ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม 2563

10 ธันวาคม 2563, 13:38น.



มาตรการต้องเข้มขึ้น! พบผู้ป่วยอีก1 คน ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มเดิม



          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยกรณีที่บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ จากบุคคลที่เดินทางเข้ามาและในสถานที่กักกัน และในวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่รวม 18 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 คน และมีติดเชื้อในประเทศ 1 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์



-หญิงไทย อายุ 29 ปี ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชน BNH และทำงานในโรงแรมที่เป็นสถานที่กักกันทางเลือก หรือ ASQเป็นผู้ป่วยคนที่ 6



-เป็นเพื่อนร่วมงานกับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อรวม 5 คน ก่อนหน้านี้



-การติดเชื้อเนื่องจากรับประทานอาหารร่วมกัน  มีไข้ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ



-การตรวจอาการเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2563 ผลเป็นลบ



-การตรวจอาการซ้ำพบผลติดเชื้อเป็นบวก เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2563   





          นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนโรค พบว่าบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อ เกิดจากการเข้าไปดูอาการคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ชุดที่ใส่ไม่ครบถ้วน สงสัยว่าช่องทางนี้น่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นมาได้ แต่ต้องมีการกักกัน มีการตรวจสอบในวงกว้างและจะต้องมีมาตรการป้องกันละเอียดมากขึ้น ซึ่งบุคคลที่ทำงานในด้านนี้ มีการป้องกันระวังตัว เช่น สวมชุด PPE และเมื่อออกจากสถานที่ทำงานไม่ถึงขั้นกักตัว ทั้งนี้ คนที่เดินทางเข้าประเทศและอยู่ในสถานที่กักกันตัวเป็นแสนคน แต่เมื่อมีการกักตัวพบคนติดเชื้อเป็นพันคนเท่านั้น




          ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ผู้ป่วยรายนี้ เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังอยู่แล้ว เนื่องจากมีประวัติทานข้าวกับผู้ป่วยคนที่ 1 และเมื่อพบการติดเชื้อได้มีการตรวจเชื้อในกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดทั้งโรงพยาบาลเอกชนต้นสังกัดและสถานที่กักตัวทางเลือก รวม 745 คน ผลเป็นลบทั้งหมด ส่วนอีกกลุ่ม 106 คน กำลังรอผลตรวจ ส่วนการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเพื่อนร่วมหอพัก ห้องสัมภาษณ์งาน ครอบครัว รวม 20 คน ไม่พบเชื้อ รวมทั้งการตรวจในกลุ่มสถานที่กักตัวทางเลือก 2 แห่ง รวม 34 คน ไม่พบเชื้อ



          สถานการณ์ในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งกำชับทุกหน่วยงานในการทำงาน ส่วนข่าวเมื่อคืนนี้ที่กรมการปกครอง ไปบุกจับสถานบันเทิงกลางเมือง ปิดเกินเวลา ไม่ปฎิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขและพบยาเสพติดด้วย ชี้ให้เห็นว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยง ทุกคนต้องระวังตัว เช่นเดียวกับ แหล่งอบายมุข คาสิโน ต่างๆ   



‘หมอโสภณ’ ยืนยัน ผู้ป่วยคนที่ 1 เดินทางด้วยรถ MRT-BTS ก่อนป่วย 



          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยรายละเอียดบางส่วนของผู้ป่วยคนที่ 1 ในกลุ่มนี้ หญิงอายุ 26 ปี ที่มีการเดินทางด้วยการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2563



-2 ธ.ค.2563 เดินทางไปสัมภาษณ์งานที่โรงพยาบาลฝั่งธนบุรี ขาไปนั่งรถ MRTเป็นเวลา 10นาที ช่วงเวลา10.00-10.15 น. ขากลับนั่งรถ BTS จากสถานีสาทร มาลงที่สถานีสีลม ช่วงเวลา 14.00-14.10 น. ระหว่างการเดินทางด้วยระบบขนส่ง ยังไม่มีอาการป่วย และสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง อย่างไรก็ตาม หากใครที่อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มั่นใจ สามารถขอรับคำแนะนำจากสถานพยาบาลใกล้บ้านหรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422     





 



 



สธ.เผยไม่พบผู้ป่วยรายใหม่จาก จ.ท่าขี้เหล็ก-ข่าวคนที่ทำงานบาร์โฮสต์ มาทำงานที่กทม.ไม่จริง   



          นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพิ่มเติม ตัวเลขยังอยู่ที่ 46 คน สถานการณ์ไม่น่ากังวล เนื่องจากควบคุมได้ เช่นเดียวกับผู้ป่วยติดเชื้อในจังหวัดต่างๆ ยกเว้นกรุงเทพฯ ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 



          ส่วนข่าวที่ระบุว่ามีคนทำงานที่บาร์โฮสต์ติดเชื้อโควิด-19 ลงมาทำงานที่กรุงเทพฯ นพ.โอภาส ชี้แจงว่า ไม่ใช่ข่าวที่เป็นจริง เรื่องนี้เกิดจากกรณีผู้ป่วยหญิงที่ลักลอบเดินทางมาจากจ.ท่าขี้เหล็ก แล้วไปเที่ยวบาร์โฮสต์ ที่จ. เชียงใหม่ เมื่อผลพบว่าติดเชื้อ มีการนำคนที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าว 56 คนไปตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ผลเป็นลบทุกคนและเข้าอยู่ในสถานที่กักกันแล้ว 



          กรณีที่มีการส่งต่อกันว่า ที่โรงพยาบาลBNH มีคนติดเชื้อ 24 คน นพ.โอภาส ชี้แจงว่า บุคคลที่ติดเชื้อทั้งหมดในกลุ่มนี้มี 6 คนเท่านั้น



กรุงโซล แปรสภาพตู้คอนเทนเนอร์เป็นโรงพยาบาลสนาม



           นับเป็นครั้งแรก ที่ทางการกรุงโซล เกาหลีใต้ ต้องนำตู้คอนเทนเนอร์มาใช้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว  นายปาร์ค นยอง-ฮู รมว.สาธารณสุขของเกาหลีใต้ ยอมรับว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นการระบาดระลอกที่สาม กำลังเพิ่มแรงกดดันอย่างต่อเนื่องให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ เทศบาลกรุงโซล เร่งนำตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 150 ตู้มาแปรสภาพเป็นโรงพยาบาลและสถานที่ตรวจคัดกรองเพิ่มเติม พื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคยังคงเป็นกรุงโซล เมืองอินชอน และจังหวัดคย็องกี  พบผู้ป่วยรายใหม่รวมกันมากกว่า 3,000 คน ภายในระยะเวลาเพียง 7 วัน



           ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี ( ซีดีซี ) รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมง ยืนยันผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 40,098 คน เพิ่มขึ้น 682 คน แบ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 36 คน และการติดเชื้อภายในประเทศ 646 คน เป็นสถิติผู้ป่วยรายวันสูงสุดอันดับ 3 รองจาก 686 คน เมื่อวันพุธ และ 909 คน เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2563



          ขณะเดียวกัน มีคนที่หายป่วยอีก 460 คน เพิ่มสถิติสะสมส่วนนี้เป็นอย่างน้อย 30,637 คน และเสียชีวิตแล้ว 564 ราย เพิ่มขึ้น 8 ราย



 

ข่าวทั้งหมด

X