กลุ่มเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ เผยมีกระแสต้านชาวเมียนมาในประเทศไทย หลังพบการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19

24 ธันวาคม 2563, 17:39น.


          นายสมพงษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน องค์กรที่ให้การช่วยเหลือแรงงานต่างชาติในประเทศไทย เปิดเผยว่า มีชาวไทยคนหนึ่งโพสต์ข้อความทางยูทูป โดยใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชังต่อชาวเมียนมาว่า ถ้าพวกเขาเห็นชาวเมียนมาที่ไหน ให้ยิงพวกเขาได้เลย หลังพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในหมู่แรงงานชาวเมียนมาที่ตลาดแพกุ้ง จังหวัดสมุทรสาครเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่เชื่อมโยงกับตลาดนั้นเกือบ 1,300 คน ขณะที่คนอีกหลายพันคนถูกกักกันเฝ้าระวัง



          นอกจากนี้ ชาวเมียนมาถูกกล่าวหาว่าแพร่เชื้อโรคโควิด-19 แต่ความจริง เชื้อไวรัสนี้สามารถจะแพร่ไปได้ทุกที่ ไม่จำกัดเชื้อชาติ กระแสต่อต้านเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติของแรงงานชาวเมียนมา เช่น ถูกห้ามไม่ให้ขึ้นรถประจำทาง, รถจักรยานยนต์รับจ้างไม่ให้บริการหรือถูกห้ามเข้าอาคารสำนักงานบางแห่ง



          นอกจากนั้น ข้อความอื่นๆทางสื่อออนไลน์ที่สร้างความเกลียดชังต่อชาวเมียนมาจากการตรวจสอบของรอยเตอร์ เช่น การเรียกร้องไม่ให้แพทย์ให้การรักษาแรงงานชาวเมียนมาที่ติดโรคโควิด-19 พร้อมเสนอแนะให้ทางการไทยลงโทษกลุ่มคนที่นำพาแรงงานเมียนมาเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะการต่อต้านเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะกรณีพบชาวต่างชาติแพร่เชื้อโรคโควิด-19 ในต่างแดน ซึ่งหลังจากรอยเตอร์ ได้แจ้งให้เฟซบุ๊กทราบ โฆษกของเฟซบุ๊ก ระบุว่า เฟซบุ๊กได้ลบข้อความสร้างความเกลียดชังแล้วจำนวนมาก เนื่องจากละเมิดนโยบายของเฟซบุ๊ก



          ด้าน น.ส.สายใจ เลี้ยงพันธุ์สกุล จากองค์กรเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ ชื่อว่า โซเชียล มีเดีย มอนิเตอริ่ง ฟอร์ พีซ (Social Media Monitoring for Peace)พบการโพสต์ข้อความแสดงความเห็นสร้างความเกลียดชังชาวเมียนมาหลายพันข้อความทางยูทูป,เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ มีการใช้ข้อความในเชิงเหยียดชาวเมียนมา และแสดงความรักชาติไทย หวั่นเกรงว่าการแสดงความเกลียดชังผ่านสื่อออนไลน์อาจจะบานปลายกลายเป็นการปลุกระดมให้เกิดเหตุรุนแรงในโลกแห่งความเป็นจริง



          ด้านนายเซียน ฮเตย์ จากเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์แรงงานต่างด้าว ซึ่งมีสำนักงานในนครย่างกุ้ง เมียนมา เชื่อว่า โรคโควิด-19 อาจจะแพร่ระบาดในหมู่แรงงานเมียนมาในประเทศไทยอย่างเงียบๆมาสักระยะหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่ปรากฏเป็นข่าว อีกทั้งการที่แรงงานเมียนมาอาศัยอยู่ในหอพักแรงงานห้องละ 3-4 คน ทำให้การเว้นระยะห่างทางสังคมทำได้ลำบาก



Cr: Reuters, US News & World Report

ข่าวทั้งหมด

X