนหลักการของ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
-การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหลังโควิด-19
ลาว แก้ไขคำประกาศ ห้ามนำเข้าอาหารทะเลสดไทย เป็นห้ามทุกประเทศเจอโควิด-19
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากจากทูตพาณิชย์ในลาว หลังจากเข้าพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่จากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าลาว เกี่ยวกับคำประกาศห้ามนำเข้าอาหารทะเลสดจากประเทศไทย ที่ขณะนี้พบว่าไทยเริ่มมีการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ เกรงว่าเชื้อโควิด-19 จะระบาดไปสู่อาหารทะเลได้ โดยเจ้าหน้าที่ทูตพาณิชย์ไทยได้ชี้แจงเหตุผลให้ทางการลาวเข้าใจแล้ว และทางการลาว โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยินดีกลับไปแก้ไขคำประกาศชั่วคราวก่อนหน้านี้ใหม่ จากประกาศห้ามนำเข้าสินค้าอาหารทะเลสดจากไทยทุกชนิด มาเป็นการประกาศ ห้ามนำเข้าอาหารทะเลสดจากประเทศที่มีการระบาดโควิด-19 ทั่วโลก แทน คาดว่าประกาศฉบับแก้ไขออกมาใช้ภายใน 1-2 วันนี้
ลาวกำหนดให้ไทยและประเทศอื่นๆ ที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 สามารถจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการดูแลขั้นตอนต่างๆของอาหารทะเลสดทุกชนิดว่ามีแนวทางป้องกันอย่างไร และมีหลักทางวิชาอย่างไร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับอธิบดีกรมประมงแล้ว พร้อมจัดทำรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ในการดูแลอาหารทะเลสดทุกชนิดของไทย เพื่อรายงานผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ให้เจ้าหน้าที่ลาวได้ทราบขั้นตอนที่แท้จริงต่อไป นายสมเด็จ จะรายงานเรื่องนี้ให้นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ รับทราบทันที
ตั้งแต่ต้นปี สตม.จับเมียนมาลอบเข้าเมืองได้ 26,000 คน ตอนนี้ผ่อนผันยังไม่ดำเนินคดี
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมชาวเมียนมาที่หลบหนีเข้าเมืองได้จำนวน 26,000 คน ไม่รวมชาติอื่นๆ ส่วนมาตรการเร่งด่วนขณะนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจะมีการผ่อนผันยังไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มแรงงานต่างด้าว ทั้งผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองก่อนหน้านี้และผู้ที่เอกสารประจำตัวหมดอายุเพื่อให้แรงงานต่างด้าวออกมาแสดงตนเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองโรค
นอกจากนี้ ได้เพิ่มมาตรการป้องกันไม่ให้มีผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมายรายใหม่ พร้อมเร่งสืบสวนสอบสวนถึงขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ
กรณีแรงงานตกค้างหน้าด่านชายแดนเมียนมา ยืนยันว่า เป็นเพียงการกักตัว 14 วัน เพื่อรอผลักดันส่งกลับ ยืนยันว่า ไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน มีความร่วมมือที่ดีต่อกัน
ตรึงกำลังชายแดน 55 จุด 5 จังหวัด สกัดต่างด้าวลอบเข้าเมือง
พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) รายงานว่า ในพื้นที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ที่มีการแพร่ระบาดมีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ มีผู้อาศัย 4,000 คน เป็นต่างด้าว 3,800 คน และคนไทย 200 คน โดยได้วางกำลังเพื่อป้องกันการหลบหนี ส่วนพื้นที่อื่นมีการจัดชุดตรวจอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ยังได้จัดวางกำลังดูแลบริเวณตามแนวชายแดนป้องกันการลักลอบเข้ามา จำนวน 55 จุด ที่ จ.กาญจนบุรี ตาก เชียงราย ระนอง และสงขลา นายกฯ สั่งการว่าให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศในอัตราที่สูงที่สุด ยืนยันว่าเราดูแลแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในประเทศใกล้เคียงคนไทย หากใครอยู่ในเกณฑ์ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงสามารถเข้าตรวจหาเชื้อได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับมีขบวนขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศจริง จากข้อมูลเดิม พบว่า ส่วนใหญ่จะเข้ามาทางชายแดนแถบจังหวัดกาญจนบุรี เชียงราย ตาก จันทบุรี ตราด เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามข้อมูล รวมถึงมีการคุมเข้มชายแดนตามช่องทางธรรมชาติและจุดที่อาจมีการเล็ดลอดเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจเป็นจุดเดิม
ตร.ปรับจุดตรวจช่วงปีใหม่ ให้ครอบคลุมทั้งความมั่นคง-คุมโควิด-19
การดูแลความปลอดภัยในช่วงปีใหม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สั่งการตำรวจทั่วประเทศ 80,000 นายเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกการจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุ ดูแลประชาชนช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2563- 4 ม.ค.2564 แม้มีการระบาดของโรคโควิด-19 แต่เชื่อว่ายังมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดการณ์ว่าช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค.2563 จะมีการเดินทางออกจากกรุงเทพฯหนาแน่น เนื่องจาก เป็นช่วงการทำงานวันสุดท้าย และจะกลับมาหนาแน่นอีกครั้งในช่วงวันที่ 3 ม.ค. 2564 หลังวันหยุดยาว สถานการณ์ปีนี้มีการระบาดของโรคโควิด-19 จะมีการปรับด่านตรวจให้มีความครอบคลุมทั้งจุดตรวจความมั่นคง/จุดแอลกอฮอล์ และจุดตรวจควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ให้เป็นจุดเดียวกัน และเป็นไปตามมาตรฐานของสาธารณสุข โดยเฉพาะการตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่จะมีการปรับรูปแบบการวัดเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ ส่วนในพื้นที่เสี่ยงก็ต้องมีการปรับแผนให้เข้มข้นเหมาะสมกับสถานการณ์
ฮ่องกง จะจัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ผ่านออนไลน์
แถลงการณ์ของการท่องเที่ยวฮ่องกง (HKTB) ระบุว่า ฮ่องกงจะเริ่มถ่ายทอดสดการจัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ผ่านเว็บไซต์ (discoverhongkong.com) และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กและยูทูปของการท่องเที่ยวฮ่องกงในวันที่ 31 ธ.ค.2563 โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงนาฬิกานับถอยหลังในเวลา 23.00 น.และ 23.30 น. หลังจากนั้น เมื่อนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนตรง ทางการจะถ่ายทอดภาพวิดีโอบรรยากาศอ่าววิกตอเรียฮาร์เบอร์ที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียง ตามมาด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆในฮ่องกง รวมถึงการส่งคำอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไปทั่วโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าฮ่องกงยังคงมีชีวิตชีวาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ฮ่องกงเป็นสถานที่นอกจีนแห่งแรก ๆ ที่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยอดผู้ป่วยสะสมจนถึงขณะนี้อยู่ที่กว่า 8,300 คน เสียชีวิต 133 ราย
ไต้หวัน ยกเลิกจัดงานเทศกาลชมแสงแรกของปี
สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประกาศยกเลิกจัดงานเทศกาลชมแสงแรกของปีที่ชายหาดเมืองฝูหลง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะไต้หวัน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไต้หวันเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนหรือนับตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.2563 งานชมแสงแรกของปี เป็นงานที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก อย่างไรก็ดี การฉลองเทศกาลปีใหม่ในจุดอื่นๆ รวมถึงการจุดดอกไม้ไฟในกรุงไทเป จะยังคงจัดอยู่ แต่ผู้เข้าร่วมงานต้องสวมหน้ากากอนามัย
CDC อยากให้จัดคริสต์มาสที่บ้าน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทาง ขอให้ประชาชนอยู่ที่บ้านในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสแทน เนื่องจากเป็นวิธีที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดที่จะป้องกันตัวเอง หรือให้จัดงานเลี้ยงวันหยุดกับเพื่อนและครอบครัว ผ่านทางระบบออนไลน์ จัดงานแลกเปลี่ยนของขวัญออนไลน์ ตกแต่งบ้าน หรือประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ เพื่อฉลองวันหยุดแทน