เจ้าหน้าที่สนามบินฮาวายควบคุมตัวคู่สามีภรรยาชาวอเมริกัน ฝ่าฝืนมาตรการกักตัว และยังเดินทางด้วยเครื่องบินทั้งที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
ตำรวจเกาะคาไว รัฐฮาวาย เปิดเผยว่า นายเวสลีย์ มอริเบ้ อายุ 41 ปีและนางคอร์ทนีย์ ปีเตอร์สัน อายุ 46 ปีกับลูกชายอายุ 4 ขวบ เป็นชาวเกาะคาไว ออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ และเมื่อเดินทางกลับมาพวกเขาต้องมาเปลี่ยนเครื่องบินและเข้ารับการตรวจโควิด-19 ที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน โดยทราบผลการตรวจขณะที่อยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงให้ทั้งคู่แยกกักตัวแต่ปรากฏว่าทั้งคู่ฝ่าฝืนคำสั่ง ยังเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ กลับมาที่ฮาวาย เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบ เมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงสนามบินเมืองลิฮู เมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐฮาวาย เจ้าหน้าที่จากกรมอนามัยและตำรวจจึงควบคุมตัวไปที่ห้องแยกกักตัว และแจ้งข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับการเดินทางทั้งที่ทราบว่ามีผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวกทำให้ผู้โดยสารคนอื่นตกอยู่ในอันตรายถึงแก่ชีวิต ต่อมาทั้งคู่ได้รับการประกันตัววงเงินคนละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเด็กถูกแยกให้อยู่ในการดูแลของสมาชิกในครอบครัว
ด้านสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ เปิดเผยว่า สายการบินมีแบบฟอร์มให้ผู้โดยสารกรอกรายละเอียดเพื่อยืนยันว่าพวกเขามีผลการทดสอบโควิด-19 เป็นลบในช่วง 14 วันก่อนออกเดินทาง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสายการบินจึงมีประกาศห้ามทั้ง 2 คนเดินทางกับสายการบิน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้ว่าการรัฐฮาวายได้อนุมัติตามคำขอของนายกเทศมนตรีเกาะคาไวให้ยกเว้นเกาะแห่งนี้ ไม่ต้องเข้าร่วมในโครงการทดสอบก่อนการเดินทางของรัฐเป็นการชั่วคราว แต่หลังจากที่มีกรณีของนายมอริเบ้และนางปีเตอร์สัน ทุกคนที่เดินทางมาที่เกาะคาไวต้องเข้ารับการกักตัว 14 วันแม้ว่าจะมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบก็ตาม
....