กรณีนายเบรนตัน ทาร์แรนต์ อายุ 29 ปี ชาวออสเตรเลียผิวขาวที่มีแนวคิดขวาจัดก่อเหตุใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งโดยปกติเป็นอาวุธที่ใช้ในราชการของกองทัพ บุกเข้ากราดยิงคนในมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 15 มีนาคมปีที่แล้ว มีคนเสียชีวิตรวม 51 ราย รัฐบาลนิวซีแลนด์ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาทางป้องกันเหตุร้ายในอนาคต ผลการสอบสวนระบุว่าหน่วยงานรัฐทำงานบกพร่องหลายจุดก่อนเกิดเหตุโจมตี พร้อมทั้งสรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาทางป้องกันได้
รายงานระบุว่าคนร้ายสามารถสะสมอาวุธปืนหลายกระบอก เป็นการชี้ว่า ตำรวจทำงานบกพร่องไม่ตรวจสอบใบอนุญาตการถือครองปืนอย่างจริงจัง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของนิวซีแลนด์ให้ความสำคัญมากเกินไปกับเรื่องการค้นหาข่าวกรองเกี่ยวกับการก่อการร้ายโดยกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง รายงานระบุว่าแม้ว่าภาครัฐจะแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆทั้งหมด ก็ไม่สามารถป้องกันคนร้ายคือนายทาร์แรนต์ ไม่ให้ลงมือก่อเหตุ สำหรับนายทาร์แรนต์ ถูกศาลนิวซีแลนด์มีคำพิพากษาเมื่อต้นปีนี้ให้จำคุกตลอดชีวิต
คณะกรรมการชุดนี้ได้เสนอแนะให้รัฐบาลตั้งสำนักงานข่าวกรองและความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมเสนอให้ตำรวจคุมเข้มเรื่องการตรวจสอบใบอนุญาตการถือครองปืนและเฝ้าระวังการเผยแพร่ข้อความสร้างความแตกแยกทางสื่อออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น
ด้านนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ขอโทษประชาชนเรื่องที่หน่วยงานรัฐทำงานบกพร่อง ผลสอบสวนประมาณ 800 หน้า สรุปสาระสำคัญได้คำเดียวคือ นิวซีแลนด์คือบ้านของทุกคนจะต้องมีความปลอดภัยสำหรับทุกคน แม้ว่าจะมีความต่างกันในเรื่องสัญชาติ ศาสนา หรือ เพศ
Cr: BBC