นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีการตั้งโรงพยาบาลสนามที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรองรับการควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งไทยก็เคยมีการตั้งโรงพยาบาลสนามมาก่อนแล้ว ทั้งที่เชียงใหม่ ภูเก็ต และที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งถือว่าช่วยให้การจัดการโรคระบาดได้อย่างดี ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดสมุทรสาคร ก็มีประกาศห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวแล้ว จะทำให้จำกัดวงของโรงระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนในพื้นที่ชุมชนจะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด เช่น ชุมชนตลาดกลางกุ้ง ซึ่งขณะนี้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปดูแลและระดมตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงกันแบบหามรุ่งหามค่ำแล้ว รวมทั้งยังมีการตรวจเชิงรุกในชุมชนแรงงานต่างชาติจุดอื่นๆในจังหวัดสมุทรสาครแล้ว พบว่าจุดที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด คือที่ชุมชนตลาดกลางกุ้งเช่นเดิม ซึ่งจะต้องเร่งจัดการพื้นที่นี้ให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมทั้งอุปกรณ์ป้องกัน เวชภัณฑ์ สนับสนุนไปยังแต่ละพื้นที่แล้ว เช่น หน้ากากอนามัย จำนวน 50 ล้านชิ้น หน้ากาก N95 จำนวน 5 ล้านชิ้น และยาสำคัญจำนวนมาก โดยพื้นที่สามารถประสานส่วนกลางเพื่อขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์และการวางแผนส่งต่อ รวมทั้งการรักษาผู้ป่วยที่มีการเตรียมการไว้แล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังย้ำว่า ระบบสาธารณสุขไทยมีประสิทธิภาพในการป้องกัน และรักษา ซึ่งเจ้าหน้าที่และรัฐบาลได้ทำสุดความสามารถ เพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์ แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการสวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง ป้องกันการติดต่อของโรค