นายกฯ ขอความร่วมมือลดฝุ่น PM2.5
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayuth Chan-o-cha" ถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า ในช่วงนี้ของทุกปีประเทศไทยจะมีปัญหาฝุ่นPM10 และ PM2.5 ซึ่งเกิดจากไอเสียรถยนต์ การเผาขยะเผาเศษวัสดุภาคเกษตรกรรม และควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ประกอบกับสภาพอากาศปิด ไม่มีลม เป็นสิ่งที่เราต้องประสบกันมานาน และมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และทุกรัฐบาลก็พยายามแก้ไข ทั้งถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องมีความร่วมมือระหว่างประเทศ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน
คาดฝุ่นPM2.5 ปกคลุมกทม.อีก 2-3 วัน
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 วันนี้คือตั้งแต่วันนี้ (14 ธ.ค.) ไปจนถึงวันที่ 17 ธ.ค. สภาพทางอุตุนิยมวิทยามีข้อจำกัดในเรื่องการหมุนเวียนของอากาศโดยเฉพาะความกดอากาศ ลม การยกตัวของมวลอากาศจะมีข้อจำกัดมากทำให้อากาศในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีความนิ่ง ดังนั้นมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดต่างๆเช่นรถยนต์ รถบรรทุก การเผาในที่โล่งโดยรอบกรุงเทพ จะทำให้เหมือนกับกรุงเทพฯมีฝาชีครอบอยู่ จนมีมลพิษทางอากาศในบางจุดที่สูงมาก จึงขอความร่วมมือกรมการขนส่งทางบก กทม. กรมควบคุมมลพิษ ช่วยกันตรวจสอบรถควันดำ โดยเฉพาะรถบรรทุกเล็ก และรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันดีเซล เพื่อการตรวจแจ้งเตือนและตรวจจับ
ปลัดสธ.แนะประชาชนตรวจสอบค่าฝุ่น PM2.5 ก่อนออกนอกบ้าน
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) สูงเกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนตรวจสอบติดตามสภาพอากาศและค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ก่อนออกนอกบ้าน หากพบว่าเป็นระดับสีแดง ควรลดหรืองดการทำกิจกรรมนอกบ้าน หากมีความจำเป็นต้องออกมาภายนอก ต้องสวมหน้ากากตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และลดผลกระทบจากฝุ่น สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หากมีอาการเคืองตา ตาแดง คันหนังตา มีผื่นแดง ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือสำหรับล้างตา สังเกตอาการ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวีด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์
คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เห็นชอบมาตรการ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” ลดอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ 64
คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เห็นชอบแนวทางลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” โดยเน้น 3 มาตรการคือห้ามขายอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ลดแลกแจกแถม และห้ามโฆษณา สามารถจัดงานรื่นเริงปีใหม่ได้ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันโควิด-19 คัดกรองวัดไข้ เว้นระยะห่างและสแกนไทยชนะ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หากเกิดอุบัติเหตุจะมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ทุกราย หากเป็นเด็กและเยาวชนดื่มแล้วขับ จะเอาผิดถึงผู้ขายด้วย และนำไปสู่การคุมประพฤติและบำบัดรักษาตามที่ศาลสั่ง
ยืนยันว่าช่วงปีใหม่จัดงานรื่นเริงได้ แต่ต้องขออนุญาตและเสนอแผนมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา หากมีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องมีใบอนุญาตขายจากกรมสรรพสามิต การจัดงานต้องปฏิบัติตามมาตรการที่เสนอ ทั้งการคัดกรองวัดไข้ และให้คนเมาเข้าร่วมงาน การสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และลงทะเบียนไทยชนะ หากพบว่าไม่ดำเนินการตามมาตรการจะสั่งระงับการจัดงาน ส่วนนักดื่มต้องระวังโรคโควิด-19 เนื่องจากความมึนเมาอาจทำให้หยิบแก้วปะปนกันหรือสัมผัสละอองฝอยจากการพูดคุยตะโกนใส่กัน
โควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจร้านค้าในสหรัฐฯ ปิดตัวกว่า 100,000 ร้าน
สถาบันวิจัยคอร์ไซต์ ในสหรัฐฯเปิดเผยผลการวิจัยที่พบว่าตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงขณะนี้ มีร้านค้าปลีก 8,400 ร้านและร้านอาหารกว่า 110,000 ร้านในสหรัฐฯต้องปิดตัวลง เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และคาดว่าจำนวนร้านค้าปลีกที่ปิดกิจการในปีนี้จะทำลายสถิติของปีที่แล้วที่มีร้านค้าปลีก 9,302 ร้านต้องปิดตัวลง และมีอีกหลายพันแห่งอยู่ในภาวะที่ใกล้จะต้องปิดตัวลง
ญี่ปุ่นออกพันธบัตรล็อตใหม่มากกว่า 112 ล้านล้านเยน เพื่อระดมทุนรับมือโควิด
รัฐบาลญี่ปุ่น เตรียมออกพันธบัตรล็อตใหม่มูลค่ามากกว่า 112 ล้านล้านเยน (ประมาณ 32 ล้านล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2563 เพื่อระดมทุนไปใช้ในการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พันธบัตรล็อตใหม่นี้ มีมูลค่าสูงกว่าพันธบัตรในปี 2552 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 52 ล้านล้านเยน (ประมาณ 15 ล้านล้านบาท) เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินโลก ซึ่งทางการญี่ปุ่นชี้แจงว่ามีความจำเป็นที่จะต้องออกพันธบัตรมูลค่าสูง เนื่องจากรัฐบาลมีรายได้จากภาษีลดลงกว่า 8 ล้านล้านเยน และรัฐบาลมีหนี้สาธารณะสูงกว่า 1,100 ล้านล้านเยน หรือมากกว่า 200% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ณ สิ้นปีงบประมาณ 2562 ซึ่งถือเป็นตัวเลขหนี้สาธารณะที่ย่ำแย่ที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว
ปิดตลาดหุ้นไทยลบ 6.54 จุด
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นไทยในวันนี้ผันผวนในแดนบวกและลบ โดยช่วงเช้าบวกกว่า 10 จุดตอบรับปัจจัยบวกการอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 จากนั้นปรับตัวลงมาในแดนลบเนื่องจากมีข่าวลือเรื่องผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศจำนวนมาก จนกระทั่งศบค.ปฏิเสธข่าวลือ
โดยในวันนี้ดัชนีปิดตลาดที่ 1,476.13 จุดลดลง 6.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 107,352 ล้านบาท
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดที่ 26,389.52 จุด ลดลง 116.35 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19
…