*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.*

08 มกราคม 2558, 08:40น.


+++สื่อฝรั่งเศส รายงานการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุกราดยิงสำนักงานหนังสือพิมพ์ชาร์ลีเอบโด หนังสือพิมพ์แนวเสียดสีรายสัปดาห์ของฝรั่งเศสในใจกลางกรุงปารีส ว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปปิดล้อมพื้นที่หนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่คนร้าย 3 คน หลบซ่อน มีรายงานว่า หนึ่งในคนร้าย ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนอีกสองคน ถูกจับได้แล้ว



 +++สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่าตำรวจฝรั่งเศสบุกจู่โจมในเมืองราส ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ห่างจากกรุงปารีสประมาณ 2 ชม. เพื่อไล่ล่าคนร้าย          มือปืนผู้ก่อเหตุสองคนเป็นพี่น้องกันชื่อ นายซาอิฟ คูอาชิ และนายเชอริฟ คูอาชิ ชาวกรุงปารีส ส่วนมือปืนอีกคนหนึ่งชื่อนายฮามิด มูรัด มาจากเมืองราส



+++นายฟรองซัวส์ โอลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศ ว่าฝรั่งเศสจะไว้ทุกข์ให้ผู้เคราะห์ร้ายในวันนี้  โดยจะมีการสงบนิ่งเป็นเวลาหนึ่งนาทีในเวลาเที่ยงวัน นายโอลองด์ ยกย่องผู้เสียชีวิตเหล่านั้นว่าคือวีรบุรุษ ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนทั้งในกรุงปารีสและเมืองอื่น ๆ ออกมารวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งในกรุงลอนดอนก็มีการรวมตัวของผู้คนในลักษณะเดียวกันด้วย ด้านแกนนำมุสลิมในฝรั่งเศสออกมาประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สภามุสลิมฝรั่งเศสขอให้อยู่ในความสงบและขอให้ชาวมุสลิมระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มหัวรุนแรง



+++ที่ประชุมคณะกรรมบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดแนวทางปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG ทั้งระบบ ให้สะท้อนต้นทุนที่เหมาะสมโดยกำหนดราคาตั้งต้นของก๊าซ LPG ของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ทั้งภาคครัวเรือน ขนส่ง อุตสาหกรรม และปิโตรเคมี ให้เป็นราคาเดียวกัน พร้อมใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกในการบริหารจัดการราคาก๊าซ LPG  มีมติปรับสูตรคำนวณต้นทุนก๊าซแอลพีจีให้เหมาะสม จากเดิม 333 เหรียญสหรัฐต่อตัน เป็น 488 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือ 16.11 บาทต่อกิโลกรัม โดยเป็นการเฉลี่ยจากราคาหน้าโรงกลั่น โรงแยกก๊าซ และราคานำเข้า มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.เป็นต้นไป แต่จะเริ่มส่งผลให้ราคาขายปลีกเปลี่ยนแปลงในเดือน มี.ค.และจะปรับราคาทุกเดือนตามต้นทุนตลาดโลก โดยให้ปตท.เป็นผู้รับภาระในการชดเชยผู้มีรายได้น้อยต่อไป การปรับสูตรคำนวณจะพิจารณาใหม่ทุกๆ 3 เดือน ขณะเดียวกันจะมีการแยกบัญชีจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันสำหรับแอลพีจีออกมาให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการชดเชยราคาแอลพีจี  สถานะของกองทุนน้ำมัน อยู่ที่ 17,622 ล้านบาท ซึ่งหากปรับอัตราการจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันรอบนี้ จะส่งผลให้กองทุนน้ำมันมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น 948 ล้านบาทต่อเดือน จากเดิมมีรายรับประมาณ 6,567 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 7,516 ล้านบาทต่อเดือน  ส่วนราคาน้ำมันปิดตลาดเพิ่มขึ้น 72 เซนต์  ปิดที่ 48 ดอลลาร์ 65เซนต์ต่อบาร์เรล



 +++นายไมเคิล ฮิวสัน นักวิเคราะห์แห่งบริษัทซีเอ็มซีมาร์เกต กล่าวว่าการที่โอเปคไม่แสดงสัญญาณว่าจะทำอะไรเกี่ยวกับปริมาณการผลิตที่ล้นเกิน ทำให้ดูเหมือนว่าราคาอาจไหลลงสู่ระดับ 40 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเฉพาะในกรณีที่ความต้องการไม่มีวี่แววจะเพิ่มขึ้น



+++ด้านนายซาเฮล บิน โมฮัมเหม็ด รัฐมนตรีน้ำมันสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า ชัดเจนว่ามีน้ำมันล้นเกินในตลาดที่ต้องอาศัยเวลาหลายเดือนหรือหลายปีในการดูดซับส่วนเกินออกไป แต่หากประเทศนอกกลุ่มโอเปคลดกำลังการผลิต ราคาน้ำมันอาจปรับตัวในแง่ดีในปีนี้



+++สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ต้องพิจารณาโครงสร้างต้นทุนผลิตสินค้าใหม่ทั้งหมด หลังจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศปรับลดลงลิตรละเกือบ 4 บาท มาอยู่ที่ลิตรละ 26.39 บาทแล้ว จากนั้นจะเชิญผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้ามาหารือ เพื่อขอให้ปรับลดราคาสินค้าลง ตามต้นทุนน้ำมันดีเซลที่ลดลง เพราะน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนด้านการขนส่งที่สำคัญ คาดว่าผู้บริโภคจะได้เห็นราคาสินค้าบางรายการปรับลดลงได้ภายในเดือน ม.ค. สินค้าส่วนใหญ่ที่จะมีการลดราคาตามน้ำมันดีเซลก็จะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคควบคุม 43 รายการ เป็นหลัก รวมถึงสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ติดตามดูแลอีก 205 รายการ  ให้หลักการกับกรมการค้าภายในไปแล้วว่า การจะอนุมัติให้ผู้ผลิตสินค้าปรับขึ้นหรือลดราคาสินค้าต้องเป็นไปตามกลไกตลาด ภายใต้เงื่อนไข 4 ประการคือ ต้องเป็นราคาที่เป็นธรรม ไม่มีการกักตุนสินค้า การขอปรับขึ้นราคาต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม และต้องเกิดความยุติธรรมทั้งระบบ ตั้งแต่ผู้ผลิตจนถึงผู้บริโภค



+++นางสุจินดา เชิดไชย นายกสมาคมผู้ประกอบ การรถยนต์โดยสาร เปิดเผยหลังเข้าพบพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ว่า สมาคมฯได้ยืนยันว่าผู้ประกอบการรถร่วม จะปรับลดอัตราค่าโดยสารลงกม.ละ 2 สตางค์ หลังจากราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับลดลง ที่ 26.39 บาทต่อลิตร โดยจะเริ่มปรับลดค่าโดยสารได้ครบทุกเส้นทางทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2558 เป็นต้นไป



+++ด้านนางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทเข้าไปติดต่อกรมการขนส่งทางบกเพื่อไปรับอัตราค่าโดยสารใหม่แล้ว เพื่อนำมาลงในโปรแกรมค่าโดยสารของบริษัท การประกาศปรับลดลงราคาของกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 16 ม.ค. ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม



+++มาที่ความเคลื่อนไหวทางการเมือง 10.00 น. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) นัดแถลงเปิดสำนวนถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ในความผิดคดีแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ไม่ชอบ นายนิคม จะชี้แจงต่อที่ประชุมเอง โดยจะนำเสนอข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย พร้อมทั้งพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นสำนวนเดียวกับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยพิจารณาแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของตัวเองป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด ฐานส่อว่าจงใจใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 291 ซึ่งจะนำหลักฐานที่มี เช่น บันทึกการประชุม และรายงานของกรรมาธิการในการแปรญัตติว่ามีเจตนาอย่างไร ชี้แจงให้สมาชิกสนช.ประกอบการพิจารณา มั่นใจ ไม่มีความกังวล  เช่นเดียวกับ ป.ป.ช. ส่งตัวแทนเข้าร่วมชี้แจงด้วย ขณะที่ นายสมศักดิ์ ไม่เดินทางมาชี้แจง  



+++ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณาถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เอกสารที่ส่งให้ สนช.ใช้ประกอบการพิจารณาในคำแถลงคัดค้านการถอดถอนมีความหนา 147 หน้า โดยคำชี้แจงได้เรียงลำดับความเป็นมาของโครงการรับจำนำข้าว โดยอธิบายวิธีคิดของนโยบายว่าทำไมต้องรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท และชี้แจงตอบโต้ ข้อกล่าวหาเรื่องการบิดเบือนกลไกตลาด การปล่อยให้มีการทุจริต คุณภาพข้าว ข้าวหาย การระบายข้าวแบบจีทูจี และยืนยันว่านโยบายดังกล่าวไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ไม่เสียวินัยการคลัง ไม่ขาดทุน



+++ด้านคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.มีมติไม่รับคำร้องคัดค้านของนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้เอาผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาศัยอำนาจทางการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกประกาศจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มฐานเสียงของตัวเอง และกรณีที่กลุ่มกรีนร้องคัดค้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์กรณีออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และยกคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรค ปชป. กรณีร้องคัดค้าน น.ส. ยิ่งลักษณ์ออกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยกรณีดังกล่าวแล้วว่า ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ และตอนนี้ผู้ถูกร้องพ้นสมาชิกสภาพไปแล้วเนื่องจากมีการยุบสภาจึงไม่มีประเด็นให้พิจารณาอีก



 +++นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ฐานะประธานคณะทำงานศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า คณะทำงานได้นัดประชุมเป็นนัดแรกเพื่อพิจารณาถึงกรอบดำเนินงานในวันนี้ นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการพิจารณารายมาตรา ของ กมธ.ยกร่างฯในวันที่ 12 มกราคมว่า ตามที่ระบุว่าสื่อมวลชนสามารถเข้ารับฟังได้นั้น อาจไม่ใช่ทุกครั้งไป ยังสงวนไว้สำหรับบางภาคส่วน ที่มีความละเอียดอ่อน ขอหารือเป็นการภายใน การพิจารณารายมาตรา พยายามทำในเวลาราชการ ช่วง 09.30-17.00 น. หรืออาจจะให้จบเป็นส่วนๆ ดูตามความเหมาะสม ส่วนวันพรุ่งนี้ จะพูดคุยกันภายในเพื่อเตรียมสำหรับวันที่ 12 มกราคม เรื่องกระบวนการพิจารณาของ กมธ.ยกร่างฯ หากเห็นควรแก้ไขประการใด แต่ละคนต้องทำเป็นเอกสารส่งถึงประธาน กมธ.ยกร่างฯ เพื่อให้ทุกคนทำความเข้าใจตรงกัน



+++นางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฟ้องดำเนินคดีนางพิชชาภา หรือชนาภา เอี่ยมสะอาด หรือบุญโต เจ้าหน้าที่ธุรการระดับ 5 สำนักกลยุทธ์การตลาด บมจ.อสมท. นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่ บจก.ไร่ส้ม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-4 กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 8, 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และ 91 จากกรณีบริษัทไร่ส้มกระทำการโฆษณาเกินเวลาในการจัดทำรายการคุยคุ้ยข่าว ออกอากาศทาง อสมท.ปี 2548-2549 โดยไม่ชำระค่าโฆษณาเกินเวลาให้กับ อสมท. รวมเป็นเงินกว่า 138,790,000 บาทว่า คณะทำงานอัยการ ได้ร่างคำฟ้องเสร็จสิ้น พร้อมเสนอนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุดพิจารณาเรียบร้อยแล้ว หลังจากอัยการสูงสุด มีความเห็นตามคณะทำงานร่วมอัยการและ ป.ป.ช.ว่าพยานหลักฐานพอจะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ตามข้อกล่าวหา ภายในสัปดาห์นี้สำนักงานอัยการสูงสุดจะมีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.ให้ทราบว่าอัยการพร้อมรับดำเนินคดีอาญา และให้ ป.ป.ช.แจ้งผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดทราบ และให้ ป.ป.ช.นำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมาพบอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 2 ที่รับผิดชอบคดี เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาต่อไปตามขั้นตอน ส่วนจะยื่นฟ้องคดีเมื่อใดคงต้องรอว่า ป.ป.ช.จะได้รับหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุดและดำเนินการแจ้งนัดผู้ถูกกล่าวหาให้มาพบอัยการวันใด

ข่าวทั้งหมด

X