ก่อนการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า มาตรการมีอยู่แล้ว แต่ปัญหาเกิดขึ้นเพราะคนไม่ทำตาม อย่าลืมว่าทุกการจัดกิจกรรมต้องมีการขออนุญาตโดยเฉพาะงานที่มีคนมาร่วมจำนวนมาก ซึ่งผู้จัดงานต้องเสนอขั้นตอนทุกอย่าง ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ก็ต้องดูข้อเสนอและไปเทียบกับระเบียบที่ตั้งเอาไว้ หากอยู่ในระเบียบ ก็อนุญาตอยู่แล้ว ที่เป็นปัญหาคือการทำนอกกรอบ ไม่เป็นไปตามที่อนุมัติไว้ ดังนั้น ถ้าทุกคนทำตามที่ขอไว้ก็จะไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งนั้น
สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่จะต้องมีมาตรการคุมเข้มมากกว่าเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่างพอสมควร ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว ตนเชื่อว่าทุกคนมีสัญชาตญาณที่จะป้องกันเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะเข้าใจมาตรการป้องกันกันอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนยืนยันว่าทุกกิจกรรมในช่วงปีใหม่สามารถดำเนินไปได้ตามปกติ โดยผู้จัดต้องขออนุญาตและส่วนใหญ่ก็จะอนุญาตอยู่แล้ว
นายอนุทิน ยังย้ำถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนขณะนี้ว่าไม่ต้องห่วง เพราะไม่มีการลักลอบเข้ามา หากลักลอบเข้ามาก็จับได้หมด และเชื่อว่า มาตรการกักตัว 14 วัน จะทำให้ทุกคนปลอดภัย และเชื่อว่าจะไม่มีคนลักลอบเข้ามา เพราะหากลักลอบเข้ามาก็จะเป็นคนที่แย่ ซึ่งขณะนี้ได้รายชื่อผู้ที่ลักลอบเข้ามาและทำความเข้าใจหมดแล้ว ในส่วนของจังหวัดท่าขี้เหล็ก ไม่มีอะไรน่ากังวลอีกต่อไป เพราะฝ่ายความมั่นคงก็สามารถจับผู้ลักลอบเข้าประเทศได้ตลอดเวลา
ส่วนจะนับเป็นการถอดบทเรียนกรณีคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เทน ที่จ.นครราชสีมา หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่เป็นบทเรียน แต่บทเรียนคือการไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ทำผิดขั้นตอน อย่าทำนอกเหนือที่ขออนุญาตไว้ ซึ่งสาธารณสุขทำตามหน้าที่ ยกตัวอย่างเมื่อมีการประกาศให้งดจัดกิจกรรม แต่ยังจัดอยู่ หากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการ อยากถามว่าใครผิด เจ้าหน้าที่ก็มีความผิดอีก เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีทางเลือก เพราะทำให้การทำงานลำบากยิ่งขึ้น ดังนั้น ทุกคนต้องทำตามกฎหมายและเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็ไม่ถือว่าเป็นบทเรียนและไม่ควรมีอะไรจดจำ