ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม 2563

18 ธันวาคม 2563, 12:20น.


พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 3 คน สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยที่สมุทรสาคร   



           นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19



1.การสอบสวนโรค กรณีผู้ป่วยหญิงอายุ 67 ปี เจ้าของแพปลาที่ จ.สมุทรสาคร ทำงานอยู่ที่ตลาดแพกุ้ง ตอนนี้กำลังตรวจสอบหาสาเหตุของการติดเชื้อรวบรวมข้อมูลทั้งหมด และดูว่ามีใครติดเชื้อเพิ่มหรือไม่ สำหรับรายนี้ ได้ติดตามหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแล้วและมีการเฝ้าระวังอาการ



-ส่วนที่มีข่าวลือว่ามีผู้ติดเชื้อที่ตลาดทะเลไทย ไม่เป็นความจริง และข่าวที่ว่ามีผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยคนนี้เป็นร้อยคนไม่ใช่ความจริง แต่อาจจะต้องตรวจสอบหาคนที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุดจำนวนหลายร้อยคนได้ เชื่อมั่นว่า จ.สมุทรสาคร สามารถรับมือได้ เนื่องจาก ทุกฝ่ายของจังหวัดมีความเข้มแข็งในการตรวจสอบ  



          ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร  ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนโรคพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 คน ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือ



*แม่ของผู้ป่วย อายุ 95 ปี ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง



*พี่สาวคนโตของผู้ป่วย อายุ 73 ปี



*น้องสะใภ้ อายุ 57 ปี  



ทั้งหมดมีผลการตรวจพบเชื้อ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว



         มาตรการที่ดำเนินการเพิ่มเติม คือ การค้นหาตีวงในการควบคุมโรคไม่ให้แพร่ระบาด มาตรการเฝ้าระวัง พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบหากลุ่มต่างๆในตลาดที่พบผู้ป่วย ตลาดใกล้เคียง หอพักที่มีแรงงานต่างด้าวพักอยู่ รวมทั้งการสื่อสาร เน้นย้ำการป้องกันมาตรการส่วนบุคคล และอีกจุดที่สำคัญคือ สถานพยาบาล เน้นการดูแลคนที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ  



-ส่วนที่มีความกังวลเรื่องอาหารที่จะปนเปื้อนเชื้อ เนื่องจาก ผู้ป่วยทำงานในตลาดแพกุ้ง โดยเฉพาะอาหารทะเล นพ.โสภณ ชี้แจงว่า การเกิดการปนเปื้อนในอาหาร จะเกิดขึ้นในกรณีที่มีคนติดเชื้อในพื้นที่หรือชุมชนจำนวนมากมีโอกาสที่จะปนเปื้อน แต่ในกรณีของไทย พบการติดเชื้อไม่มากจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย แต่เพื่อป้องกันไว้ก่อน แนะนำให้รับประทานอาหารปรุงสุก   



2.กรณีผู้ป่วย 7 คน ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ นพ.โสภณ กล่าวว่า มีการตรวจเชื้อเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำ ไม่พบใครติดเชื้อเพิ่มเติม ถือว่า ควบคุมโรคได้แล้ว เหลือเพียงคนที่เกี่ยวข้องต้องเฝ้าดูอาการให้ครบ 14 วัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยกระดับการทำความสะอาดสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่พัก และ สถานที่ที่ใช้ร่วมกัน



3.สถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่ จ.เชียงราย ที่ลักลอบเดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และจังหวัดอื่น ๆทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ นพ.โอภาส กล่าวว่า ในวันนี้ แต่ละจังหวัดครบกำหนดในการเฝ้าระวังครบ 14 วันแล้ว ถือว่าปลอดภัย ในช่วงปีใหม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ แต่ต้องปฎิบัติตามมาตรการ  



4.ผู้ป่วยชายอายุ 70 ปี ที่ อ. แม่สอด จ.ตาก อาการทรงตัว



รมว.สธ.ย้ำต้องสรุปที่มาการติดเชื้อที่สมุทรสาครภายใน 1 สัปดาห์



          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่พบผู้ป่วยหญิงวัย 67 ปี เจ้าของแพปลาที่ จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด- 9 ใน จ.สมุทรสาครว่าขณะนี้มีการขยายผล มีการจัดวงผู้สัมผัสสูง สัมผัสกลาง และสัมผัสต่ำ แต่อาจจะต้องมีการตรวจสอบจำนวนมากอาจถึง10,000คน

          นายอนุทิน มองว่า ผู้ป่วยรายนี้คงไม่ใช่การหลุดรอด แต่ข้อสันนิษฐานก็คือ มีการไปสัมผัสกับแรงงานต่างด้าวที่ทำการประมงอยู่ในพื้นที่ ได้กำชับให้อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ต้องสรุปจบปิดเคสนี้และสรุปที่มาการติดเชื้อให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ เพราะประชาชนจะได้ไม่กังวลใจในช่วงเทศกาลปีใหม่ และภายใน 1-2 วันนี้ จะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์เอง



รัฐนิวเซาท์เวลส์ ให้ปชช.อยู่บ้าน พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน 



          รัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย รณรงค์ให้ประชาชน 250,000 คน ในอำเภอนอร์ทเทิร์น บีชเชส เมืองซิดนีย์ อยู่บ้านจากวันนี้ไปจนถึงวันจันทร์หน้าเพื่อลดโรคโควิด-19 งดการเดินทางไปยังรัฐอื่นๆ ขอให้คนที่มีอาการไข้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจโรคหลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อวานนี้ มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รวม 17 คน มากที่สุด หลังจากเมื่อ15วันที่แล้ว พบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวเพียงคนเดียว



          ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เร่งหาต้นตอการแพร่ระบาดระลอกนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย คาดว่า สามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่อยู่ระหว่างรอผลตรวจโรคโควิด-19 ละเมิดมาตรการกักกันตนในบ้าน อาจจะเป็นผู้แพร่เชื้อไวรัสไปให้คนอื่นๆ หากผลตรวจพบว่า สามีภรรยาคู่ดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19  คาดว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาจจะพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก การพบการระบาดแบบกลุ่มก้อนระลอกใหม่เช่นนี้ ทำให้ประชาชนทั่วประเทศไม่สบายใจ



          รัฐบาลท้องถิ่นหลายเมืองในพื้นที่ใกล้เคียงเตือนประชาชนให้เลี่ยงการเดินทางไปที่เมืองซิดนีย์ กำชับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถประจำทางและรถไฟ หรือเมื่อไปสถานที่ที่คนแน่น เช่น ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต 



          ขณะเดียวกัน หลายคนยังไม่สามารถวางแผนการเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ได้ เนื่องจากไม่รู้ว่า ภาครัฐจะมีมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่หรือไม่



          ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลีย ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมื่อช่วง 2-3 เดือนที่แล้ว อนุญาตให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติหลังคุมการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ในเมืองเมลเบิร์นได้สำเร็จ ออสเตรเลีย มีผู้ป่วยสะสม 28,000 คน เสียชีวิต 908 ราย



คนที่ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2 ที่ได้รับ SMS "ลงทะเบียนไม่สำเร็จ" ต้องลงทะเบียนใหม่



          น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง กรณีผู้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2 ที่ได้รับSMSว่าลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลไม่ถูกต้อง โปรดลงทะเบียนใหม่ ว่าผู้ที่ได้รับข้อความดังกล่าวถือว่าไม่ผ่านการตรวจสอบข้อมูล เพราะระหว่างการลงทะเบียนอาจมีการพิมพ์ข้อมูลไม่ตรงกับที่มีอยู่ในระบบ เช่น การพิมพ์ชื่อ นามสกุลผิด กรอกตัวเลขบัตรประชาชน หรือรหัสหลังบัตรไม่ถูกต้อง รวมถึงอาจใส่วัน เดือน ปีเกิดไม่ตรงกับข้อมูลที่ระบุไว้ในบัตรประชาชน



         อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทะเบียนที่พิมพ์ข้อมูลไม่ตรงและได้รับSMS ดังกล่าว จะยังไม่เสียสิทธิและมีโอกาสลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งใหม่ หากมีการเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่ม หากใครที่รับข้อความว่าลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลไม่ถูกต้อง ก็จะต้องรอมาลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันที่จะเปิดลงทะเบียน เพราะต้องรอพิจารณารายละเอียดก่อน



         ส่วนคนที่ได้รับ SMS ยืนยันว่า ได้รับสิทธิแล้ว จะต้องดาวน์โหลดพร้อมติดตั้งแอปพลิเคชัน เป๋าตัง และยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิตามโครงการและเริ่มต้นใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.2564



จับแล้ว!ทุจริต"คนละครึ่ง"รายแรก ร้านค้าย่านมหาชัย



          หลังจากที่กระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยความผิดปกติโครงการคนละครึ่ง ซึ่งมีทั้งร้านค้า-ผู้เข้าร่วม กว่า 700 ราย เข้าข่ายทุจริตในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่เป็นรูปแบบทำตามซ้ำๆกัน ,แบบการทดลองทำ และแบบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบพบในระบบของธนาคาร และประชาชนร้องเรียนมากระทรวงการคลัง ประสานกับตำรวจเฝ้าจับตาพฤติกรรมเหล่านี้มาโดยตลอด



          พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เป็นผู้รับผิดชอบสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเหล่านี้ เบื้องต้นจะดำเนินคดีคล้ายกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เนื่องจาก พฤติการณ์กระทำความผิดเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกง เป็นคดีที่สามารถยอมความได้ หากผู้เสียหายยินยอม อย่างไรก็ตาม ต้องดูในรายละเอียดด้วยว่า พฤติกรรมการกระทำความผิดของผู้ที่เข้าข่ายทุจริต แต่ละรายเป็นอย่างไร มีเจตนามากน้อยเพียงใด



          ขณะที่ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. เปิดเผยว่า คดีนี้กระทรวงการคลังในฐานะผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว หลังพบผู้กระทำความผิดกว่า 700 ราย ฝ่ายสืบสวนมีการจับกุมผู้กระทำผิดได้แล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นร้านค้าในพื้นที่ย่านมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร หลังพบว่ามีการทำเป็นขบวนการในการทุจริต มีผู้ที่เกี่ยวข้องแบ่งเป็น 3 ฝ่าย คือ ร้านค้า,คนชักชวนและประชาชนที่ร่วมการกระทำความผิด



          ส่วนความเสียหายยอมรับว่าไม่มาก เพราะธนาคารตรวจพบความผิดปกติได้ก่อน จึงสั่งอายัดเงินไว้ได้ทัน อย่างไรก็ตาม สำหรับรายละเอียดการจับกุมทั้งหมด จะมีการแถลงชี้แจงรายละเอียดอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีจากตัวแทนกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย ร่วมแถลงชี้แจงด้วย

ข่าวทั้งหมด

X