นายโลธาร์ วีเลอร์ (Lothar Wieler) ประธานสถาบันโรแบร์ต คอก ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลเยอรมนีในการควบคุมโรคติดเชื้อ เปิดเผยว่ารัฐบาลเยอรมนีประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติม คือ ปิดโรงเรียนและธุรกิจ เช่น ร้านตัดผมและร้านค้าที่มีการเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผลตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 10 มกราคมปีหน้า หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเยอรมนีพบผู้ป่วยรายใหม่ 27,728 คนและมีผู้เสียชีวิตอีก 952 รายในรอบ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งรณรงค์ให้บริษัทเอกชนอนุญาตให้คนงานทำงานที่บ้าน คาดว่ามาตรการล็อกดาวน์จะช่วยทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงต้นปีหน้า
แต่รัฐบาลเยอรมนียังคงอนุญาตให้ธุรกิจบางกลุ่ม เช่นร้านซูเปอร์มาเก็ต และธนาคาร เปิดให้บริการตามปกติ พร้อมทั้งจะผ่อนผันมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส อนุญาตให้ครอบครัวเจ้าภาพที่จัดงานฉลองวันคริสต์มาสสามารถเชิญสมาชิกในบ้านของญาติหรือเพื่อนบ้านที่สนิทกัน 4 คนมาร่วมงานเลี้ยง ก่อนหน้านี้ เยอรมนีสั่งปิดร้านอาหาร บาร์และศูนย์นันทนาการบางแห่ง เช่น สวนสาธารณะและสวนสนุก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พร้อมทั้งมีการล็อกดาวน์บางท้องที่ เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขณะที่เพื่อนบ้านอื่นๆในยุโรปต่างประกาศมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดมากขึ้น เช่นฝรั่งเศสประกาศมาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากบ้านระหว่างเวลา 20.00 น.-06.00 น.จากวันนี้ไปจนถึงวันสิ้นปีนี้ ห้ามประชาชนออกจากบ้านโดยไม่กรอกแบบฟอร์มแสดงเหตุผลกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พร้อมทั้งปิดร้านอาหารและบาร์ไปจนถึงวันที่ 20 มกราคมปีหน้า
ในปัจจุบัน เยอรมนีมีผู้ป่วยสะสม 1,378,518 คน เสียชีวิต 23,692 ราย ขณะที่ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยสะสม 2,391,447 คน เสียชีวิต 59,072 ราย
...
Cr: BBC