ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้มีวาระพิจารณาที่น่าสนใจ อาทิ มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเกี่ยวกับการบังคับคดีและการบังคับคดี ตามคำพิพากษา หรือคำสั่ง พ.ศ. ...
กระทรวงการคลังจะรายงานเป้าหมายนโยบายการเงิน ประจำปี 2558
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอแนวทางปฏิรูปยางธรรมชาติ เพื่อนำไปสร้างลานกีฬา
นอกจากนี้ ครม.จะรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการ และคณะอนุกรรมการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และรายงานสรุปกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
และภายหลังการประชุม ครม.เสร็จสิ้น 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ ปี 2559 จะหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เพื่อกำหนดกรอบรายได้ รายจ่าย และสมมติฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ในวันนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการซักถามจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อรวบรวมคำถามไปสอบถามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ถูกกล่าวหาระหว่างการแถลงเปิดคดีถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 และ 9 มกราคมนี้ โดยกำหนดให้สมาชิกที่ต้องการซักถามนายนิคมและนายสมศักดิ์ ส่งประเด็นคำถามมายังคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สนช. (วิป สนช.) ภายในวันที่ 7 มกราคม และข้อซักถามต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ กำหนดให้ส่งประเด็นมายัง วิป สนช. ภายในวันที่ 8 มกราคม
ส่วนกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย เตรียมยื่นหนังสือต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เพื่อให้ยุติวาระพิจารณาถอดถอนนายสมศักดิ์ นายนิคม และนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยอ้างว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. 3 คน ขาดคุณสมบัติในการเป็นกรรมการ ป.ป.ช.มาตั้งแต่ต้นนั้น นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. คนที่1 มีความเห็นว่า ประเด็นนี้น่าจะนำมาใช้เป็นข้อหักล้างและประเด็นต่อสู้แห่งคดีในที่ประชุม แทนที่จะนำไปเปิดเผยผ่านสื่อ สำหรับกระบวนการพิจารณาในวันที่ 8 มกราคม จะเป็นวาระพิจารณาถอดถอน 2 สำนวน คือ สำนวนของนายสมศักดิ์ และนายนิคม ซึ่งคาดว่าแต่ละสำนวนจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2 ชั่วโมง
ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ประเทศพม่าจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการระดับสูงความร่วมมือเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระหว่างไทย-พม่า (เจเอชซี) ในระหว่างวันที่ 8-9 มกราคมนี้ โดยฝ่ายไทยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนพม่ามีนายอู ญาณ ทุน รองประธานาธิบดี เป็นประธาน โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าของโครงการทวาย พร้อมทั้งหารือในหลักการเพื่อเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างเต็มรูปแบบ หลังการเปิดประมูลโครงการระยะเริ่มแรกไปแล้ว
ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ฟื้นกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อให้เป็นเงินออมของผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่เป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคมหรือสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) นั้น นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กฎหมาย กอช.มีความซ้ำซ้อนและอาจจำเป็นต้องทบทวนเรื่องนี้ ซึ่งนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องยกเลิก กอช. เพราะนโยบายปัจจุบันสนับสนุนการออมเงินของแรงงานนอกระบบ ตามกฎหมายประกันสังคมมากกว่า โดยสมาชิกระบบประกันสังคมตามมาตรา40(8) นั้นมีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคนแล้ว หากจะต้องโอนย้ายสมาชิกมาอยู่ภายใต้ กอช. จะต้องออกประกาศกฎกระทรวงเพิ่มเติมอีก 7 ฉบับ นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์กอช. ยังน้อยกว่าระบบประกันสังคม ทำให้ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมไม่อยากโอนสิทธิ์ ดังนั้นกระทรวงการคลัง จึงจะเสนอ สนช. เพื่อขอยกเลิกกฎหมาย กอช. และทำความเข้าใจกับนายกรณ์ จาติกวณิชย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ด้วย
เมื่อวานนี้ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทำเนียบรัฐบาล พระครูพุทธบทบริบาล ประธานดำเนินงานมหกรรมประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท (เขาคิชฌกูฏ) พร้อมด้วยผู้บริหารท้องถิ่นจาก อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้คณะสงฆ์บริหารพระพุทธบาท เป็นผู้จัดงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทฯ เช่นที่ผ่านมา มีนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชนรับเรื่อง ซึ่งเดิมนั้นคณะสงฆ์บริหารพระพุทธบาท ของทั้ง 9 วัดในพื้นที่จะเป็นผู้จัดงาน แต่เมื่อพระครูธรรมสรคุณ เจ้าอาวาสวัดกะทิง ที่เป็นประธานในการจัดงานเดิม มรณภาพลง พระครูวิโรจน์ธรรมานุกูล เจ้าอาวาสวัดกะทิง คนใหม่ ได้อ้างสิทธิในการจัดงานเพียงวัดเดียว และได้ให้สิทธิสมาคมตำรวจ ที่มี พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเดโช เป็นผู้จัดงาน ซึ่งหลังจากที่รับเรื่องแล้ว นายสุขสวัสดิ์ ได้ส่งเรื่องให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการต่อ
*-*