ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 19.30น.วันพุธที่ 23 ธันวาคม 2563

23 ธันวาคม 2563, 19:07น.


นายกฯสั่งตั้งกก.สอบขบวนการลอบนำเข้าแรงงาน



          ในที่ประชุมสภากลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการในการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง



-ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาสืบสวน สอบสวนบุคคลที่มีส่วนร่วมลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับ ไม่มียกเว้น



-สั่งการให้ตำรวจและฝ่ายปกครอง ตั้งจุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าจะใช้ลำเลียงและหลบหนีของแรงงานต่างด้าว เพื่อเป็นการยกระดับแนวทางการป้องกันในจังหวัดที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยต้องตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่ชั้นใน



-กำชับให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสถานบันเทิงต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข



-สั่งการให้กองทัพบกและกองทัพเรือ ระดมกำลังสนับสนุน อุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียง ที่จังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้กำลังดูสถานที่อยู่ว่าจะใช้โรงงานหรือที่พักอาศัย โดยโรงพยาบาลสนาม จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่พบผู้ป่วย เนื่องจากไม่ต้องการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว



โฆษก ตร. ตามต่างด้าวถูกทิ้งครบ 18 คนแล้ว  



          พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงศ์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ รับแจ้งมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมากว่า 10 คน ถูกนำมาทิ้งภายในซอยกรีนเลค หมู่ 2 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) ต่อเนื่องถึงวันนี้ ตรวจพบแรงงานต่างด้าวถูกทิ้งไว้ในพื้นที่ของ สภ.บางแก้ว ต่อเนื่อง สภ.บางพลี รวมทั้งสิ้น 18 คน จากเดิมพบ 14 คน และพบเพิ่มเติมระหว่างทางอีก 4 คน โดยตรวจพบเอกสารที่ยืนยันตัวได้ 6 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างสอบสวนหาเอกสารยืนยันตัวตน โดยวันนี้ผู้รับผิดชอบโรงงานมาพบพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว อยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่ ยังไม่ปรากฏว่าเป็นเหตุอะไร เบื้องต้นโรงงานไม่ได้นำมาทิ้ง แต่เป็นการอำนวยความสะดวก หลังจากในพื้นที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19  อาจจะคิดว่าคงจะไม่ได้ทำงาน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า อาจจะมาพบญาติ



          พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า หลังจากพบตัวแล้วแพทย์พร้อมสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาสอบสวนโรค ได้เก็บตัวอย่างเชื้อไปตรวจสอบแล้วและกักตัวในสถานที่ที่จังหวัดจัดไว้ให้บริเวณสนามกีฬาบางพลี มีรั้วรอบขอบชิดและเวรยามดูแลผู้ที่โดนกักกันอย่างดี กำลังสอบสวนตัวแรงงานทั้ง 18 คน และผู้รับผิดชอบโรงงาน โรงงานใดที่มีแรงงานที่ต้องสงสัยหรืออยากเคลียร์ประเด็นเรื่องการระบาดของโรคให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่เฝ้าระวังป้องกัน เช่น จังหวัด สาธารณสุขจังหวัด หรือตำรวจ



          โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากนี้มาตรการสกัดกั้นจะเข้มมากขึ้น ซึ่งนายกฯได้ให้นโยบายมาแล้ว ส่วนการลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กำชับในเรื่องการดูแลกำลังพลจะต้องมีอุปกรณ์ เครื่องมือในการดูแลป้องกันตัวเอง พร้อมให้ศึกษาเรื่องทำประกันสุขภาพให้ตำรวจที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเพื่อเป็นสวัสดิการในการทำงาน



CR:แฟ้มภาพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  



รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร แถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 121 คน



          นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสมุทรสาคร ประจำวันที่ 23 ธ.ค.2563 สรุปผลตรวจสารคัดหลั่ง ด้วยรถตรวจ จำนวนรวมทั้งสิ้น 9,417 คน ทราบผลตรวจแล้วทั้งสิ้น 5,292 คน พบผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 1,184 คน แยกเป็นคนไทย 55 คน  แรงงานเมียนมา 1,129 คน เมื่อเทียบเคียงกับเมื่อวานนี้ 22 ธ.ค.2563 เท่ากับมีจำนวนผู้ติดเชื้อวันนี้เพิ่มขึ้น 121 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้รอผลตรวจอีก 4,125 คน ทั้งหมดยังอยู่ในเขตพื้นควบคุมหรือตลาดกลางกุ้งและดูแลรักษาพยาบาลในลักษณะโรงพยาบาลสนามเนื่องจากทั้งหมดไม่ได้แสดงอาการ    



          สรุปภาพรวมสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อ “ดีขึ้น” จากเดิมร้อยละ 22.89 ลดลงเหลือร้อยละ 22.37แต่ทางจังหวัดสมุทรสาครจะเดินหน้าตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงและผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังจากพื้นที่ต่างๆอย่างต่อเนื่องจากยอดตั้งเป้าเบื้องต้นประมาณ 35,800 คน   



กต.ย้ำไทย-เกาหลีใต้ ร่วมแก้ปัญหา"ผีน้อย"ทุกทาง



          นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง กรณีที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีแรงงานไทยที่เสียชีวิตในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงกลางเดือน ธ.ค. 2563 อย่างน้อย 522 ราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตการทำงานถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ทำให้หน่วยงานของสหประชาชาติ 2 แห่ง ต้องการสอบสวนเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงว่าในหลักการ รัฐบาลไทยไม่สนับสนุนให้คนไทยเดินทางไปทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้วีซ่าผิดประเภท ซึ่งจะทำให้แรงงานไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ และการดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน ขณะเดียวกัน ไทยได้มีมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเดินทางไปทำงานที่เกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน รัฐบาลไทยต้องการให้คนไทยเดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้อย่างถูกต้องผ่านระบบอนุญาตจ้างแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System for Foreign Workers : EPS) 



          นอกจากนี้มีการปราบปรามเว็บไซต์ที่ล่อลวงคนไทยไปทำงานกว่า 50 เว็บไซต์ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์ไม่ให้คนไทยไปทำงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ รวมถึงรัฐบาลไทยและเกาหลีใต้อยู่ระหว่างดำเนินการให้คนไทยได้เดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้ในรูปแบบแรงงานตามฤดูกาล จะทำให้บริหารจัดการแรงงานได้อย่างดี โดยใช้แนวทางเช่นเดียวกับกลุ่มคนงานไทยเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์



          โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ออกนโยบายให้แรงงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้รายงานตัวกลับประเทศต้นทางโดยสมัครใจ ในปี 2561-2562 และปี 2562-2563 ซึ่งล่าสุด ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2562–ต.ค. 2563  มีแรงงานไทยผิดกฎหมายรายงานตัวและเดินทางกลับไทยแล้วประมาณ 10,060 คน



กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% กระตุ้นศก.ที่มีความไม่แน่นอน



          ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ กนง. แถลงว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า จึงยังต้องการแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งนี้ และรักษาความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

          คณะกรรมการฯ คาดว่า ในปีนี้ เศรษฐกิจไทย จะหดตัวร้อยละ 6.6 ดีกว่าที่ประเมินไว้เดิมจากการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวดีขึ้น และกลับมาขยายตัวร้อยละ 3.2 ในปี 2564 และขยายตัวร้อยละ 4.8 ในปี 2565 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยในระยะสั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ขณะที่ในระยะถัดไปขึ้นอยู่กับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกันโรคและพัฒนาการของตลาดแรงงานซึ่งยังมีจำนวนผู้ว่างงานและเสมือนว่างงานอยู่ในระดับสูง



นักลงทุน จับตาประชุม ศบค.พรุ่งนี้ กังวลล็อกดาวน์



          การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,416.02 จุด ลดลง 8.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 89,556.24 ล้านบาท  นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนมาก จากความกังวลการล็อกดาวน์ในประเทศที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่จะประชุมกันพรุ่งนี้ อีกทั้งผิดหวังผลการประชุม กนง. ไม่เห็นสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม แต่เชื่อมีลุ้นลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบหน้า ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจมากกว่า



          การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดที่ 26,524.79 จุด เพิ่มขึ้น 88.40 จุด ตลาดปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด เนื่องจาก ญี่ปุ่นตัดสินใจห้ามผู้เดินทางจากอังกฤษเข้าประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19



          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย  ปิดที่ 6,643.10 จุด เพิ่มขึ้น 43.50 จุด ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสินค้าผู้บริโภค และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเหล่านี้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ว่าจะใช้สิทธิวีโต้ร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19



          ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่26,343.10 จุด เพิ่มขึ้น 223.85 จุด 



บ.แอสตราเซเนกาของอังกฤษ มั่นใจ วัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์



          ตัวแทนจากบริษัทแอสตราเซเนกา ผู้ผลิตยาชั้นนำของอังกฤษ แสดงความมั่นใจว่า วัคซีน AZD1222 ของแอสตราเซเนกามีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ และแพร่ระบาดในอังกฤษในขณะนี้ ทีมวิจัยของบริษัทแอสตราเซเนกาอยู่ระหว่างการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ให้ชัดเจนเรื่องผลที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส



          ตัวแทนจากบริษัทแอสตราเซเนกา ระบุว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา มีส่วนประกอบ คือโครงสร้างทางพันธุกรรม เช่น ปุ่มโปรตีนของเชื้อไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 ซึ่งทีมวิจัย พบว่า การเปลี่ยนแปลงของรหัสทางพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกลายพันธุ์ ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างโปรตีนที่เป็นปุ่มของเชื้อไวรัส ตามปกติหลังฉีดวัคซีนแล้ว ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราจะจำลักษณะโครงสร้างต่างๆของเชื้อไวรัส เช่น ปุ่มโปรตีนต่างๆ เพื่อที่จะสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อไวรัสต่างๆได้ทันที ถ้าพบเชื้อไวรัสในลักษณะเดียวกันเข้าสู่ในร่างกายอีกในอนาคต



          บริษัทผลิตยาชั้นนำทั่วโลกอยู่ระหว่างทดสอบวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ นับเป็นปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นขณะที่ทั่วโลกพยายามจะใช้มาตรการต่างๆเพื่อสกัดการแพร่ระบาด แต่สำหรับวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด นับว่ามีความสำคัญสำหรับกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำและกลุ่มประเทศที่มีอากาศร้อน เนื่องจากมีราคาถูก ขนส่งสะดวกกว่าและสามารถเก็บไว้ในช่องเย็นของตู้เย็นทั่วไปที่ใช้ในบ้าน ข้อมูลจากการวิจัยวัคซีนของแอสตราเซเนกาในอังกฤษและบราซิลซึ่งเผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้ ชี้ว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคเฉลี่ยร้อยละ 70



 

ข่าวทั้งหมด

X