นายกฯย้ำเอาผิดขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เร่งรับมือโควิด-19ระบาด

          เพจ ไทยคู่ฟ้า ได้เผยแพร่ บทสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในรูปแบบเล่าเรื่อง ในหัวข้อ “การรับมือกับโควิด-19” ผ่านแอปพลิเคชั่น พอดแคสต์ไทยคู่ฟ้า ยืนยันว่า สถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศนั้น สถานการณ์ในประเทศไม่ได้อยู่ในขั้นเลวร้าย ถึงแม้ว่าจะมีการลักลอบเข้ามา แต่เราสามารถควบคุม ติดตาม และดูแลรักษาได้อยู่ที่เราทุกคนต้องช่วยกัน  และไม่ได้เรียกว่าการแพร่ระบาดระลอกที่สอง หรือไม่ใช่ ซูเปอร์สเปรดเดอร์ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล  ส่วนใหญ่ที่ตรวจพบในตอนนี้มีการลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรามีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านไปแล้วในการตรวจสอบคัดกรอง ช่วยกันสกัดกั้นช่องทางธรรมชาติทั้งฝั่งประเทศเราและประเทศเพื่อนบ้าน  

          นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาใช้ภาพถ่ายทางอากาศ หรือจากโดรนดูว่า มีช่องทางใหม่ที่ใช้หลบหนีเข้ามาอีกหรือไม่ เพื่อวางเครื่องกีดขวางและวางกำลังเพิ่มเติม  พร้อมขอเตือนผู้ที่อยู่ในขบวนการลักลอบไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม คนเหล่านี้จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างหนัก เพราะถือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายลักลอบพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ

          ส่วนเจ้าหน้าที่ หากใครมีส่วนร่วมถือว่า เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นการผิดวินัยอย่างร้ายแรงจำเป็นจะต้องโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ขออย่าตื่นตระหนก ถ้าตื่นตระหนกมากไปปัญหาของเราจะเกิดขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ เช่น การท่องเที่ยว การจองโรงแรม  หรือมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน เกิดปัญหาทั้งหมด ทำให้เศรษฐกิจระดับล่างมีปัญหา มาตรการต่างๆที่ออกมาแล้วกำลังได้ผล มีคนจำนวนหนึ่งทำให้เกิดปัญหา เราต้องหาต้นตอปัญหานี้ให้เจอ และหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างไม่นิ่งนอนใจ และสถานการณ์โควิด-19 ปีหน้าจะดีขึ้น จากการติดตามเรื่องวัคซีน เรามีความหวังและคาดหวัง เราทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด  ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนที่ทำหน้าที่อย่างหนัก ถ้าช่วยกันแบบนี้แก้ปัญหากันได้หมดทุกเรื่อง

          นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลมีการวางแนวทางเพื่อเฝ้าระวัง คือ

-แนวทางที่หนึ่ง ตามแนวชายแดน ตนได้สั่งการให้ ทหาร ตำรวจ และกองกำลังต่างๆ มีมาตรการในการสร้างเครื่องกีดขวางในระยะที่หนึ่ง เพิ่มการลาดตระเวน 24 ชั่วโมง แต่ก็อาจจะมีการเล็ดลอดเข้ามาได้   

-แนวทางที่สอง คือ พื้นที่กระทรวงมหาดไทย พื้นที่ตอนในเข้ามา ที่จะต้องมีการสกัดกั้น ตั้งจุดสกัดต่างๆให้มีความพร้อมในการตรวจบุคคลเหล่านี้ที่จะเข้ามา และ

-แนวทางที่สาม คือ ประชาชนในพื้นที่ต้องสังเกตคนที่เข้ามาในหมู่บ้าน แม้จะเป็นคนที่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน แต่อย่าลืมว่าเขาไปทำงานที่ต่างประเทศ  จึงขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ