หลังประเทศไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) จากสหภาพยุโรป ในสินค้าเกี่ยวกับภาษีกว่า 700รายการพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไทยถูกตัดสิทธิ์ เพราะถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีรายได้มากขึ้น จึงเป็นธรรมดาที่จะถูกตัดสิทธิภาษี ไม่ได้มีประเด็นอื่นมาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ต้องเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าให้มากขึ้น เพื่อยกระดับการแข่งขัน โดยรวมยังมองว่าเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ด้วยการที่ค่าแรงของประเทศไทยมีต้นทุนสูงกว่าหัวละ 300 บาทต่อวัน จึงเป็นข้อเสียเปรียบหนึ่งทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงถูกกว่า ส่วนตัวยังมองว่าโดยรวมประเทศเริ่มเข้าสู่ภาวะสงบและดีขึ้น พร้อมระบุว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะใช้อำนาจเท่าที่จำเป็นในด้านความมั่นคงเท่านั้น และตัวเองก็ไม่เคยหวังจะสืบทอดอำนาจหรือกระทำเพื่อกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยยืนยันว่าตัวเองเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาประเทศในระยะสั้นๆเท่านั้น
ส่วนการปรับปรุงกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศเป็นกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมนั้น นายกฯระบุว่า ยังต้องมีการปรับโครงสร้างกระทรวงและการจัดตั้งคณะทำงานอีกมาก โดยต้องรอกฎหมายอีกกว่า 9 ฉบับที่ต้องผ่านการเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ส่วนตัวได้เร่งให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ เนื่องจากการปรับโครงสร้างดังกล่าวเกี่ยวข้องกับประชาชนและการใช้บริการโครงข่าย3 Gและ4Gด้วย
ขณะที่ราคาข้าว พบว่า ราคาขึ้นมาอยู่ที่ 12,900บาทต่อเกวียน ส่วนราคายางก็ปรับขึ้นมาที่ 56 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งส่วนตัวหวังให้ขึ้นเป็น 62 บาทให้ได้โดยเร็ว แต่ยังพบปัญหาความชื้นและปัจจัยต่างๆอยู่ ยืนยันว่าจะเร่งแก้ไข
ส่วนการโยกย้ายตำรวจจำนวนมาก ก็ขอให้เป็นไปตามหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา ขณะที่ความผิดเรื่องป้ายโฆษณาบนป้อมจราจร ก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากผู้ใดไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็มีสิทธิที่จะได้รับความถูกต้อง