ช่วงนี้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กส่งผลกระทบกับประชาชนพอๆ กับเรื่องการระบาดของโควิด-19 เลยทีเดียว เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จึงลงพื้นที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เพื่อกวดขันรถบัสโดยสารควันดำเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด
นายวิวัฒน์ วงศ์ศิริ เจ้าพนักงานชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก มีนโยบายตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กให้กับประชาชน โดยกำหนดให้ค่ามาตรฐานควันดำต้องไม่เกินร้อยละ 45 หากพบว่าคันใดควันดำเกินมาตรฐาน จะออกใบคำสั่งนายทะเบียน พร้อมพ่นเครื่องหมายห้ามใช้ จนกว่ารถคันนั้นจะแก้ไขและนำไปตรวจสภาพที่กรมการขนส่งทางบก หากตรวจสภาพผ่าน ช่างจึงจะลบสีที่พ่นออกให้
แต่ถ้ายังฝ่าฝืนนำรถที่ถูกพ่นเครื่องหมายห้ามใช้ไปวิ่ง จะมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือลบเครื่องหมายห้ามใช้เองมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่จากการตรวจสอบวันนี้ ยังไม่พบรถบัสโดยสารควันดำ เนื่องจาก บขส.และรถร่วม บขส. ส่วนใหญ่จะผ่านการตรวจสภาพรถแล้ว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ยังตรวจสอบความพร้อมสภาพรถโดยสาร เพื่อให้พร้อมให้บริการพาประชาชนส่งถึงที่หมายอย่างปลอดภัย โดยวันนี้พบรถบัสที่อุปกรณ์ส่วนควบไม่สมบูรณ์ คือกระจกรถร้าว 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงออกโทษปรับ 1,000 บาท
ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยังต้องกวดขันเข้มข้น เนื่องจาก เจ้าหน้าที่เป็นห่วงประชาชนที่ต้องนั่งในรถซึ่งเป็นพื้นที่ปิดระยะทางไกล จึงย้ำให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์และสแกนไทยชนะ ส่วนพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งหมั่นทำความสะอาดรถทุกครั้งก่อนออกวิ่งให้บริการ
อีกเรื่องที่ยังต้องกำชับกัน คือการหลีกเลี่ยงใช้บริการรถโดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมาย เช่น รถจักรยานยนต์รับจ้างและแท็กซี่ป้ายดำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคอยกวดขันจุดนี้เสมอ เนื่องจากมักมีประชาชนนั่งวินจักรยานยนต์รับจ้างหรือรถแท็กซี่มาต่อรถบัสกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว จึงต้องกวดขันห้ามรถผิดกฎหมายมาให้บริการ หรือเอาเปรียบผู้โดยสาร