นายยาซุโทชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าคณะอนุกรรมการที่รับผิดชอบมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาลญี่ปุ่น เสนอแนะให้รัฐบาลสั่งระงับโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชื่อโครงการ Go To Travel ในบางท้องที่ของประเทศญี่ปุ่น หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบ ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะจำนวนเตียงคนไข้ ของโรงพยาบาลต่างๆอาจจะไม่เพียงพอรองรับคนไข้ที่เพิ่มขึ้น
คณะอนุกรรมการฯขอให้รัฐบาลคุมเข้มเรื่องมาตรการควบคุมโรคต่อไป เช่น การขอให้ร้านอาหารที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ปรับลดชั่วโมงการเปิดให้บริการให้สั้นกว่าปกติ โดยเฉพาะพื้นที่ ที่พบการแพร่ระบาดมาก คณะผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขของญี่ปุ่นมองว่าที่ผ่านมา มาตรการควบคุมโรคของภาครัฐ ยังไม่มีประสิทธิภาพในการลดการแพร่ระบาดเท่าที่ควร ตั้งข้อสังเกตว่า พื้นที่ซึ่งไม่เคยพบผู้ป่วยแบบกลุ่มก้อนมาก่อน เช่น จังหวัดฮิโรชิมา,โคจิและจังหวัดฟูกูโอกะ ขณะนี้เริ่มพบผู้ป่วยแบบกลุ่มก้อนมากขึ้น เตือนสาธารณชนให้เลี่ยงการเดินทางไปในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี เพื่อลดการแพร่ระบาด
ขณะเดียวกัน รัฐบาลนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะ ต้องการจะเดินหน้าโครงการต่อไป วางแผนจะใช้งบสำรอง 311,930 ล้านเยนเพื่อขยายโครงการนี้ต่อไป หลังสิ้นสุดโครงการในเดือนมกราคมปีหน้า ภายใต้โครงการนี้ซึ่งเริ่มเปิดตัวเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม รัฐบาลจะช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายการเดินทางคนละครึ่งสำหรับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ แต่กำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายไม่เกิน 20,000 เยนต่อคนต่อคืน และไม่เกิน 10,000 เยนต่อคนสำหรับการเดินทางช่วงกลางวัน รวมทั้งค่าที่พักและค่าเดินทาง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นหลังซบเซามาตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดในญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปีนี้
ในปัจจุบันญี่ปุ่นมีผู้ป่วยสะสม 168,573 คน เสียชีวิต 2,465 ราย
Cr: Kyoto News, Real Estate Tokyo