หมอธีระ ชี้ 'โควิด-19' เรื้อรัง นานาชาติเปิดคลินิกตามอาการ

07 ธันวาคม 2563, 12:08น.


          หลายคนคงมีคำถาม เมื่อเป็นโรคโควิด-19 แล้ว ยังมีการคงค้างหรือไม่  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยโพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ในวันนี้ ไว้อย่างน่าสนใจ ถึงอาการคงค้างจากโควิด-19 แม้จะหายป่วยแล้ว ทำให้หลายประเทศทั่วโลก เตรียมเปิดคลินิกให้คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ดังนี้



"โควิดเรื้อรัง"...เรื่องที่รู้แล้วจะไม่อยากติดเชื้อ...



          เช้านี้มีน้องผู้ชายคนนึงถามในกลุ่มท่องเที่ยวยุโรปว่า มีใครมีอาการแบบเค้าบ้างไหม หลังจากเค้าติดเชื้อมาพอหายป่วยแล้วกลับยังมีอาการเจ็บหน้าอกอยู่ตลอด มีคนมาตอบหลายต่อหลายคน โดยจำนวนไม่น้อยก็แจ้งว่ามีอาการคงค้างอยู่เช่นกัน



          ผมตอบน้องเค้าไปว่า ผู้ติดเชื้อโควิดนั้นแม้รักษาหายแล้วก็จะยังมีอาการคงค้างอยู่ได้ เช่น อ่อนเพลีย ปวดข้อ หายใจลำบาก ฯลฯ โดยทางการแพทย์เราเรียกภาวะนี้ว่า "Chronic COVID" หรือ "Long COVID" หรือ "COVID Long Hauler" เกริ่นมาให้พวกเราฟัง พร้อมกับถือโอกาสทบทวนความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไปด้วยในตอนเช้าวันนี้ หากไปดูในฐานข้อมูลวิชาการแพทย์ PubMed จะพบว่ารายงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังมีจำนวนน้อยมาก อ่านดูเนื้อหาแล้วต่ำกว่าสิบเรื่อง



คำถามที่ 1:



ภาวะ Chronic COVID/Long COVID/COVID Long Hauler นี้พบบ่อยมากน้อยเพียงใด?



คำตอบ:



ขณะนี้เชื่อว่า ราว 30-40% ของผู้ป่วยโควิด-19 ที่แม้จะได้รับการดูแลรักษาจนหายแล้ว จะมีอาการคงค้าง เป็นภาวะนี้ได้ ตั้งแต่หลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน และยังไม่รู้ว่าจะยาวนานไปเพียงใด เนื่องจากโรคโควิด-19 นี้เป็นโรคใหม่ไม่ถึงปี ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าจะนานเป็นปีๆ หรือนานกว่านั้นได้



คำถามที่ 2:



มีงานวิจัยที่ทำการประเมินโอกาสเป็นภาวะนี้มากน้อยเพียงใด?



คำตอบ:



แรกเริ่มเดิมที ทีมแพทย์จากอิตาลีได้รายงานไว้ว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว มีอาการคงค้างอยู่ถึง 87% ไม่ว่าจะเป็นอ่อนล้า หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก ปวดข้อ ฯลฯ



          ต่อมา มีทีมจากสหราชอาณาจักร ที่ทำการสำรวจผ่านแอปพลิเคชั่นในมือถือ รายงานว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการคงค้างต่างๆ อยู่ราว 10% ทั้งนี้เชื่อว่าการที่สำรวจพบน้อยกว่ารายงานก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นการสำรวจในประชากรทั่วไป ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อแต่ไม่ได้มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล



          มีอีกหลายรายงานที่พบว่าโอกาสเกิดอาการคงค้างแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เช่น อเมริกา ได้รายงานว่ามีเพียง 65% ของผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาแล้วประเมินว่าฟื้นคืนไปสู่สภาวะปกติก่อนป่วยได้



          ล่าสุดทีมวิจัยจากเดนมาร์กและหมู่เกาะฟาโรห์ ได้ทำการสำรวจในผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่ได้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 180 คน พบว่ามีถึง 53.1% ที่มีอาการคงค้างหลังจากเริ่มมีอาการตอนแรกเกิน 4 เดือน โดยอาการคงค้างแตกต่างกันไป ตั้งแต่อ่อนล้า ปวดข้อ ดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้



          แม้ยังไม่สามารถทำการวิเคราะห์อภิมานเพื่อรวมผลการประเมินโอกาสการเกิดอาการคงค้างได้ แต่เชื่อว่ามีผู้ป่วยราว 30-40% ที่จะประสบปัญหาอาการคงค้าง



คำถามที่ 3:



อาการคงค้างมีอะไรบ้าง?



คำตอบ:



ไอ, หายใจลำบาก, อ่อนล้า, เจ็บหน้าอก, อาการผิดปกติจากระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น ลิ่มเลือดอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ, อาการผิดปกติจากระบบประสาท เช่น ปวดหัว จำอะไรไม่ค่อยได้ ชัก ซึมเศร้า เป็นต้น



คำถามที่ 4:



หากเป็นแล้วต้องทำอย่างไร?



คำตอบ:



เนื่องจากโรคโควิด-19 นี้เป็นโรคใหม่ และภาวะอาการคงค้างเหล่านี้ก็เป็นสิ่งใหม่ที่การแพทย์ทั่วโลกเพิ่งได้เจอ จึงยังมีความรู้ที่จำกัดมาก ส่วนใหญ่อาการคงค้างที่เกิดขึ้น ก็จะได้รับการดูแลรักษาตามลักษณะของแต่ละอาการไป



          ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลก ก็เริ่มมีแนวคิดที่จะจัดตั้งคลินิกหรือแผนกที่ดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการคงค้างหลังจากติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจาก มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้คาดว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบในปัจจุบันน่าจะมีมากมายหลายล้านคน  



          ดังนั้น การไม่ติดเชื้อโควิด-19 ย่อมจะดีที่สุด หากผมเป็นกระทรวงสาธารณสุข ผมคงจะให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องนี้ เพื่อที่จะป้องกันตัวอย่างเต็มที่ ไม่ให้ติดเชื้อ



นอกจากนี้ผมคงจะย้ำเตือนเสมอว่า



#โควิดไม่ใช่โรคประจำถิ่น #การติดเชื้อไม่ใช่เรื่องปกติ #ยึดติด0ไม่ได้แต่เลี่ยงการนำความเสี่ยงสู่ประเทศได้ #ไม่ใช่เน้นโกยเงินแลกเชื้อ #โรคนี้ไม่กระจอก



CR: FB Thira Woratanarat 



 

ข่าวทั้งหมด

X