ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2563

10 ธ.ค. เวียดนาม เริ่มทดลองวัคซีนโควิด-19 กับอาสาสมัคร 20 คน

          เวียดนาม พัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด-19 ก้าวขึ้นสู่ระดับที่เตรียมจะทดลองกับคนแล้ว ในวันที่ 10 ธ.ค.2563 เป็นวัคซีนที่บริษัท Nanogen Pharmaceutical Biotechnology JSC ในนครโฮจิมินห์  พัฒนาขึ้นมา หลังจากที่ได้ทดลองกับสัตว์และได้รับการประเมินโดยหน่วยงานท้องถิ่นและต่างประเทศแล้วว่าประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนในห้องปฏิบัติการและกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันระหว่างการทดลองกับสัตว์

          การทดลองในวันที่ 10 ธ.ค. 2563 บริษัท Nanogen ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแพทย์ทหาร ทดลองกับอาสาสมัครที่สุขภาพแข็งแรง อายุระหว่าง 18-40 ปี ประมาณ 20 คน หลังจากทดลองในวันดังกล่าวแล้ว อีกส่วนที่เหลือจะทดลองใน 24-48 ชั่วโมงถัดไป หลังจากนั้นอีก 3 เดือน มหาวิทยาลัยจะทดลองกับอาสาสมัครอีกราว 400 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเวียดนาม คาดว่า การทดลองวัคซีนจะเสร็จสิ้นราวปลายปี 2564

          เวียดนาม พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมด 4 ราย คือบริษัท Nanogen บริษัท Vabiotech บริษัท Polyvac และสถาบัน Vaccines and Medical Biologicals (IVAC)

          เวียดนามมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสม 1,365 คน รวมทั้งผู้ป่วยติดเชื้อนำเข้า 4 คน ที่รายงานยืนยันเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2563 และมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งหมด 35 ราย

อังกฤษ เตรียมใช้เครื่องบิน ขนส่งวัคซีนจากโรงงานในเบลเยียม   

          การขนส่งวัคซีนในอังกฤษ รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมและเจ้าหน้าที่วางแผนกองทัพประชุมร่วมกับทีมวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ในการเตรียมวางแผนการขนส่งวัคซีนโควิด-19 เนื่องจาก เกรงว่า ปัญหาการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป(อียู) ของอังกฤษ หรือ เบร็กซิต ที่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น อาจทำให้การขนส่งวัคซีนมีปัญหาได้

          ทางการอังกฤษ จะใช้เครื่องบินกองทัพ ในการขนส่งวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์อิงค์ และไบโอเอ็นเทคที่ผลิตที่โรงงานของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ในเบลเยียม มาที่อังกฤษ เนื่องจากการขนย้ายจะต้องอยู่ในตู้สินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิพิเศษ กระทรวงกลาโหมอังกฤษ ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ด้านนายแมท แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและการดูแลสังคมอังกฤษ คาดว่า อังกฤษจะได้รับวัคซีนในการช่วยควบคุมโควิด-19 ได้สิ้นเดือนมี.ค. 2564

          ตั้งแต่อังกฤษ อนุมัติให้บริษัทไฟเซอร์  อิงค์ ผลิตวัคซีนโควิด -19 มีการขนส่งวัคซีนจำนวน 800,000 โดส ผ่านอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ และเก็บไว้ในสถานที่ปลอดภัย คาดว่า วัคซีนของบรษัทไฟเซอร์ อิงค์  ทั้งหมด 5,000,000 โดส จะขนส่งเข้าอังกฤษได้ภายในสิ้นปี

          อังกฤษ พบผู้ป่วยรายใหม่ 15,539 คน เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง 397 ราย ยอดรวมผู้เสียชีวิต 61,014 ราย

มณฑลทั่วจีน สั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ผลิตในประเทศ

          มณฑลต่างๆ ทั่วจีน สั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาภายในประเทศ แม้ว่ายังไม่ได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้าย แต่บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ กว่า 1,000,000 คนในจีน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วภายใต้การอนุญาตการใช้ฉุกเฉิน และยังไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับผลข้างเคียง

-วัคซีนของบริษัทชิโนฟาร์ม อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกกับอาสาสมัครเกือบ 60,000 คน ใน 10 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ จอร์แดน เปรู และ อาร์เจนตินา และบริษัทแห่งนี้สร้างโรงงาน 2 แห่งในจีน ที่สามารถผลิตวัคซีนได้ปีละ 200 ล้านโดส พร้อมทั้งยื่นคำร้องขออนุมัติขั้นสุดท้ายเพื่อใช้วัคซีนในจีนแล้ว

-ขณะที่ บริษัทชิโนวัค กำลังทดลองวัคซีนในบราซิล ตุรกี และ อินโดนีเซีย คาดว่า จะผลิตวัคซีนได้ 200-300 ล้านโดส ภายในเดือนก.พ.หรือมี.ค.2564

-บริษัทชิโนวัค และ บริษัทชิโนฟาร์ม ได้รับการอนุมัติให้ใช้ฉุกเฉินตั้งแต่เดือนก.ค.2563 โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน ประชาชนเกือบ 1,000,000 คน ได้รับการฉีดวัคซีนของบริษัทชิโนฟาร์มแล้ว

-ผู้ผลิตของจีนอีกรายคือ บริษัทแคนชิโน กำลังทดสอบวัคซีนในรัสเซีย ปากีสถาน และ เม็กซิโก ได้รับอนุมัติให้ใช้ฉุกเฉินในกองทัพจีนแล้ว

-บริษัทที่ 4 คือ อันฮุย จื้อเฟย หลงเคอ ไบโอโลจิก ฟาร์มาซี กำลังทดสอบวัคซีนขั้นสุดท้ายทั่วจีน 

จีน พบผู้ป่วยระหว่างกักตัว แม้ผลตรวจ 7 ครั้งเป็นลบ

          ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เทศบาลนครเทียนจิน ทางตอนเหนือของจีน รายงานว่า ตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1 คน เป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น ผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นเด็กหญิงแซ่หยาง วัย 6 ขวบ อยู่ในครอบครัวที่แม่ พ่อ ปู่ และ ย่า เป็นผู้ป่วยติดเชื้อ กรณีของเด็กหญิงคนนี้พร้อมแม่ของเธอเข้ารับการกักตัวในฐานะผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.2563 เด็กหญิงหยาง มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ 7 ครั้ง ระหว่างกักตัว ก่อนที่จะพบผลตรวจเป็นบวกและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่กำหนดในเทียนจิน

จีน สั่งกักตัวผู้ติดต่อใกล้ชิด 43 คน หลังพบเชื้อโควิดในอาหารแช่แข็ง

          ศูนย์รับมือการแพร่ระบาดของฮาร์บิน เมืองเอกของเฮยหลงเจียง ของจีน รายงานว่า ได้มีการสั่งกักตัวประชาชน 43 คน ในสถานที่ที่กำหนด และอีก 109 คน สังเกตการณ์ที่บ้าน หลังจากตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในอาหารแช่แข็งจากบริษัทการค้าในท้องถิ่น

          เจ้าหน้าที่ เก็บตัวอย่างสิ่งของจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหาร และสิ่งของบริเวณโดยรอบเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 และยังได้ดำเนินการฆ่าเชื้อและปิดโรงงานแปรรูปและจัดเก็บผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง รวมถึงวัสดุการผลิตอาหารแช่แข็งและผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งติดตามต้นตอของการติดเชื้อต่อไป

          เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2563 เมืองหลินเฝิน มณฑลชานซี ทางตอนเหนือของจีน ก็พบว่าบรรจุภัณฑ์ชั้นนอกของผลิตภัณฑ์ปลานำเข้าจากตลาดการเกษตรในท้องถิ่น ก็มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกเช่นกัน

รุนแรงกว่าระบาดรอบแรก! รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ  ขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ควบคุมเกือบทั้งรัฐ

          รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ ขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ควบคุมเกือบทั้งรัฐ หลังจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 รุนแรงกว่าเมื่อต้นปี เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลถึงวันละ 9,000 คน และจำนวนผู้ป่วยในไอซียูทำสถิติสูงสุดที่ 2,152 คน

          มาตรการเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.2563 เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ครอบคลุมช่วงเทศกาลคริสต์มาส ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เชื้อไวรัสโคโรนากลับมาระบาดรุนแรงในรัฐแคลิฟอร์เนียรอบใหม่ตั้งแต่เดือนต.ค.2563 คือ การที่คนเพิกเฉยต่อมาตรการป้องกันโควิด-19 และการเว้นระยะห่างทางสังคม

-ปิดธุรกิจ คำสั่งล็อกดาวน์ครั้งใหม่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดมาตลอดเกือบหนึ่งปีเต็ม หลังถูกสั่งปิดเป็นระยะ

-ห้ามการรวมกลุ่มสังสรรค์กับคนนอกครอบครัว

-ห้ามกินอาหารในร้าน

-ปิดร้านตัดผมและทำเล็บ

-ปิดโรงภาพยนตร์

-ปิดพิพิธภัณฑ์

-ปิดสนามเด็กเล่น

-ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

-ซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า รับลูกค้าได้ครั้งละร้อยละ 20 จากศักยภาพปกติ

แฟ้มภาพ