ความคืบหน้าด้านนโยบายป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือ โควิด-19 ในสหภาพยุโรป นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ อียู แถลงต่อที่ประชุมสภายุโรป เมื่อวันพุธ เชิญชวนสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ ให้เริ่มฉีดวัคซีนวันเดียวกัน เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของความเป็นเอกภาพภายในภูมิภาคด้วย ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในกลุ่มประเทศสมาชิก ยังพบว่า ประชาชนอย่างน้อยร้อยละ 70 ในทวีปยุโรป ต้องได้รับวัคซีนป้องกัน เพื่อให้ภารกิจตอบสนองต่อวิกฤตด้านสาธารณสุขครั้งนี้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นับเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในทวีปยุโรป ซึ่งมีเกือบ 450 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ สำนักงานอีเอ็มยู ซึ่งมีอำนาจโดยตรงในการตรวจสอบ อนุมัติ และแจกจ่ายผลิตภัณฑ์ด้านการแพทย์และการสาธารณสุขในภูมิภาค มีกำหนดประชุมในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค. เพื่อพิจารณาออกใบรับรอง "เฉพาะกิจ" ให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯ ร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี
ด้านกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนี คาดการณ์ การเริ่มแจกจ่ายวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.นี้ หากวัคซีนผ่านการรับรองจากอีเอ็มยู โดยบุคลากรทางการแพทย์และผู้สูงอายุจะได้รับการป้องกันเป็นกลุ่มแรก
ส่วนฝรั่งเศส นายฌ็อง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวว่า หากวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ได้รับการอนุมัติจากอีเอ็มยู รัฐบาลปารีส ตั้งเป้าในเบื้องต้นว่าจะสามารถแจกจ่ายให้แก่ประชาชน ตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธ.ค.นี้ โดยจะเริ่มจากบุคลากรทางการแพทย์ก่อน ส่วนประชาชนทั่วไปกลุ่มแรกราว 14 ถึง 15 ล้านคน น่าจะได้รับวัคซีนระหว่างเดือนมี.ค.ถึงมิ.ย.ปีหน้า
CR: Twitter: Ursula von der Leyen