รองอธิบดีกรมชลฯ สั่งระดมคน-เครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำในพื้นที่ภาคใต้

          การให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากฝนตกหนักและทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตร ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในบางพื้นที่ยังมีฝนตกหนักและคาดว่าปริมาณฝนจะเริ่มลดลงตั้งแต่วันนี้ (3 ธ.ค. 2563) เป็นต้นไป สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าประจำจุดเสี่ยงและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีหากเกิดวิกฤต

         สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา ตรัง และนราธิวาส ส่วนจังหวัดที่เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสตูล

         ในส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช มีฝนตกหนักในพื้นที่ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.2563 ถึงปัจจุบัน ทำให้ระดับน้ำในลำคลองเพิ่มสูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะนี้มีพื้นที่น้ำท่วมขังรวม 16 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.พระพรหม อ.ชะอวด อ.หัวไทร อ.ลานสกา อ.เชียรใหญ่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.สิชล อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา อ.ขนอม อ.ปากพนัง อ.ทุ่งสง อ.จุฬาภรณ์ อ.พิปูนและ อ.นาบอน       

          สถานการณ์น้ำในคลองท่าดี และแม่น้ำตาปี มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

          สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 27 เครื่อง ช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่อ.เมือง 7 เครื่อง อ.ชะอวด 5 เครื่อง อ.ปากพนัง 12 เครื่อง  อ.ทุ่งใหญ่ 3 เครื่อง พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 22 เครื่อง ในเขตพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำนวน 15 เครื่อง และในเขต อ.ปากพนัง จำนวน 7 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมือง เพื่อลดผลกระทบของประชาชนให้มากที่สุด

CR:ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์