จังหวัดเชียงรายมีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 9 คน โดยเป็นกลุ่มหญิงไทยที่ทำงานในสถานบันเทิงโรงแรมวันจีวัน จังหวัดท่าขี้เหล็ก เมียนมา ซึ่งเดินทางกลับมาประเทศไทยผ่านด่านถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 จึงเข้ารับการกักตัวในสถานที่กักกันในพื้นที่ ( Local quarantine : SLQ) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
สำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ เป็นหญิง อายุ 20 ปี, 21 ปี (3 คน), 22 ปี, 23 ปี (2 คน), 25 ปี และ 44 ปี ซึ่งทั้งหมดไม่มีอาการป่วย
ทำให้เชียงรายมีผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มเป็น 20 คน โดยพบในสถานกักกัน 14 คน หลบหนีเข้าประเทศ 5 คน และเป็นผู้ที่หลบหนีเข้าประเทศ มาในเขตอำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 1 คน
ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยสาวประเภทสองใน อำเภอเมืองเชียงราย ที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงหลายแห่ง ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 22 คน และเสี่ยงต่ำมากกว่า 200 คน ผลการตรวจหาเชื้อพบว่ากลุ่มเสี่ยงมีผลเป็นลบทั้งหมด
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าการพบผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นไปตามความคาดหมาย เพราะทั้งหมดทำงานและพักอาศัยด้วยกันตั้งแต่ข้ามจากฝั่งไทย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองตลอดแนวชายแดน และเตรียมพร้อมรับผู้ที่จะเดินทางกลับผ่านด่านฯ ตามระบบอย่างต่อเนื่อง โดยที่เชียงรายมีผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ทั้งที่รักษาตัวอยู่และอยู่ในสถานที่กักกันรวม 171 คนแล้ว และขอให้ผู้หลบหนีเข้ามาก่อนหน้านี้รีบเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเร็ว และเชื่อมั่นว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะผู้พบเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในสถานกักกันแล้ว เชื่อว่าหากผ่านไปอีก 14-25 วัน เชียงรายก็จะปลอดภัย
ด้านนายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ผู้ป่วยทั้ง 9 คนที่มีการรายงานในวันนี้ อยู่ในกลุ่มผู้ที่เดินทางผ่านด่านถาวรฯ พร้อมกัน 16 คน โดยอีก 7 คนไม่พบเชื้อ
นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เปิดเผยว่าโรงพยาบาลได้เตรียมห้องผู้ป่วยไว้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้ถึง 30 เตียง และปรับอาคาร 5 ชั้นเพื่อดูแลรักษา จึงมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้ โดยผู้ป่วยรายแรกจะครบกำหนดการรักษา หายเป็นปกติได้ในวันที่ 8 ธันวาคม นี้แล้ว
....