ผู้นำสหราชอาณาจักรไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้มีการขยายระยะเวลาเปลี่ยนผ่านอีก 1 ปีก่อนข้อตกลงเบร็กซิตเริ่มใช้บังคับ

          กรณีนางนิโคลา สเตอร์เจียน มุขมนตรีแห่งสกอตแลนด์และนายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เสนอแนะให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรยอมทำตามกฎระเบียบการค้าของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ไปพลางก่อน หลังครบกำหนดเวลาเปลี่ยนผ่าน 1 ปีในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ พร้อมเสนอให้ขยายระยะเวลาเปลี่ยนผ่านไปอีก 1 ปี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีเวลาเจรจาข้อตกลงการค้าต่อไปจนกว่าจะบรรลุข้อตกลง

          นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ไม่เห็นกับข้อเสนอนั้น ระบุว่าจุดยืนของเขาในเรื่องนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม ระบุว่าสหราชอาณาจักรพร้อมจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเร่งด่วนต่างๆ รวมทั้ง ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ ที่ผ่านมาการเจรจาการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรกับกลุ่มอียูไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการทำประมง โดยฝรั่งเศสแสดงความกังวลกรณีสหราชอาณาจักรห้ามเรือจากกลุ่มอียูรุกล้ำน่านน้ำของสหราชอาณาจักร

          แม้ว่าจนถึงขณะนี้ การเจรจายังคงดำเนินอยู่ เหลือเวลาอีกเพียง 10 วันจะสิ้นสุดการเจรจาช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 1 ปี ซึ่งตามข้อตกลงเดิม ทั้งสองฝ่ายจะต้องสรุปข้อตกลงการค้าในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านให้เสร็จ พร้อมทั้งเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาของทั้งสองฝ่ายลงมติให้สัตบาบัน เพื่อให้มีผลบังคับตามกฎหมายต่อไป

          ที่ผ่านมาสหราชอาณาจักรยังคงปฏิบัติตามกฎระเบียบของกลุ่มอียู นับตั้งแต่เริ่มถอนตัวออกจากกลุ่มอียูเมื่อวันที่ 31 มกราคม แต่สหราชอาณาจักรจะเริ่มถอนตัวจากระบบตลาดและศุลกากรของกลุ่มอียู หลังสิ้นสุดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านภายในสิ้นปีนี้ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ทั้งสองฝ่ายก็จะต้องเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีผลให้ผู้ประกอบการปรับเพิ่มราคาสินค้าให้สูงขึ้น กระทบต่อผู้บริโภคทั้งสองฝ่าย

Cr: BBC