ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2563

‘หมอโสภณ’ชี้แจง ยังไม่ใช่การระบาดครั้งที่ 2

          การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายคน ทั้งคนที่ลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายและคนที่ติดเชื้อในสถานที่กักตัว นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่อยู่ในระดับการระบาดรอบสอง เนื่องจาก 

-คนที่ติดเชื้อเกือบทุกคนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน

-คนที่ติดในประเทศไทยก็ทราบว่าเป็นการติดมาจากคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศและไม่มีการแพร่เชื้อต่อ ยังอยู่ในวงจำกัดมากแต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้

-สามารถระบุแหล่งที่ได้รับเชื้อได้ในระดับหนึ่ง

-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งใน 7 จังหวัด เนื่องจาก เมื่อผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่มีการแพร่เชื้อ ดังนั้นจึงไม่ใช่การระบาดครั้งที่ 2

โฆษก ศบค. ให้ความมั่นใจหากสัปดาห์นี้ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม น่าจะสบายใจขึ้นได้

          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศขณะนี้สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนจังหวัดเชียงราย ดีขึ้น การลักลอบเดินทางเข้าประเทศเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหารดูแลกันอย่างเข้มแข็ง ในช่วงหลังๆคนที่เดินทางเข้าประเทศเดินทางเข้ามาตามที่ราชการกำหนดผลเป็นที่น่าพอใจ ยืนยันว่า นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย สามารถเดินทางไปได้ นับตั้งแต่เราพบผู้ติดเชื้อคนแรกจนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 10 วัน มีผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 23 คน

          สัปดาห์นี้ถ้าไม่มีตัวเลขเพิ่ม น่าจะสบายใจขึ้นได้ แต่ถ้ามีผู้ที่ลักลอบเข้ามาแล้วเอาเชื้อไปติดผู้อื่น ก็ต้องนับหนึ่งใหม่ และต้องนับเพิ่มต่อไปอีก 10 วัน อีก 14 วัน เพราะฉะนั้นฝากประชาชนอย่าการ์ดตก

ขออย่าส่งข่าวปลอม! กระทบท่องเที่ยว หัวหินคนไปเที่ยวบางตา

          การส่งต่อข่าวปลอมที่แจ้งว่าห้ามเดินทางในพื้นที่ 10 จังหวัด ซึ่งมีรายชื่อของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมอยู่ในรายชื่อดังกล่าวด้วย ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่น้ำหัวหิน เงียบเหงา นักท่องเที่ยวบางตา พ่อค้าแม่ค้า ขออย่าส่งต่อข่าวปลอม สำหรับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการควบคุมและป้องกันที่ดี ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มานานกว่า 200 วันแล้ว เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากต่างประเทศทั้งนั้นยังไม่มีการแพร่ระบาดในจังหวัด

รมว.สธ.ลงพื้นที่เชียงราย 8 ธ.ค.สร้างความมั่นใจ-ให้กำลังใจคนทำงาน

          การสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ปฎิบัติงานในพื้นที่ เป็นเรื่องสำคัญ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ในวันที่ 8 ธ.ค.2563  เพื่อติดตามสถานการณ์

-ลงพื้นที่ไปเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.แม่สาย และ ด่านพรหมแดน อ.แม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2

-ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของ Local Quarantine ที่โรงแรมแม่โขงเดลต้า

-ลงพื้นที่ตลาดสดบ้านดู่

          ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และขอบคุณในความเสียสละของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวปลายปี

ชาวบ้านท่าสายลวด แม่สอด ตาก ตื่นตัวสวมหน้ากากอนามัย

          ชาวบ้านในพื้นที่บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ตื่นตัวสวมหน้ากากอนามัย หลังจากเกิดเหตุชายวัย 70 ปี ในพื้นที่ ต.ท่าสายลวด ไม่สบาย แต่ไม่ยอมบอกข้อมูลจริงว่าข้ามไปหาภรรยาที่เมียนมา และเมื่อเดินทางกลับมามีอาการไม่สบายก่อนที่จะตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19

          จากการสำรวจพบว่า  ร้านค้าบางร้าน ปรับวิธีการสั่งซื้อสินค้า ด้วยการให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าแล้วส่งของผ่านรั้วแทน เพื่อลดการสัมผัสโรค  เจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้าน กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่ามีคนติดเชื้อในหมู่บ้าน ได้เน้นย้ำคนในครอบครัวให้ป้องกันสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอด รวมถึงลูกค้าที่มาซื้อของทุกรายด้วย

          นพ.โสภณ ชี้แจงว่า เรื่องที่ไม่เปิดเผยข้อเท็จจริง โดยอ้างว่าไม่เคยข้ามแนวชายแดนและไม่มีประวัติเสี่ยงมีอาการตามโรคชราหายใจเหนื่อยหอบเพียงเท่านั้น จนทีมกู้ชีพไม่ได้สวมชุดป้องกันโควิด-19 สวมเพียงหน้ากากอนามัยและเฟซชีลด์และถุงมือตามปกติเพียงเท่านั้น ทำให้ทั้งทีมกู้ชีพของโรงพยาบาลเอกชนและบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแม่สอดรวม 13 คน ต้องถูกสั่งกักตัวเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องไปตรวจหาเชื้อโควิด-19

กกต.เชียงราย ประชุมปรับแผน ป้องกันการระบาดช่วงเลือกตั้ง อบจ.

          คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประจำจังหวัดเชียงราย ประชุมคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง18 อำเภอของ จ.เชียงราย ในการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงราย  20 ธ.ค.2563

          นายสุคนธ์ เรือนสอน  ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง(ผอ.กต.)เชียงราย ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เป็นการให้ความรู้ให้ทุกคนมีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกันโดยเฉพาะภายใต้เงื่อนไขการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดทางกกต.เชียงรายได้มีการปรับจำนวนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่เกินหน่วยละ600คนเพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นจนเกินไป ทำให้จากเดิมที่มีหน่วยเลือกตั้ง1,932หน่วยเพิ่มเป็น2,039หน่วย นอกจากนี้ยังมีการดึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม.มาประจำ หน่วยเลือกตั้งละ2คน

          นายสุคนธ์ กล่าวด้วยว่าในวันเลือกตั้งนอกจากจะมีการเข้มงวดให้ทุกคนที่ลงไปใช้คะแนนเสียงต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคนและบริการเจลล้างมือทั้งก่อนและหลังการเข้าคูหาลงคะแนนแล้ว เจ้าหน้าที่อสม.ยังมีหน้าที่ในการตรวจคัดกรองอุณหภูมิของผู้ใช้สิทธิ์ทุกคนซึ่งกกต.ได้มีการจัดจุดเลือกตั้งพิเศษขึ้นมาควบคุมกับจุดเลือกตั้งปกติหากมีการตรวจพบผู้มีอุณหภูมิตามที่สาธารณสุขกำหนดก็จะคัดแยกให้ลงคะแนนในจุดพิเศษแยกจากผู้ที่อุณหภูมิปกติ

CR:สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.เชียงราย 

มัณฑะเลย์ ห้ามออกนอกบ้าน 14 วัน ยกเว้นไปหาหมอ-ซื้อของ

          สาธารณสุขมัณฑะเลย์ เมียนมา นำมาตรการเข้มมาใช้คุมโควิด-19 หลังยอดผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 7,000 คน สั่งประชาชนห้ามออกนอกบ้าน 14 วัน อนุญาตแค่ให้ไปโรงพยาบาล กับจ่ายตลาดได้วันละ 1 คน

          แผนกสาธารณสุขภาคมัณฑะเลย์ ประกาศให้ทุกพื้นที่ในจังหวัดมัณฑะเลย์ให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน (Stay at Home) มีผลตั้งแต่วันที่ 5-18 ธ.ค.2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

          เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับตำรวจ ตั้งด่านตามจุดต่างๆ เพื่อชี้แจงมาตรการนี้ให้ประชาชนได้รับทราบ

          มาตรการที่เพิ่งประกาศใช้ กำหนดให้ช่วงวันดังกล่าว ชาวเมืองมัณฑะเลย์ จะออกจากบ้านได้เฉพาะมีเหตุผลจำเป็น เช่น

-ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล

-แต่ละบ้านจะได้รับอนุญาตให้ออกมาจ่ายตลาดเพื่อซื้ออาหารได้บ้านละ 1 คน รวมกับคนขับรถอีก 1 คน

-ตลาดทุกแห่ง ลดเวลาขายลงมาเหลือเพียงวันละ 5-6 ชั่วโมง

-คนที่มีความจำเป็นต้องออกจากบ้าน พ่อค้า แม่ค้าในตลาดทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด

-คนที่ไม่ปฎิบัติตามมาตรการ มีโทษปรับ

          ภาคมัณฑะเลย์เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโควิด-19 รุนแรงเป็นอันดับ 2 ของเมียนมา รองจากย่างกุ้ง ที่สำคัญ จำนวนผู้ป่วยที่พบในมัณฑะเลย์ ช่วง 1 เดือนที่แล้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าเป็นห่วง