ออสเตรเลียกล่าวหาจีนว่าทำลายข้อตกลงทางการค้า

          ออสเตรเลียกล่าวหาจีนว่าพยายามทำลายข้อตกลงการค้าเสรีระหว่าง 2 ประเทศ (ChAFTA) ด้วยการเลือกปฏิบัติและกีดกันสินค้าออสเตรเลีย นายไซมอน เบอร์มิงแฮม รัฐมนตรีพาณิชย์ของออสเตรเลีย กล่าวว่า จีนได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรหรือห้ามนำเข้าสินค้าของออสเตรเลียแล้วหลายรายการ รวมถึงธัญพืช ไวน์และเนื้อวัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ผลิตเนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด และออสเตรเลียกำลังพิจารณาทางเลือกในการระงับข้อพิพาททั้งหมด

          ทั้ง 2 ชาติลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีในปี 2558 เพื่อลดภาษีศุลกากรและเพิ่มการเข้าถึงสินค้าหลายสิบรายการ แต่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมของปีนี้ จีนได้ออกคำสั่งระงับการนำเข้าสินค้าจากออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตั้งอัตราภาษีไวน์จากออสเตรเลียสูงถึงร้อยละ 200 โดยระบุว่าเป็นการค้าที่ผิดกฎหมาย ซึ่งออสเตรเลียได้ยื่นโต้แย้ง นายเบอร์มิงแฮม กล่าวในระหว่างการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาว่าจากมาตรการของจีนทำให้มีความกังวลว่าจีนยังคงยึดมั่นในข้อตกลงการค้าเสรี (ChAFTA) และพันธกรณีขององค์การการค้าอยู่หรือไม่ โดยยืนยันว่าออสเตรเลียได้พยายามนัดหารือกับเจ้าหน้าที่จีนหลายครั้งแต่ถูกเพิกเฉย

          อย่างไรก็ตาม สินค้าแร่เหล็กที่มีมูลค่าการส่งออกประมาณร้อยละ 40 ของการส่งออกไปยังจีน ยังไม่ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่าง 2 ประเทศที่มีชนวนเหตุจากหลายกรณีทั้งโควิด-19 และการที่ออสเตรเลียกล่าวหาว่าจีนพยายามเจาะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จนถึงการที่จีนกล่าวหาว่าออสเตรเลียแทรกแซงสถานการณ์ในซินเจียง ฮ่องกงและไต้หวัน จนถึงข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ซึ่งจีนเห็นว่า ออสเตรเลียมีทัศนคติที่ไม่เป็นมิตรต่อจีนท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ย่ำแย่

          นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วออสเตรเลียยังแสดงความไม่พอใจที่สื่อของทางการจีนทำภาพกราฟิกทหารออสเตรเลียสังหารเด็กชาวอัฟกัน ซึ่งแม้ว่านายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน จะเรียกร้องให้ทางการจีนขอโทษแต่ทางการจีนปฏิเสธ

...