นายกฯ สั่งใช้โดรน ตรวจจับคนลักลอบเข้าเมืองถึงบ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งฝ่ายความมั่นคงพิจารณาใช้ภาพถ่ายทางอากาศ หรือโดรน ดูว่าช่องทางใหม่ที่แอบเข้ามา มีช่องทางไหนอีกหรือไม่ เพื่อวางเครื่องกีดขวางและ วางกำลังเพิ่มเติม ยืนยันจับได้ถึงบ้าน ลักลอบหนีเข้าเมืองไม่ได้ พร้อมทั้งขอเตือนผู้ที่อยู่ในขบวนการลักลอบไม่ว่าเป็นใครก็ตาม คนเหล่านี้ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างหนัก เพราะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ลักลอบพาคนเข้าเมืองผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ
ส่วนถ้าเจ้าหน้าที่มีส่วนร่วม ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ผิดวินัยร้ายแรงจำเป็นต้องโทษตำรวจ ทหาร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ขออย่าตื่นตระหนก ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจ เช่น การท่องเที่ยว การจองโรงแรม หรือมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้เศรษฐกิจระดับล่างมีปัญหา มาตรการที่ออกมาแล้ว กำลังได้ผล มีคนจำนวนหนึ่งทำให้เกิดปัญหา เราต้องหาต้นตอปัญหาให้เจอ และหาวิธีการแก้ไข ไม่นิ่งนอนใจ และสถานการณ์โควิด-19 ปีหน้าจะดีขึ้น จากการติดตามเรื่องวัคซีน เรามีความหวังและคาดหวัง เราทำทุกอย่าง อย่างดีที่สุด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนที่ทำหน้าที่หนัก ถ้าช่วยกันแบบนี้ แก้ปัญหากันได้หมดทุกเรื่อง
แฟ้มภาพ รัฐบาลไทย
มท.สั่งจังหวัดตรวจสอบเข้ม-ลงโทษหนักเจ้าหน้าที่พาหนีเข้าเมือง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้า ผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายกฯ สั่งให้หน่วยงานผู้ปฏิบัติควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 แบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน กระทรวงจึงสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ให้ชี้แจงข้าราชการ บุคลากร ห้ามปล่อยปละละเลยหรือรู้เห็นเป็นใจในพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องไม่สอดคล้องกับนโยบายและมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ฝ่าฝืนอาจเข้าข่ายความผิดวินัยหรืออาญา
การทำงานร่วมกับฝ่ายอื่นๆ ให้แบ่งพื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจน
-พื้นที่ชายแดน ให้จังหวัดวางมาตรการร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) ตำรวจตระเวนชายแดน กองกำลังป้องกันชายแดน เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ
-ตั้งเครื่องกีดขวาง
-ลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เฝ้าระวังป้องกันลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ
-พื้นที่จังหวัดตอนในให้ประสานตำรวจภูธร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ตั้งจุดตรวจคัดกรองโรค และการขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ให้มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ ประจำช่องทางผ่านแดนทุกแห่ง ที่อนุญาตให้ผ่านเข้า-ออก ของบุคคล สินค้า และยานพาหนะที่ชัดเจน ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง
-พื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครในพื้นที่ รวมทั้ง ขอความร่วมมือประชาชนตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ แจ้งเจ้าหน้าที่ถ้าพบคนมาจากพื้นที่เสี่ยง
กองทัพ ตรึงกำลัง 2,400 กม.ตั้งแต่ภาคเหนือจดชายแดนระนอง
พล.ต.จักรพงษ์ จันทร์เพ็งเพ็ญ กองบัญชาการกองทัพไทย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) กล่าวถึง มาตรการควบคุมป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายว่า ขณะนี้ทหารร่วมกับ ตำรวจ พลเรือนอาสา คุมเข้มแบ่งพื้นที่ 3 ระดับ
1.แนวชายแดนติดเพื่อนบ้านตั้งแต่ภาคเหนือจดชายแดนจังหวัดระนอง ความยาว 2,400 กม.เน้นหนักในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงและจุดล่อแหลม จะปรับเพิ่มกำลังพล ส่วนพื้นที่ไหนที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจได้จะทำอุปกรณ์เข้าไปเสริม เช่น กล้องวงจรปิดและโดรนของกองทัพอากาศ พร้อมทั้งประสานเพื่อนบ้านด้านการข่าวด้วย
2. พื้นที่ชายแดนถึงพื้นที่ตอนใน เป็นการสนธิกำลังระหว่างตำรวจ ทหาร เน้นเรื่องการจัดวางจุดตรวจสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง
3.พื้นที่ตอนใน ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ จัดชุดปฏิบัติการตรวจค้นสอบสวนสถานประกอบการ แบ่งเป็น 3 ลักษณะ
3.1 ชุดตรวจทั่วไป มุ่งตรวจโรงงานที่มีคนต่างด้าวทำงาน
3.2 ชุดตรวจร่วม ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย รวมทั้งกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดเป็นผู้ชี้เป้า
3.3 ชุดตรวจจากส่วนกลาง จะให้คำแนะนำและช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้สามารถช่วยแจ้งเบาะแส ได้ที่ สายด่วน 1138, 1559 และ 191
เอกชน เชียงราย นัดหารือฟ้องคนที่นำโควิด-19 เข้าเมือง
บรรยากาศในยามค่ำคืนของสถานบันเทิงต่างๆ ของเชียงราย เงียบเหงาลงในช่วงนี้เพราะมีร้านปิดไปหลายร้าน ขณะที่สถานการณ์การท่องเที่ยวก็เป็นไปด้วยความซบเซา โดยเฉพาะห้องพักโรงแรมต่างๆ ถูกยกเลิกการจอง วันนี้ ผู้ประกอบการบางส่วน นัดหมายหารือกันด้านข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องร้องเอาผิดคนที่ลักลอบเข้าเมืองและนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาทำให้เกิดความเสียหาย
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวประสบปัญหา ส่วนการจะไปฟ้องร้องใครหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสิทธิของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม การควบคุมโรคขณะนี้ดำเนินการมาได้ถูกทางแล้ว โดยเราพบเป้าหมายที่ชัดเจนว่ามาจากแหล่งไหนและต้องจัดการกับบุคคลกลุ่มใด
10 ธ.ค. เชียงราย บิ๊กคลีนนิ่ง- ใส่แมส100%
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยืนยัน การสร้างความมั่นใจ วันที่ 10 ธ.ค.2563 จะบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ทั้งจังหวัด และรณรงค์ให้ชาวเชียงรายทุกคน สวมแมส 100% ยืนยัน ยังไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ สำหรับคนที่เข้ามาถูกกฎหมายและเข้ากระบวนการ Quarantine ไม่ใช่คนที่ผิด เป็นเพียงคนป่วยเข้ามาก็รักษา
จ.เชียงราย เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่ ยืนยันไม่กังวล การได้คนติดเชื้อเข้ามาในระบบ Local Quarantine จะทำให้ประชาชนมั่นใจมากขึ้นและประเทศไทยปลอดภัยด้วย
ผู้ติดเชื้อในเมียนมา พุ่งกว่า 100,000 คน เสียชีวิตรวม 2,132 ราย
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมียนมา กระทรวงสาธารณสุขเมียนมา รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,276 คน ทำให้มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 100,431 คน ส่วนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 22 ราย รวมจำนวนผู้เสียชีวิต 2,132 ราย ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาหายและออกจากโรงพยาบาลแล้วมีจำนวนทั้งหมด 79,240 คน ยอดการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประเทศอยู่ที่ 1,307,744 คน