ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2563

พร้อมให้ประชาชนลงทะเบียน'คนละครึ่ง' เฟส 2

          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ที่มีเป้าหมายให้สิทธิอีก 5,000,000 คน และเริ่มให้ลงทะเบียน ตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันที่ 16 ธ.ค.2563 ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com และให้ผู้ได้รับสิทธิเฟสแรก 10,000,000 คน เริ่มกดปุ่มยืนยันได้รับสิทธิเพื่อรับเงินเพิ่มอีก 500 บาทต่อคน ให้เต็ม 3,500 บาท เท่ากับเฟส 2 และในวันนี้ นายอาคม จะแถลงชี้แจงย้ำอีกครั้ง

          รายงานข่าวจากธนาคารกรุงไทย ระบุว่า ขณะนี้ระบบการลงทะเบียนให้สิทธิคนละครึ่งเฟส 2 ได้มีการเตรียมความพร้อมในสองเรื่องดังกล่าวแล้ว ขอให้มั่นใจว่าระบบลงทะเบียนทั้งยืนยันสิทธิและลงทะเบียนใหม่ จะสามารถรองรับได้ทั้งหมด แต่ไม่อาจประเมินได้ว่ายอดลงทะเบียนจะเต็ม 5,000,000 สิทธิภายในกี่ชั่วโมงหรือกี่วัน แต่ยอมรับว่าประชาชนตื่นตัวที่จะลงทะเบียนเฟส 2 มากกว่าเฟสแรกแน่นอน

CR: www.คนละครึ่ง.com

'จุรินทร์' สั่งการทูตพาณิชย์ทำงานเชิงรุกเร่งส่งออก สั่งย้ายแน่ถ้าไม่มีผลงาน

          นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เตรียมเรียกประชุมเพื่อมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลก ในรูปแบบประชุมทางไกล เพื่อให้เข้าใจตรงกันถึงนโยบายในการทำงานและการขับเคลื่อนการส่งออกของประเทศ ที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการทำงานต้องไม่หยุดนิ่ง และเตรียมพร้อมหลังโควิด-19 คลี่คลาย จากการมีวัคซีน ที่ต้องปรับแผนการทำงานเป็นเชิงรุกเข้าถึงผู้ซื้อทันที โดยดูผลจากตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นหรือไม่ ขายสินค้าเพิ่มเติมแค่ไหน แก้ไขปัญหาอุปสรรคการส่งออกได้ทันเหตุการณ์ ส่งเสริมผู้ประกอบการหรือแนะนำการเจาะตลาดได้มากน้อยแค่ไหน จะไม่ใช่แค่ทำรายงานข้อมูลการค้า ตอนนี้สถานการณ์การค้าเปลี่ยนเร็วมาก ทุกประเทศรุกหนัก ทำแบบเดิมๆไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน  

          นายจุรินทร์ กล่าวว่า หากทูตพาณิชย์ทำไม่ได้หรือไม่ทำ ให้เดินทางกลับ ไม่ต้องรอให้อยู่ครบเทอม ทำแบบนี้เพื่อไม่ให้ประเทศเสียหาย เสียประโยชน์ หรือหากอธิบดีไม่กำกับดูแลก็ต้องพิจารณาการทำงานของอธิบดีด้วย

          ในวันนี้ นายจุรินทร์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมท่าเรือคลองเตย กรุงเทพฯ เพื่อหาแนวทางลดปัญหาขาดแคลนตู้สินค้าและอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กำลังมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในปัจจุบันและช่วง 3-4 เดือนจากนี้

สศช.ชี้ปีหน้าต้องพึ่งพาศก.ในปท.ปัจจัยเสี่ยงคือเรื่องสงครามการค้า

          นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2564 ประเมินว่าช่วงครึ่งแรกปี 2564 ยังต้องอาศัยเศรษฐกิจในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนไปข้างหน้า ทำให้มาตรการที่ออกมาเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศระยะถัดไปยังต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยต้องติดตามปัจจัยการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ว่าจะมีประสิทธิภาพมากหรือน้อยเพียงใด รวมถึงประเมินสถานการณ์ในต่างประเทศด้วย จึงยังไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางได้มากนัก

          เลขาฯสศช. ระบุว่า ปี 2564 จะเป็นปีที่ต้องกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเอกชน รวมถึงต้องพยายามดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เป็นตัวช่วยปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น   

          สำหรับความเสี่ยงในปี 2564 นอกจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่ต้องติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดแล้วยังต้องติดตามนโยบายของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น นโยบายของสหรัฐฯ ในส่วนของสงครามการค้า (เทรดวอร์) ที่แม้มีประธานาธิบดีคนใหม่แล้วแต่ก็ต้องติดตามว่าจะมีความเข้มข้นในนโยบายมากหรือน้อยอย่างไร รวมถึงการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ (เบร็กซิท)