*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

+++การขยายผลการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับคดีร่วมกันลักทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.ก. ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยมี พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บังคับการปราบปราม รวมทั้งคณะพนักงานสอบสวนเข้าร่วมประชุม พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติม คาดว่าจะขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย  พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.ก. กล่าวว่า สำหรับกรณีการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมอีก 4 ราย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ คาดว่าน่าจะขออนุมัติศาลออกหมายจับได้ภายในวันนี้ ส่วนนางสมบัติ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ สองแม่ลูกผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรี ผัดฟ้องฝากขังในช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 8 มกราคม หลังจากควบคุมตัวไว้ครบ 48 ชั่วโมงแล้ว

+++ต่อมาเวลา 16.00 น. น.ส.สาวิกา หรือพิ้งกี้ กรรมการบริษัท เคพีพี โปรดักส์ชั่น จำกัด 1 ใน 7 บริษัทในเครือของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีลักเงิน สจล.เข้าพบ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช       น.ส.สาวิกาเปิดเผยว่า ไม่รู้จักกับนายกิตติศักดิ์เป็นการส่วนตัว รวมทั้งไม่ทราบด้วยว่ามีชื่อเป็นหุ้นส่วนของบริษัทดังกล่าวของนายกิตติศักดิ์ ส่วนในรายละเอียด ขออนุญาตให้ทางตำรวจชี้แจงแทนเพื่อความกระจ่าง ก่อนเดินทางกลับ   ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า จากการสอบปากคำ น.ส.สาวิกา ทำให้ทราบว่าถูกชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจกับบริษัทด้านการผลิตภาพยนตร์ซึ่งเป็น 1 ใน 7 บริษัทในเครือของนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาในคดี สำหรับบริษัทดังกล่าวได้จดทะเบียนไว้เท่านั้น ยังไม่ดำเนินธุรกิจ จึงไม่พบเรื่องการแจ้งผลประกอบการ หรือเงินหมุนเวียนในบัญชีของบริษัท รวมถึงบัญชีของ น.ส.สาวิกา ด้วย จึงไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักเงิน สจล.

+++กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค ลง พื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อ ตรวจสอบโกดังมันสำปะหลังที่มีการลักลอบนำออกไปจำหน่าย

+++ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติลงพื้นที่ตรวจสอบการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาและตรวจสอบประสานเพื่อทราบปัญหาข้อขัดข้องในการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา หนองบัวลำภู มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ

+++ความคืบหน้าในการดำเนินการเอาผิดกับเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) บ่อนการพนันอาบูบาก้า ญาติของ พ.ต.อ.วรพจน์ พืชผล อดีตผกก.1กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และ พ.ต.ท.ณภัค หรือ พิพัฒน์ เฉวงราษฎร์ อดีตสารวัตรกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ยื่นคำร้องพร้อมเงินสด 6 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว  ซึ่งศาลได้พิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้ว เห็นว่าผู้ต้องหาเข้ามอบตัวและให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน เชื่อว่าไม่มีเจตนาหลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว

+++พล.ต.ท.ประวุฒิ ชี้แจงการเสนอปรับโยกย้ายตำรวจระดับรอง ผบก.-ผกก. ในสังกัดบช.ก.ต่อที่ประชุม ก.ตร. ว่า ได้เสนอบัญชีปรับเปลี่ยนตำแหน่งตำรวจของ บช.ก.ประมาณ 130 ตำแหน่ง ในจำนวนนี้เป็นการย้ายออกนอกหน่วย 56 ตำแหน่ง  ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกย้ายนอกหน่วยเพราะเกี่ยวข้องกับกระทำผิด4เรื่องหลักคือรับผลประโยชน์จากน้ำมันเถื่อน การทุจริตซื้อขายตำแหน่ง  และการพนันบอล พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ตามกำหนดลงนามแต่งตั้งก่อนวันที่ 9 มกราคม และให้มีผลวันที่ 15 มกราคม แต่ถ้ามีอะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานอื่น คงจะต้องนัดประชุม ก.ตร.อีกครั้งในวันที่ 12 มกราคม และลงนามภายในวัน แต่คงมีส่วนน้อยมากหรืออาจจะไม่มี

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะ บูรณาการเรื่องที่ดินและการบริหารจัดการขยะ ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30 น.

+++ด้านนายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับกรมที่ดินเพื่อการจัดทำบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ในปี 2558 รองรับการขยายพื้นที่การประเมินราคาที่ดินรายแปลงครอบคลุมทั้งประเทศรองรับร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยกรมธนารักษ์จะขอใช้ข้อมูลแผนที่ ข้อมูลทะเบียนที่ดิน ข้อมูลอาคารชุด รวมทั้งข้อมูลการซื้อขายเพื่อการวิเคราะห์กำหนดราคาประเมิน ก่อนจัดทำบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ส่งให้กรมที่ดินใช้ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม การประเมินราคาที่ดินรายแปลง ขณะนี้กรมสามารถดำเนินการได้ประมาณ 8 ล้านแปลงทั่วประเทศ และมีแผนที่จะดำเนินการประเมินทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อนที่ร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีผลบังคับใช้

+++ด้านนายสมคิด ศริ ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพกรมที่ดิน กล่าวว่า เท่าที่เก็บข้อมูลของราคาซื้อขายที่ดินในช่วงที่ผ่านมาพบว่าปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20ส่วนพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาทิ อำเภอแม่สอด จังหวัดตากนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 100 นอกจากนี้ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าและบริเวณถนนที่ตัดใหม่ พบว่าปรับขึ้นมากเช่นกัน ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินทำให้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่าร้อยละ 20 ในปีงบ 2557 กรมที่ดินจัดเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินได้ถึง 3 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้จัดเก็บรายได้ของกรมรวมอยู่ที่ 7-8 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 2558 รายได้และค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 8-9 หมื่นล้านบาท         

+++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เห็นชอบให้คิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นวินาทีตามการใช้งานจริงห้ามปัดเศษวินาทีเป็นนาทีนั้น กสทช. ได้หารือกับผู้ให้บริการทั้ง 5 ราย คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้ข้อสรุปว่า เบื้องต้นก่อนวันที่ 1 มี.ค.นี้ ผู้ประกอบการจะออกแพ็กเกจการโทรฯ คิดเป็นวินาทีให้กับการใช้งานในประเทศไทยซึ่งยังไม่เกี่ยวกับการโรมมิ่ง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค การเปลี่ยนแพ็กเกจดังกล่าวผู้บริโภคสามารถยื่นความประสงค์ขอใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และหลังจากนั้น กสทช. จะประเมินพฤติกรรมการใช้งานว่าผู้บริโภคให้ความสนใจเปลี่ยนไปใช้แพ็กเกจทางเลือกดังกล่าวหรือไม่เพื่อนำไปศึกษาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบคิดค่าโทรฯ เป็นวินาทีแทนการปัดเศษเป็นนาทีในอนาคต

+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลหลายฉบับ และตั้งคณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  มีการสอบถามว่า คณะกรรมการดิจิตอลฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการประมูลคลื่น 4จี ที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่แน่ว่ากฎหมายจะออกมาทันหรือไม่ หากทันก็เป็นคณะกรรมการชุดนี้

 +++นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการ ไม่ได้เป็นการลิดรอนอำนาจของ กสทช. แต่เพื่อให้การขับเคลื่อนงานดิจิตอลอีโคโนมี ไหลลื่นขึ้น ซึ่งในหลายประเทศก็ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน การทำงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อจากนี้ ยังคงมีหน้าที่กำกับดูแลเหมือนเดิม เพียงแต่ในขั้นตอนสุดท้ายอาจต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล ส่วนของการประมูลคลื่นความถี่ รัฐบาลอาจเข้าไปพิจารณาใหม่ได้เช่นกัน

 +++ปิดท้ายที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล  รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น.