สมุทรสาครพบเจ้าของแพปลาติดโควิด-19 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 18 คน
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ยืนยันว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 1 คนเป็นหญิงไทยอายุ 67 ปี มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 18 คน โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 6 คน
โดยเจ้าของแพปลารายนี้เริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 โดยมีอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาชัย และเมื่อมีผลการตรวจยืนยันโรงพยาบาลจึงแจ้งผู้ป่วยและนำส่งไปที่ รพ.สมุทรสาครเพื่อกักตัว เจ้าหน้าที่และหน่วยงานสาธารณสุข อยู่ระหว่างสอบสวนโรค
จังหวัดสมุทรสาครจึงให้ปิดตลาดกุ้งเพื่อทำความสะอาด 1 วันและปิดแพปลาเพื่อทำความสะอาด 3 วัน
นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 18 คนประกอบไปด้วยบุคคลในครอบครัว ในสถานประกอบการ และสถานพยาบาล เบื้องต้นมีผลเป็นลบ 10 คน รอผลอีก 6 คน ส่วนอีก 2 คนกำลังติดตามตัว เป็นคนงานชาวเมียนมา
ธปท.ยืนยันไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า
กรณีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานการประเมินนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ ฉบับล่าสุด (16 ธ.ค.) ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในรายชื่อประเทศที่ต้องเฝ้าติดตาม (Monitoring List) เนื่องจากเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมากกว่าร้อยละ 2 ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ โดยมีคู่ค้า 10 ประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมนี อิตาลี สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ไทย และอินเดีย
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าระหว่างประเทศ การที่ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องเฝ้าติดตาม ไม่มีนัยสำคัญต่อธุรกิจที่มีการค้าการลงทุนกับสหรัฐฯ ภาคธุรกิจไทยและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินธุรกิจกันตามปกติ ไม่กระทบต่อการดำเนินนโยบายเพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินภายในประเทศ รวมถึงการดูแลเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ของธนาคารกลางและความจำเป็นของสถานการณ์ ยืนยันว่า ธปท.มีการสื่อสารและทำความเข้าใจกับทางการสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและแนวทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจการเงินของไทย รวมถึงสร้างความมั่นใจกับสหรัฐฯว่าไทยดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่นและจะเข้าดูแลค่าเงินบาทเมื่อมีความจำเป็นเพื่อชะลอความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้รุนแรงเกินไปทั้งในด้านแข็งค่าและอ่อนค่า
ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นเอกชนโต 7 เดือนติด
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในเดือนพฤศจิกายน 2563 อยู่ที่ระดับ 87.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 86.0 ในเดือนตุลาคม โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากคำสั่งซื้อ ยอดขาย และปริมาณการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการต่างๆ อาทิ โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกัน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเงินช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งการใช้จ่ายภาครัฐในโครงการลงทุนต่างๆ
คลังเตรียมเปิดเก็บตก 'คนละครึ่ง' อีก 400,000 สิทธิ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าโครงการ "คนละครึ่ง" ซึ่งมีเป้าหมายกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก มีประชาชนเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก แต่เนื่องจากในเฟสแรกมียอดสิทธิที่เหลืออยู่ประมาณ 400,000 สิทธิและในเฟสที่ 2 อาจมีผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์จำนวนหนึ่ง จึงจะนำมารวมกันเพื่อเปิดรับสมัครอีกครั้งในรอบเก็บตก
ส่วนในเฟสที่ 3 และ เฟสที่ 4 กระทรวงขอดูผลในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 ก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยยังต้องพึ่งพาการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนภายในประเทศ หากมีการใช้จ่ายมากขึ้น ก็จะฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วยิ่งขึ้น
เฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับร้อยละ 0.00-0.25 ในวันนี้ (17 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปีนี้ พร้อมยืนยันว่า จะใช้เครื่องมือทั้งหมดเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ให้มีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเหนือระดับเป้าหมายร้อยละ 2
โดยมีความเห็นว่าโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และเงินเฟ้อในระยะสั้น และทำให้เกิดความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง
หุ้นไทยปิดตลาดบวก 1.80 จุด
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ เคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯที่ให้คงอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับกระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าประเทศไทยต่อเนื่อง เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าแตะระดับ 29.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่ง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดตลาดวันนี้ที่ 1,483.89 จุดเพิ่มขึ้น 1.80 จุดมูลค่าการซื้อขาย 112,756 ล้านบาท
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ที่ 26,678.38 จุด เพิ่มขึ้น 218.09 จุด
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดระดับ 26,806.67 จุด เพิ่มขึ้น 49.27 จุด
……..