ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563
ดินสไลด์ปิดเส้นทางรถไฟ สถานีช่องเขา-ร่อนพิบูลย์
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้เกิดดินสไลด์ จนต้องปิดเส้นทางรถไฟ ช่วง กม.770/17-19 ระหว่างสถานีช่องเขา-ร่อนพิบูลย์ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาแก้ไขสถานการณ์เป็นเวลานาน เพื่อเปิดการเดินรถ จึงต้องงดให้บริการในวันนี้ 10 ขบวน นายนิติ ชัยภูมิ รักษาการนายสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก แจ้งประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารของวันนี้ สามารถคืนตั๋วโดยสารและรับเงินคืนได้ ณ สถานีรถไฟใกล้บ้านได้ทันที สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ (3 ธ.ค.) รอติดตามประกาศอีกครั้งว่าจะสามารถเปิดเดินรถได้หรือไม่ ส่วนรถไฟขบวนท้องถิ่นจากสุไหงโก-ลก จะให้บริการสิ้นสุดปลายทางที่สถานีรถไฟพัทลุง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำไหลหลาก จากการที่ฝนตกติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน จนถึงปัจจุบันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทำให้ประชาชน เกษตรกรรม ได้รับผลกระทบ ซึ่งได้สั่งให้หน่วยงานได้สนธิกำลังให้ความช่วยเหลือ บรรเทาสถานการณ์ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และกระทรวงต่าง ๆ ตามแนวปฏิบัติที่ได้ดำเนินการมาในหลายพื้นที่แล้ว
นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีพื้นที่น้ำท่วมขัง 7 จังหวัด ยกเว้น จังหวัด สตูล และยะลา ที่สถานการณ์ผ่อนคลายลงแล้ว อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังคงเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สั่งทุกฝ่าย ทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และหน่วยแพทย์ดูแล ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ส่วนประชาชนหากต้องการความช่วยเหลือ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งให้กำลังใจประชาชนที่กำลังประสบปัญหาจากอุทกภัยในครั้งนี้ เรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวัง และเตรียมตนเองให้พร้อมอยู่เสมอ หน่วยงานเร่งเตือนประชาชนให้ได้รับรู้ข่าวสารอย่างต่อเนื่องและการรับมือในสถานการณ์ รวมทั้งรายงานผลการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยให้นายกรัฐมนตรีทราบทุกระยะด้วย
เชียงรายไม่เอาผิด คนลักลอบเข้าเมืองช่องทางธรรมชาติ เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการคัดกรองโควิด-19
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นไวรัสโควิด-19 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมแจ้งว่าหน่วยฯได้เพิ่มกำลังพลเข้าสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผ่านแนวชายแดนอีก 80 นาย และได้ประสานกับทุกภาคส่วน รวมถึงคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี เพื่อใช้มาตรการคุมเข้มตลอด 24 ชั่วโมง ให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา ทยอยกลับเข้ามาตามช่องทางที่ถูกกฎหมาย เพื่อรับการตรวจหาเชื้อตามมาตรฐานสาธารณสุขด้วย มีรายงานว่าในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก พบการติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 15 คน รวมผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 64 คนแล้ว
นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ได้มีผู้แสดงตนขอกลับเข้ามาผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 แล้วจำนวน 31 คน จากการประสานงานผ่านทีบีซีฝ่ายไทย และได้รับแจ้งจากผู้จัดการโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก สถานที่กลุ่มหญิงสาวไปทำงาน-ไปเที่ยว แล้วลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยก่อนพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา พิจิตร กรุงเทพฯ และราชบุรี ว่ามีคนไทยทำงานอยู่ในโรงแรมจำนวน 180 คน
ล่าสุดมีผู้แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับมาอีก 17 คน ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ก็เตรียมพร้อมรับกลุ่มคนดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองต่อไป
ส่วนพื้นที่ภายในจังหวัดนั้นก็ได้มีประกาศให้ผู้ที่เคยลักลอบเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านรอบ 1 เดือนที่ผ่านมานี้ ให้ไปพบกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสามัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ฯลฯ เพื่อรับการตรวจ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องขอให้แสดงตัวเพื่อให้ได้รับการอำนวยความสะดวกและป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่สังคมด้วย
ด้านนายณรงค์ ลือชา หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าขณะนี้ได้มีการนำรถโมบายพระราชทานออกตรวจโควิด-19 มาบริการตรวจโรคที่เชียงรายแล้ว 2 คัน โดยประจำอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 จำนวน 1 คัน และบ้านป่าเหมือด ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งโรงแรมที่หญิงสาวที่ลักลอบข้ามเข้ามามักไปพักก่อนจะเดินทางเข้าสู่ชั้นในของประเทศ อีก 1 คัน รองรับการตรวจได้วันละ 200-300 คน สามารถสนับสนุนกรณีกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งคนขับรถไปส่งหญิงสาว พนักงานโรงแรม ชาวบ้านในชุมชน ฯลฯ และจะขยายงานไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ผู้ว่าฯพิจิตร เข้มตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 4 คน เสี่ยงต่ำ 200 คน
หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกในจังหวัดพิจิตร นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรแถลงว่า นับเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกในพื้นที่เป็นหญิงอายุ 25 ปี เดินทางมาจากประเทศเมียนมา ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ จากประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่กรุงเทพฯ เมื่อได้รับการประสาน ข้อมูล ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่แบ่งการปฏิบัติงานออกเป็น 3 ทีม ประกอบด้วย
1.ทีมสืบสวนหาผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ
2.ทีมค้นหานำตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดเชิงรุก มาตรวจเชื้อ และเข้าสู่ระบบกักตัว และ
3.ทีมเคลียร์พื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อไป ทั้งหอพัก และสถานบันเทิง
ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อจะออกเที่ยวที่สถานบันเทิง ไม่ได้ไปห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ชุมชนอื่นๆ และทันทีที่ทราบว่า ตัวเองติดเชื้อ ได้กักตัวไม่ออกไปไหน จึงสบายใจได้ในระดับหนึ่ง ขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก ใช้ชีวิตปกติแบบ New normal ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด สำหรับจังหวัดพิจิตร ยืนยันจะดำเนินมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคอย่างดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดในพื้นที่
นายแพทย์กมล กัญญาประสิทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ในระหว่างที่อยู่ในพื้นที่ ช่วงวันที่ 28 – 30 พ.ย. 2563 ส่วนใหญ่เป็นสถานบันเทิง ได้แก่ เบิร์ดบาร์ คร็อกโคได โดยมีผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 3 คน เป็นเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกัน และอีก 1 คน เป็นช่างทำเล็บ ทั้ง 4 คน ได้รับตัวมาตรวจเชื้อและจะนำเข้าสู่ระบบกักตัวต่อไป ส่วนครอบครัวให้กักตัวที่บ้านเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ
ส่วนพนักงานของสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ได้รวบรวมรายชื่อเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโรคต่อไป รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในสถานที่เดียวเวลาเดียวกับผู้ติดเชื้อ
เบื้องต้นมีจำนวนผู้มีความเสี่ยงต่ำจำนวนกว่า 200 คน สามารถขอตรวจเชื้อได้ที่โรงพยาบาลพิจิตรและโรงพยาบาลอำเภอทุกแห่ง โดยมีทีมรับแจ้งหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (CDCU) ส่วนสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ได้ปิดทำความสะอาด 3-7 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวจังหวัดพิจิตรด้วย
สำหรับงานต่างๆ ที่กำหนดจัดไว้แล้ว เช่น การประชุม การแสดงสินค้า ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรย้ำว่า สามารถดำเนินการได้ แต่ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งการคัดกรองโรค การลงทะเบียนผู้ร่วมงาน การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ อย่างเคร่งครัด พร้อมย้ำในตอนท้ายว่า ขณะนี้ พบการปล่อยข่าวปลอม ข่าวลวงทางโซเซียลมีเดียว่า มีผู้ป่วยผู้ชายเข้ามาในพื้นที่และผู้ว่าฯ สั่งปิดโรงแรม ซึ่งไม่เป็นความจริง จึงขอความร่วมมืออย่าแชร์ข่าวปลอม สร้างความตื่นตระหนก ซึ่งส่งจะผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้านเรา
อิ๊งค์ วรันธร กักตัว 14 วัน หลังขึ้นเครื่องลำเดียวกับผู้ติดเชื้อ และนั่งใกล้กัน
หลังล่าสุดนักร้องสาว อิ๊งค์-วรันธร ออกมาประกาศผ่านโซเชียลของตนเองว่าขอกักตัว 14 วันหลังขึ้นเครื่องบินลำเดียวกับคนที่ติดโควิด-19 โดยสาวอิ๊งค์ลงรูปในสตอรี่อินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก พร้อมเขียนข้อความว่า “เบื้องต้นขอแจ้งว่า วันนี้งานXXX ต้องเลื่อนไปก่อนนะคะ เนื่องจากได้รับข้อมูลจากทางกรมควบคุมโรคช่วงบ่าย ว่ามีผู้ติดเชื้อ covid19 ขึ้นเครื่องมาลำเดียวกันและที่นั่งบริเวณใกล้ๆในวันที่28พ.ย. ไฟล์ทจากดอนเมืองไปพิษณุโลก ทำให้ทางกรมควบคุมโรคต้องให้อิ๊งค์และทีมงานกักตัวด่วน รายละเอียดอย่างละเอียด ทางค่ายและอิ๊งค์กำลังรวบรวมจะแจ้งให้ทราบด่วนที่สุดค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและขอโทษทางร้านด้วยนะคะ
ก่อนหน้านี้ โบกี้ ไลอ้อน ประกาศกักตัว 14 วัน หลังไปเล่นคอนเสิร์ตที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเข้าร่วมงานด้วย
ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย กระทบตลาดหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศปิดวันนี้ที่ระดับ 1,417.95 จุด ลดลง 2.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 78,203.81 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบไม่กว้าง แม้ว่าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า นายกรัฐมนตรีมีสิทธิใช้บ้านพักรับรองของกองทัพบก พร้อมวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้สิ้นสุดลง ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้อยู่แล้ว จีงไม่ได้มี Surprise ต่อตลาด แต่คนหันไปมองการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ ซึ่งล่าสุดพบผู้ลักลอบกลับจากเมียนมาติดเชื้ออีก 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทำให้หุ้นปรับตัวลงทันที ดังนั้น ปัจจัยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จึงเป็นปัจจัยถ่วงตลาดฯ
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกเล็กน้อยในวันนี้ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยความหวังเกี่ยวกับการแจกจ่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19ที่จะเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดนั้น ได้ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขาย ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 26,800.98 จุด เพิ่มขึ้น 13.44 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง จากแรงขายทำกำไร หลังจากที่ฮั่งเส็งเปิดบวกกว่า 100 จุดเมื่อเช้านี้ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับยอดติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 26,532.58 จุด ลดลง 35.10 จุด
ศบศ. เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวภูเก็ต ในวันธรรมดา
ผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) นายดนุชา พิชยนันทน์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบศ.มีความเป็นห่วงภาคการท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดท่องเที่ยวหลัก โดยหลังจากนี้ไปจะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดา คือ วันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดีให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะมีมาตรการทางการเงินที่เหมาะสมช่วยเหลือผู้ประกอบการ และจะส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตให้มากขึ้นภายใต้มาตรการที่รัดกุม นอกจากนี้จะส่งเสริมการประชุมสัมมนาที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ให้มากขึ้น ส่วนชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในเมืองไทยและมีภรรยาเป็นคนไทย จะพยายามดึงกลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทยให้เร็วที่สุด โดยจะมีการอำนวยความสะดวกด้วยความรัดกุม
คุกโจชัว หว่องและพวก 7-13 เดือน ชุมนุมประท้วงปีที่แล้ว
ศาลฮ่องกงมีคำพิพากษาให้จำคุกนายโจชัว หว่อง อายุ 24 ปี พร้อมด้วยนายอิวาน ลัม อายุ 26 ปี และน.ส.แอกเนส โชว์ อายุ 23 ปี สามนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวฮ่องกงจากความผิดทางอาญาที่เกี่ยวกับประท้วงใหญ่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของตำรวจฮ่องกงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนปีที่แล้ว โดยศาลตัดสินจำคุก นายหว่องรวม 13 เดือน 15 วัน ขณะที่น.ส.โชว์และนายลัมจะถูกจำคุก 10 เดือนและ 7 เดือน ตามลำดับ
ด้านน.ส.โชว์ ร้องไห้ หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ ขณะที่นายหว่องตะโกนบอกนักข่าวขณะถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำควบคุมตัวออกจากศาลไปยังรถควบคุมนักโทษ ด้านองค์กรนิรโทษกรรมสากล องค์กรสิทธิมนุษยชนของอังกฤษ วิจารณ์คำตัดสินของศาลฮ่องกง ระบุว่าเป็นวิธีการหนึ่งของทางการฮ่องกงในการส่งสัญญาณถึงชาวฮ่องกง โดยเฉพาะกลุ่มที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่าอาจจะเป็นกลุ่มต่อไปที่จะถูกลงโทษจำคุก
ลูกน้องแก็งทวงหนี้แจ้งความแล้ว หลังถูกเจ้านายซ้อม
กรณีโลกโซเชียล แชร์คลิปแก๊งทวงหนี้บริษัทแห่งหนึ่ง จับลูกน้องกระทืบ ใช้สายยางตี ท่ามกลางพนักงานหลายคนนั่งดูเหตุการณ์อย่างหน้าตาเฉย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือ กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ สั่งการให้ตรวจสอบและพิสูจน์ทราบที่มาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมให้การช่วยเหลือและอำนวยตามขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่าเป็นการท้าทายกฎหมายบ้านเมือง สร้างความสะเทือนใจ และ ความอับอายให้แก่ผู้เสียหาย
พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผู้บังคับการ สอท.2 ได้สืบสวนสอบสวนและแสวงหาพยานหลักฐานในโซเชียลมีเดีย พบข้อมูลของ บริษัท ที.เอ็ม.เอ็น.กรุ๊ป จำกัด 2018 ประกาศรับสมัครพนักงานเก็บเงิน , ข้อมูลกรรมการบริษัท , ข้อมูลผู้เสียหาย และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ปรากฏในคลิปเหตุการณ์ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเดือน ม.ค. 2563 พื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร สาเหตุเกิดจากผู้เสียหายขัดคำสั่งเจ้าของบริษัท
ล่าสุด วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ในข้อหาความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายฯ” พร้อมดำเนินการคุ้มครองพยาน และดำเนินการสืบสวนขยายผลมูลฐานความผิดที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หลังจากนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร จะดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา โดยกำชับให้นำตัวผู้ก่อเหตุและพวกมาดำเนินคดีโดยเร็ว