มาเลเซีย เผยคนงานโรงงานท็อป โกลฟ เสียชีวิตรายแรกจากโรคโควิด-19

          บริษัทท็อป โกลฟ ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ของมาเลเซีย เปิดเผยว่า คนงานชาวเนปาลวัย 29 ปีคนหนึ่งจากโรงงานในเมืองคลัง ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ 13 ธ.ค.2563 หลังติดโรคโควิด-19 นับเป็นรายแรกที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มีอาการปอดบวมและพังผืดเกาะที่ปอด คนงานรายดังกล่าวทำงานในโรงงานแห่งนี้มากว่า 2 ปีแล้ว

          ด้านแหล่งข่าวคนงานหลายคน เปิดเผยว่า ขณะทำงานในโรงงาน เป็นเรื่องยากที่จะปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค เช่น การเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย ไม่มีการบังคับใช้มาตรการนี้อย่างจริงจังเท่าที่ควร ขณะเดียวกันที่หอพักของคนงาน เจ้าหน้าที่พบว่าคนงานอยู่กันอย่างแออัด บางห้องมีคนงานพักรวมกันมากถึง 20 คน

          ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเลเซีย ตรวจพบการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนครั้งแรกทั้งในโรงงานและหอพักของแรงงานเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2563 มีคนงานติดโรคโควิด-19 กว่า 5,000 คน การตรวจคัดกรองดังกล่าวมีขึ้นหลังบริษัทออกกฎให้แรงงานทุกคนที่เป็นชาวต่างชาติเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนขึ้นเครื่องบินเพื่อกลับบ้าน การพบการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนเช่นนี้ ทำให้รัฐบาลมาเลเซียสั่งปิดโรงงานชั่วคราว 28 แห่งจากทั้งหมด 41 แห่งทั่วมาเลเซียเมื่อเดือนก่อน พร้อมทั้งเร่งตรวจคัดกรองในกลุ่มคนงานและให้กลุ่มเสี่ยงกักกันเฝ้าระวัง 14 วัน

          สำหรับโรงงานของบริษัทท็อป โกลฟ มีคนงานราว 21,000 คน ผลิตถุงมือยาง 90,000 ล้านชิ้นต่อปี ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มสูงถึงร้อยละ 400 ในปีนี้ เนื่องจาก หลายประเทศทั่วโลกเร่งจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกัน หลังโรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบัน มาเลเซียมีผู้ป่วยสะสม 83,475 คน เสียชีวิต 415 ราย

Cr: Reuters,SCMP, US News & World Report