ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2563

นครพนม ยืนยัน ผลตรวจคนที่ลอบเข้ามาจากเมียนมาไม่พบเชื้อ-กักตัวแล้ว

           ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจเข้มตามแนวชายแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านแต่ยังจับคนที่ลักลอบข้ามแดนเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง

-จ.นครพนม: นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ชี้แจงกรณีที่มีคน อ.ธาตุพนม แอบลักลอบเดินทางมาจาก จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ผ่านช่องทาง อ.แม่สอด จ.ตาก โดยไม่ผ่านการกักตัวและไม่บอกความจริง แต่เจ้าหน้าที่ในชุมชนได้ติดตามตรวจสอบแล้ว ขณะเดียวกันมีการส่งต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้องว่าในจังหวัดมีคนติดเชื้อ ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันว่า ใน จ.นครพนม ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และจะดำเนินการทั้งทางวินัยและระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคนที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ

          ด้าน นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ผลการตรวจหาเชื้อชายคนดังกล่าว ไม่พบเชื้อและได้เข้ากักตัวตามมาตรการแล้ว รวมถึงเตรียมความพร้อมของผู้รับผิดชอบในพื้นที่ชายแดน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองนครพนม,อ.ท่าอุเทน, อ.บ้านแพง และ อ.ธาตุพนม เฝ้าระวังโรคบริเวณชายแดน   

ฝ่ายปกครอง จ.ตาก รวบกลุ่มคนไทย-จีน ข้ามแดนมาที่ อ.พบพระ       

-จ.ตาก: นายพนม แสงแปง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวังตะเคียน กำนัน แพทย์ประจำตำบล ลงพื้นที่ดูแลประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุข ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณ บ้านชาย วัย 70 ปี บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยและยืนยันกับประชาชนว่าไม่มีการกระจายของเชื้อ ขณะที่ทางด้าน อ.พบพระ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และสาธารณสุข ร่วมกันควบคุมตัวชายไทย 4 คน ชายชาวจีน 2 คน รวม 6 คน ขณะกำลังลักลอบข้ามแดนจากฝั่งประเทศเมียนมา มายังบ้านวาเล่ย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ โดยทำการตรวจวัดไข้และบันทึกประจำวันไว้ พร้อมทั้งนำส่งสถานกักกันตามระเบียบของสาธารณสุข

จับชาวกัมพูชา 11 คน ข้ามแดนเข้ามาซื้ออาหารฝั่งไทยด้าน จ.สระแก้ว  

-จ.สระแก้ว: เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 สังกัดกองกำลังบูรพา พร้อมฝ่ายปกครอง อ.โคกสูง จับกุมชาวกัมพูชา จำนวน 11 คน ขณะออกปฏิบัติหน้าที่บนถนนศรีเพ็ญ โดยเฉพาะตามช่องทางธรรมชาติ พบกลุ่มชายชาวกัมพูชาขี่รถจักรยานยนต์ลักษณะคล้ายรถพุ่มพวง มุ่งหน้าจากประเทศกัมพูชาเข้ามาที่บ้านหนองแคน ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบข้ามแดนเข้าหามาซื้ออาหารสดในฝั่งไทย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อเป็นการคัดกรองการติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้น พบว่ามีผลเป็นลบ จึงนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนผลักดันออกนอกประเทศ 

นายอำเภอสุไหงโก-ลก สั่งปิดท่าข้ามจุดท่าทราย จนกว่าโควิด-19 จะดีขึ้น 

-จ.นราธิวาส: นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมกำลัง 3 ฝ่าย จับกุมนายอัสฮา บินอับดุลเลาะมาน อายุ 53 ปี ชายสัญชาติมาเลเซีย ขณะลักลอบเดินทางเข้ามาประเทศไทยทางเรือกับคนไทยที่เป็นคนพามา บริเวณช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามบ้านท่าทราย หมู่ 7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จึงควบคุมตัว พร้อมของกลางเรือไฟเบอร์ 1 ลำ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่บุคคลต่างด้าวเตรียมใช้ในการเดินทางใน อ.สุไหงโก-ลก เพื่อไปหาภรรยาที่ ต.ปาเสมัส  พฤติกรรมของนายอัสฮา บินอับดุลเลาะมาน ตั้งใจจะเดินทางเข้ามาใน อ.สุไหงโก-ลก เพื่อนำเงินมาให้ภรรยาใช้ จึงได้ติดต่อผ่านนายหน้าที่อยู่ในรัฐกลันตัน จากนั้นได้ว่าจ้างผู้นำพาซึ่งเป็นคนไทยด้วยค่าจ้าง 30 ริงกิต หรือประมาณ 270 บาท แต่ด้วยมาตรการป้องกันชายแดนที่เข้มงวด ร.อ.ณัฐพล คณะทอง กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 ชุดควบคุมป้องกันชายแดนพร้อมหน่วยกำลังในพื้นที่ตรวจพบ จึงจับกุม ส่วนคนไทยที่พามาหลบหนีไปได้

          มาตรการทางกฎหมายสำหรับบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยศาลจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนคนนำพา ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว และเตรียมออกหมายจับ โทษของผู้นำพา คือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

          นายอัสฮา บินอับดุลเลาะมาน บุคคลต่างด้าวชาวมาเลเซีย กล่าวว่า ทราบว่าประเทศไทยมีความเข้มงวดในการป้องกันบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง แต่เข้าใจว่าเมื่อมีการจับกุมแล้ว จะกักตัว 14 วัน และปรับ แล้วผลักดันกลับประเทศ จึงยอมเสี่ยงเข้ามา รู้สึกเครียดมากที่ต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะไม่รู้ว่าหลังจากนี้ต้องทำอย่างไร และอยากขอโอกาสให้ได้กลับประเทศอีกครั้ง จะไม่ลักลอบเข้ามาอีก

          หลังเกิดเหตุ นายอำเภอมีคำสั่งให้ปิดท่าข้ามจุดท่าทราย อย่างถาวรไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย ซึ่งเป็นไปตามบันทึกข้อตกลง MOU มาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในพื้นที่ตามแนวชายแดนระหว่างอำเภอสุไหงโก-ลก กับประธานชุมชนท่าข้ามริมแม่น้ำโก-ลก ที่จะปิดท่าข้ามและจุดผ่อนปรนที่มีการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายทันทีที่ตรวจพบการกระทำความผิด 

คนไทยจากท่าขี้เหล็กอีก 50 คน ทยอยเดินทางเข้ามากักตัวใน LSQ  

          นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงเรื่องการปล่อยข่าวปลอม เช่น มีผู้ติดเชื้อ 600 คน คนเชียงรายติดเชื้อจำนวนมาก บางครั้งปล่อยออกมาเป็นคลิปก็มี ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกำลังตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีฐานเป็นข้อมูลเท็จที่สร้างความเสียหายให้กับจังหวัด

          ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึง คนที่อยู่ใน Local State Quarantine ว่า ยังมีคนเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะตรวจโรคหาเชื้อและดูอาการ 14 วัน ได้รับแจ้งว่าจะมีการส่งคนไทยจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้ามาทาง อ.แม่สาย อีกประมาณ 50 คน กรณีนี้ มีปัญหาว่าคนแจ้งชื่อแล้วแต่กลับเข้ามาไม่ครบ เกิดจากขั้นตอนในประเทศเมียนมา ซึ่งก็คงทยอย ๆ ส่งมาให้ต่อไป เจ้าหน้าที่ก็เตรียมรับตัวและยืนยันว่ามีการป้องกัน Local State Quarantine เป็นอย่างดี และกรณีพบผู้ติดเชื้อก็ไม่ปล่อยให้แพร่เชื้อออกมาแน่นอน

          การตรวจหาเชื้อในจังหวัด หลังจากรถชีวนิรภัยพระราชทาน 3 คัน และโรงพยาบาลเอกชน ได้ร่วมกันตรวจหาเชื้อทั้งพื้นที่เสี่ยงน้อยและเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปตรวจฟรีไปแล้วประมาณ 5,000 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ แสดงว่า เชียงรายเราปลอดภัยแล้ว จึงได้ชวนทุกคนร่วมกันแสดงพลังด้วยการทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย เป็น 1 ใน 6 ข้อ ตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 รณรงค์ให้ชาวเชียงราย สวมหน้ากากอนามัย 100% เมื่อออกนอกบ้าน ไม่ไปในสถานที่ที่ผู้คนแออัด และต้องไม่ลืมลงทะเบียนไทยชนะทุกครั้งที่เข้าไปในพื้นที่สาธารณะ

          ด้าน นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ในวันที่ 11 ธ.ค.2563 จะมีผู้ป่วยที่หายป่วยเดินทางกลับบ้านได้อีก 2 คน วันที่ 14 ธ.ค.2563 จะมีจำนวน 2 คน วันที่ 15 ธ.ค.2563 จะมีจำนวน 9 คน คนที่รักษาหายจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และทยอยกลับภูมิลำเนาตามลำดับ ซึ่งได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ภูมิลำเนาของทั้งทุกคนแล้ว และติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่ออีก 14 วันตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยทางสาธารณสุขด้วย

CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย