การดำเนินคดีบุคคลที่มีพฤติกรรมและธุรกรรมเข้าข่ายทุจริตในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยทำเป็นขบวนการ เป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้ได้รับสิทธิกับผู้ประกอบการโรงแรมและร้านค้าที่ร่วมในโครงการรวม 514 แห่ง นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษและหลักฐานต่างๆ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เป็นผู้รับเรื่อง
ผู้ว่าฯททท.เปิดเผยว่า พฤติกรรมและธุรกรรมที่เข้าข่ายต้องสงสัยมี 6 รูปแบบ คือ
1.มีการเปิดเช็คอินโรงแรมในราคาถูก แต่ไม่มีการเข้าพักจริง
2.โรงแรมขึ้นราคาห้องพักสูงเกินจริงและรู้เห็นกับร้านค้าหรือร้านอาหารที่รับชำระคูปอง มีการขายสิทธิกัน เพราะมีการปลดล็อกเงื่อนไขให้ใช้สิทธิท่องเที่ยวในภูมิลำเนาได้
3.โรงแรมที่ปิดตัวและยังไม่เปิดดำเนินการ กลับเปิดรับลงทะเบียนและขายห้องพักตามปกติ ซึ่งมีการจองผ่านโรงแรมโดยตรงและจองผ่านตัวแทนออนไลน์
4.มีการใช้ส่วนต่างของ E-Coupon เพื่อรับส่วนต่างเต็มจำนวน กรณีร้านค้าเพิ่มราคาค่าอาหารมากกว่าเดิม
5.มีการเข้าพักแบบกรุ๊ปเหมา โดยตั้งห้องพักราคาสูงและรับเงินส่วนต่างที่ตกลงกันไว้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างโรงแรมและผู้เข้าพัก
6.โรงแรมที่เปิดขายห้องพักเกินจำนวนจริง เช่น มีห้องพักจริง 100 ห้อง แต่เปิดขาย 300 ห้อง แล้วนำส่วนที่จองเกินมา ไปขายต่อให้กับโรงแรมอื่นเพื่อรับประโยชน์ส่วนต่าง
จากการทุจริต พบว่า มีพฤติกรรมและธุรกรรมน่าสงสัยว่าจะทุจริตรวม 514 แห่ง เป็นโรงแรม 312 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดเล็ก แต่ก็มีโรงแรมขนาดใหญ่ด้วย และมีร้านค้า 202 แห่ง พฤติกรรมที่พบมากที่สุดคือกลุ่มที่ 1 และ 2 ซึ่งข้อมูลพฤติกรรมและธุรกรรมที่เข้าข่ายทุจริต ธนาคารกรุงไทย เป็นผู้รวบรวมให้ เนื่องจากเป็นการทำธุรกรรมทางออนไลน์จึงสามารถตรวจสอบข้อมูลได้อยู่แล้ว และหากเจ้าหน้าที่สืบสวนพบการกระทำผิดจริงก็ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า จะมอบหมายให้กองบังคับการปราบปราม เป็นผู้ดูแลในเบื้องต้นและจะเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนในนามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พนักงานสอบสวนทั่วประเทศในพื้นที่ที่เกิดเหตุสืบสวนดำเนินคดีต่อไป โดยจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งร้านค้า โรงแรม ผู้ประกอบการและประชาชนที่เข้าร่วมขบวนการทุจริต
ขณะที่ ททท.จะตัดชื่อและขึ้นแบล็กลิสต์ผู้ประกอบการทุกรายที่ทุจริต จากนั้นจะเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัดโอกาสการเข้าร่วมโครงการช่วยเหลืออื่นๆของรัฐในอนาคต ส่วนห้องพักในโครงการอีก 1,000,000 ห้อง ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติเพิ่มให้ เดิมจะเปิดให้เริ่มจองได้ในวันที่ 16 ธ.ค.2563 จะเลื่อนออกไปก่อนจนกว่าจะอุดรูรั่วที่เกิดขึ้นได้ เพื่อป้องกันการทุจริตเพิ่มเติม