หลายจังหวัดในภาคใต้เกิดน้ำท่วมจากฝนตกหนัก นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ระดับน้ำในลำน้ำต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น จนไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 จังหวัด
1.จังหวัดนครศรีธรรมราช : ฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วงวันที่ 27-30 พ.ย. 2563 ทำให้ระดับน้ำในคลองธรรมชาติต่างๆเพิ่มสูงขึ้น น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองและซอยที่มีระดับต่ำ ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ปัจจุบันระดับน้ำในคลองที่ไหลผ่านตัวเมืองทั้ง 5 สาย ได้แก่ คลองคูพาย คลองสวนหลวง คลองป่าเหล้า คลองนครน้อย และคลองท่าชัก เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่ล้นตลิ่ง คาดว่า หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำได้ภายใน 1-2 วันนี้
-สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 17 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 13 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ ยังได้สำรองเครื่องสูบน้ำไว้ 50 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 44 เครื่อง และรถแบคโฮอีก 30 คัน พร้อมช่วยเหลือประชาชน
2.จังหวัดพัทลุง:ฝนตกหนักมากบริเวณลุ่มน้ำคลองท่าแนะ ลุ่มน้ำคลองสะพานหยี ลุ่มน้ำคลองป่าบอน ส่งผลให้น้ำไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาชัยสน อำเภอกงหรา อำเภอป่าบอน และอำเภอเมือง
-สถานีวัดน้ำบ้านคลองลำ อ.ศรีนครินทร์ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.35 เมตร แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น
-สถานีวัดน้ำบ้านท่าแค อ.เมือง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.83 เมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น
-สถานีวัดน้ำบ้านเขาปู่ อ.ศรีบรรพต ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 37 เซนติเมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น
-สถานีวัดน้ำบ้านพิกุลทอง อ.ควนขนุน ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 33 เซนติเมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น
-โครงการชลประทานพัทลุง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง บริเวณชุมชนโคกเนียน ชุมชนเขาอกทะลุ และบริเวณถนนไชยบุรี และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำอีก 10 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลองลำเบ็ด รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดวโฟวล์ อีก 1 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลองลำเบ็ด เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว
นอกจากนี้ กำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด รวมทั้งบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้
CR:กรมชลประทาน