คนไทยตกค้างฝั่งเมียนมาอีกเป็นร้อย แต่ขอกลับผ่านด่านฯ แค่ 10 คน
นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศให้คนที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านกลับเข้ามาทางช่องทางที่ถูกต้อง โดยเจ้าหน้าที่จะรับตรวจโรคเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและการระบาดเป็นอย่างดี พบผู้แจ้งความประสงค์ผ่านเจ้าหน้าที่เมียนมาขอกลับประเทศไทยแล้ว 10 คน โดยจะเดินทางเข้ามาทางจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่ายังมีคนตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก อีกกว่า 50-100 คน จึงต้องพยายามประสานงานเพื่อไม่ให้ลักลอบข้ามมาเหมือนรายก่อนหน้านี้อีก
เชียงราย วางแผนจัดการหนีเข้าเมือง
นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 หลังจากมีผู้ติดเชื้อหลบหนีข้ามจาก จ.ท่าขี้เหล็ก เข้ามา อ.แม่สาย 2 คน และหลบหนีข้ามแม่น้ำเมย อ.แม่สอด จ.ตาก 4 คน มาท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เมือง แม่จัน แม่สาย ที่ประชุมสรุปแนวทางกรณีผู้ลักลอบเข้าประเทศ ดังนี้
-หากตรวจพบต่อหน้าในพื้นที่ผลักดันกลับทันที
-หากเข้ามาในพื้นที่ ให้นำส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
-สำหรับคนไทย คนที่ถือบัตรหัว 0 (บัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน) แจ้งผู้นำฝ่ายปกครอง นำส่งตำรวจ หากจับกุมได้ตอนกลางคืน ให้กักกันตัว ณ จุดที่ตั้งหน่วยทหาร การสอบสวน คัดกรอง แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมตรวจสอบทุกครั้ง และส่งเข้าสถานที่กักกันตัว LQ ที่กองร้อย ตชด.ที่ 327 อ.แม่จัน รับได้ประมาณ 40 คน
-หากพบผู้ที่ถือบัตรหัว 0 หรือบัตรหัว 6 (บัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน) แอบข้ามไปมา จะถูกเพิกถอนบัตรทันทีและผลักดันออก
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.เชียงราย
ผลตรวจชาวเมียนมาที่หลบหนีเข้ามาที่สัตหีบ จ.ชลบุรี ไม่พบติดเชื้อ
เจ้าหน้าที่ในพื้นที่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จับกุม น.ส.โซโซ เมียะ อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา ที่หลบหนีเข้ามาพักอยู่กับสามีชาวเมียนมา ในซอยชายโสด หมู่ 2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จากการสอบถาม น.ส.โซโซ เมียะ พูดภาษาไทยได้เพียงเล็กน้อยทราบว่า จ่ายเงินให้กับนายหน้า จำนวน 13,500 บาท พาเดินลัดเลาะมาลงเรือนำมาขึ้นฝั่งไม่ทราบว่าที่ใด ก่อนเดินผ่านตามช่องทางธรรมชาติ และมีรถตู้มารับจนสามารถเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ผ่านด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ จนมาถึงสัตหีบและมาพักกับสามีชาวเมียนมาที่ทำงานเป็นลูกจ้างในตลาดเช้าสัตหีบ ไม่ได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ นำตัวส่งโรงพยาบาลสัตหีบ เพื่อตรวจเชื้อโควิด-19
ล่าสุด ผลการตรวจเป็นปกติ ไม่พบเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และส่งต่อ ตม.พัทยา ผลักดันกลับประเทศ
นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ สั่งการให้กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองสัตหีบ นำเจ้าหน้าที่พร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส เข้าฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสบริเวณที่ น.ส.โซโซ เมียะ เข้ามาหลบพักอาศัย รวมถึงบริเวณใกล้เคียง สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย
"บริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม" เตรียมทดสอบวัคซีนโควิด-19 กับคนกลางปี 64
ทั่วโลกกำลังแข่งขันกันผลิตและทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในส่วนของไทย คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อจองซื้อวัคชีนจำนวน 26 ล้านโดสจากบริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด คาดว่า จะสามารถผลิตและใช้ได้จริงกลางปี 2564 ขณะที่ในประเทศก็กำลังเร่งวัคซีนทางเลือก
บริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด เป็นสตาร์ตอัพสัญชาติไทยที่ได้รับการบ่มเพาะจากศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ในกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อการผลิตที่ใช้เซลล์พืช เงินลงทุน 3.94 ล้านบาท
น.ส.สุธีรา เตชคุณวุฒิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสร้างพื้นที่ตามหลักเกณฑ์ที่ดีในการผลิตยา (GMP) เพื่อใช้สำหรับทดสอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับอาสาสมัคร คาดว่า ขั้นตอนดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้ภายในกลางปี 2564 สำหรับพื้นที่ GMP จะต้องใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน โดยจะอยู่ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งหากผลทดสอบออกมาประสบความสำเร็จ คาดว่า จะสามารถผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้ประมาณ 2 ล้านโดสต่อเดือน โดยจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการพัฒนาวัคซีนที่มาจากพืชสำหรับคนไทย และเป็นบริษัทไทยรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) ที่สามารถทำได้
บริษัทใบยา จะเป็นรายแรกในไทยหรือไม่ที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้ คงไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน เพราะในเวลานี้ก็มีอีก 1 บริษัทที่ได้ดำเนินการพัฒนามาอยู่ในขั้นตอนในระดับที่ไล่เลี่ยกัน แต่หากเป็นวัคซีนที่มีแหล่งที่มาจากพืชบริษัทจะเป็นรายแรกของไทยและรายแรกของภูมิภาคนี้ที่ทำได้สำเร็จ
สำหรับราคาวัคซีนที่บริษัทผลิตได้จะอยู่ที่เท่าใด ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนในเวลานี้ แต่เชื่อว่าจะมีราคาต่ำกว่าราคาของวัคซีนในตลาดโลก ที่ประเมินกันว่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 บาทต่อ 1 โดส
คลัง เสนอศบศ.ขยายวงเงิน ในโครงการคนละครึ่ง เฟส 2
ช่วงบ่ายนี้ กระทรวงการคลัง จะเสนอโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบศ.ที่มีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเป็นประธาน เบื้องต้นจะเป็นการให้วงเงินใช้จ่ายสำหรับผู้ได้รับสิทธิใหม่ พร้อมขยายเวลาโครงการไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. 2564 เพื่อให้ครอบคลุมช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนที่ประชาชนมักใช้จ่ายกันมากกว่าปกติ
จำนวนผู้จะได้รับสิทธิใหม่ในเฟส 2 รวมถึงเงินใช้จ่ายที่รัฐจะจัดสรรให้ ที่ประชุม ศบศ.จะพิจารณา รายงานระบุว่า เบื้องต้นกระทรวงการคลัง จะเสนอวงเงินที่รัฐจะช่วยออกใหม่ประมาณ 4,500 บาทต่อคน ส่วนผู้ที่ได้สิทธิเดิม 10 ล้านคน รัฐจะออกเงินคนละครึ่งให้เพิ่มอีก 1,500 บาท โดยให้สิทธิใช้จ่ายวันละไม่เกิน 150 บาทเหมือนเดิม เพราะต้องคำนวณเม็ดเงินการใช้จ่ายที่จะลงสู่ระบบเศรษฐกิจและงบประมาณที่ต้องใช้ด้วย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะหารือกับศบศ.ขอให้พิจารณาเอาร้านค้าในโครงการคนละครึ่งที่มีกว่า 800,000 ร้านค้าเข้ามาอยู่ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าอยู่ 64,790 ร้านค้า เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะได้รับแจกคูปองใช้จ่ายค่าอาหารหรือค่าแหล่งท่องเที่ยววันละ 600-900 บาทต่อห้องพักต่อคืน สามารถนำไปใช้ในร้านค้าโครงการคนละครึ่งที่มีจำนวนมากกว่าได้ด้วย