ดำเนินคดี-ส่งกักตัว 4 คนไทย ลอบข้ามมาจากเมืองเมียวดี
การดำเนินคดี 4 คนไทยที่ไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา และลักลอบข้ามแดนเข้ามาโดยเสียเงินค่าจ้างพาข้ามแดนคนละ 5,500 บาท ทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และถูกเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อด่านพรมแดนแม่สาย และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จับได้ ประกอบด้วย น.ส.นงนุช ศรีหาวงค์ อายุ 28 ปี (เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก) และ น.ส.นิราวรรณ์ จันดาลุย อายุ 29 ปี วางแผนจะเดินทางไปหางานทำที่พัทยา ส่วน น.ส.กนกพร แสนสันเทียะ อายุ 31 ปี และนายภัทรภรณ์ อายุวัฒน์ อายุ 28 ปี วางแผนว่าจะอยู่เที่ยวต่อและจะเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ถูกตรวจพบก่อน
-ผลการตรวจไข้ทั้ง 4 คน ปกติ
-เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่าไม่เดินทางเข้ามาตามช่องทางทางด่านตรวจคนเข้าเมือง
-ทั้ง 4 คนรับสารภาพและยินยอมให้เปรียบเทียบปรับตามกฎหมายกำหนด
-คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายนำตัวทั้ง 4 คน ไปกักตัวที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย และรอผลการตรวจเชื้อโควิด-19
-ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าทั้ง 4 คน ไม่สวมหน้ากากอนามัย
ผอ.รพ.เชียงราย เผยอาการผู้ป่วย 2 คน ไม่อันตราย
กรณีการตรวจเจอผู้ป่วยติดเชื้อ 2 คน ที่จ.เชียงราย และเป็นเพื่อนกับผู้ป่วยที่ จ. เชียงใหม่ นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ทีมแพทย์ อยู่ระหว่างการรักษาผู้ป่วยทั้ง 2 คน มีอาการดีขึ้น ไม่มีอันตราย ขณะที่ โรงพยาบาลเชียงราย มีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ และมีมาตรการในการตรวจหาเชื้อไว้พร้อม หากมีจำนวนมากก็ยังมีโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวงรองรับอีกแห่งหนึ่ง
สธ.ชี้ 3 สาวไทยจากเมียนมา ไม่เข้าข่ายซุปเปอร์สเปรดเดอร์
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวถึง กรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 คนไทยที่ลักลอบเข้าประเทศมาจากเมียนมาจำนวน 3 คนที่ จ.เชียงใหม่ และจ.เชียงราย ถือว่ามีความเสี่ยงเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ (super spreader) หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วการจะเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ จะมี 2 ทาง คือ ต้องมีเชื้อมาก และ อยู่ในที่มีความเสี่ยงแพร่เชื้อ เช่น รถบัส สถานบันเทิง เป็นต้น
รายที่ จ. เชียงใหม่ ที่ไปเที่ยวสถานบันเทิง จากการตรวจสอบยังไม่พบเชื้อ ซึ่งการจะเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์จะมีการแพร่เชื้อจนมีการติดต่อโรค 10 คนขึ้นไป ขณะที่ จ.เชียงใหม่ ไม่มีหลักฐานว่าเข้าข่ายซุปเปอร์สเปรดเดอร์ แต่พฤติกรรมถือว่ามีความเสี่ยงเกิดซุปเปอร์สเปรดดิ้ง อีเวนต์ (superspreading event)
CR:กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ชุดเคลื่อนที่เร็ว ไล่เมียนมากลับฝั่ง หลังพบแอบเดินข้ามแม่น้ำเมย
ชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยอาสารักษาดินแดน แม่สอดที่ 3 จ.ตาก พร้อมสายตรวจผู้ใหญ่บ้านริมเมยหมู่ที่ 2 และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด นำกำลังเข้าประจำการเสริมในจุดล่อแหลม จุดที่ไม่มีรั้วลวดหนามกั้นแนวชายแดนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า พร้อมถางหญ้ารกทึบที่บดบังสายตาตามริมตลิ่งแนวแม่น้ำเมย เนื่องจาก แม่น้ำเมย เส้นพรมแดนไทย- เมียนมา แห้งขอดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่ตกงานช่วงโควิด-19 ระบาด ลักลอบข้ามชายแดนผิดกฎหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแม่สอดเดินเท้าลาดตระเวนในจุดที่ไม่มีรั้วลวดหนามกั้นและเป็นพื้นที่ป่ารกทึบบดบังสายตา พบชายต่างด้าวหลายคนกำลังแอบลักลอบเดินข้ามแม่น้ำเมยมาจากฝั่งจังหวัดเมียวดี และพยายามจะแอบขึ้นฝั่งไทยที่บ้านริมเมย อ.แม่สอด เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้คนต่างด้าวที่กำลังจะลักลอบข้ามแนวชายแดนให้กลับฝั่งประเทศของตนเอง และทันทีที่กลุ่มคนต่างด้าวล่าถอยกลับขึ้นถึงฝั่งเมียนมา เจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาที่ประจำการอยู่บริเวณชายแดนก็ควบคุมตัวกลุ่มชายดังกล่าวไปลงโทษโดยการใช้ไม้เฆี่ยนตีคนละหลายครั้งก่อนควบคุมตัวไปสอบสวน
มีรายงานว่ามีกลุ่มคนไทยอีกหลายคนลักลอบข้ามชายแดนเข้าไปทำงานในสถานบันเทิงและกาสิโนในจังหวัดเมียวดีตั้งแต่ปีที่ผ่านมา กำลังพยายามหาทางลักลอบกลับประเทศไทยเพื่อหนีโควิด-19 ในฝั่งเมียนมา จนเจ้าหน้าที่ต้องเสริมกำลังคุมเข้มในจุดล่อแหลมและท่าข้ามธรรมชาติตลอดแนวชายแดน 5 อำเภอของจังหวัดตากที่มีระยะทางยาวกว่า 542 กิโลเมตร
จ. ท่าขี้เหล็ก เมียนมา พบผู้ติดเชื้อ 34 คน-โรงเรียนแม่สาย เชียงราย หยุด 1-6 ธ.ค.
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
-พบผู้ติดเชื้อชาวเมียนมาในสถานกักดูอาการเป็นตำรวจน้ำประจำท่าเรือบ้านโป่ง ริมแม่น้ำโขง 1 นาย
-คนงานก่อสร้างติดเชื้ออีก 1 คน
-22 พ.ย.2563 พบหญิงสาวชาวชุมชนปงถุน อายุ 20 ปี ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน จุดนี้เป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อคนไทย 3 คน ที่จ. เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย
-28 พ.ย.2563 พบผู้ติดเชื้อ 15 คน
-29 พ.ย. 2563 พบผู้ติดเชื้อ 8 คน
-30 พ.ย. 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 11 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 34 คนแล้ว
ทางการเมียนมา เร่งตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ พร้อมกับใช้มาตรการสกัดโรคอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง
-ปิดสถานบริการ
-เคอร์ฟิว ล็อกดาวน์ ชุมชน ทำให้ชาวไทยที่ข้ามไปทำงานใน จ.ท่าขี้เหล็ก พากันลักลอบข้ามแดนกลับไทยกันอย่างต่อเนื่อง
โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่มีเด็กนักเรียนชาวเมียนมา ข้ามฝั่งจาก จ.ท่าขี้เหล็ก มาเรียนเป็นจำนวนมาก ประกาศหยุดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ระหว่างวันที่ 1-6 ธ.ค.2563 เพื่อความปลอดภัย ให้นักเรียนติดตามการเรียนการสอนทางไกลและออนไลน์จากครูผู้สอนประจำวิชาจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
มทภ.3 ขอให้คนไทยฝั่งเมียนมา เดินทางผ่านด่านให้ถูกต้อง
พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปที่ จ.เชียงใหม่ สั่งกำชับหน่วยขึ้นตรงให้ดูแลสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด โดยให้คุมพื้นที่แนวชายแดน เช่นที่จ. ตาก จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย อย่างเข้มงวด
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า หลังจากโควิด-19 ระบาดมากขึ้น ประชาชนกลัวติดเชื้อทำให้มีการลักลอบเข้ามา อยากฝากไว้ในฐานะที่เป็นคนไทย สามารถเดินทางกลับเข้ามาในช่องทางจุดผ่านแดนถาวรได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากห่วงเรื่องการติดเชื้อเมื่อเข้ามาแล้วขอให้เข้า Local Quarantine ที่รัฐจัดเตรียมไว้ในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นที่แม่สอด หรือแม่สาย เพื่อกักตัวดูอาการ 10 วัน พร้อมทั้งย้ำว่า การที่กลัวความผิดแล้วลักลอบเข้าเมืองในช่องทางที่ไม่ถูกต้อง น่าเป็นห่วงมากกว่า เพราะไม่สามารถควบคุมโรคได้ ไม่แน่ใจว่าเมื่อกลับเข้ามามีเชื้อมาด้วยหรือไม่
สำหรับช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน ได้วางแผนสกัดกั้นชาวต่างชาติที่จะลักลอบเข้ามา เพราะว่าในขณะนี้เราไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศ ส่วนบุคคลในประเทศไม่ต้องกังวลเรื่องโรคติดต่อเราเฝ้าระวัง วางแนวลวดหนาม วางการสกัดกั้นหรือว่าตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ สกัดกั้นคนต่างชาติมาก แต่ถ้าเป็นคนไทยเราพร้อมรับกลับ มั่นใจว่า ระบบสาธารณสุขของเราดูแลคนไทยไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม เมื่อกลับเข้ามาในผืนแผ่นดินไทยแล้วเราดูแลอย่างดี
ชายแดนสระแก้ว ตรวจคัดกรองพ่อค้า-แม่ค้ากัมพูชา ในตลาดโรงเกลือ
สถานการณ์ที่ประเทศกัมพูชา ที่พบผู้ติดเชื้อเป็นครอบครัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และยังไม่รู้ที่มาของการติดเชื้อ ทำให้มีการสั่งปิดพื้นที่เสี่ยงหลายจุด
เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ประจำจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย 1201 ต้องเร่งนำอุปกรณ์วัดความร้อนในร่างกาย ทำการคัดกรองผู้ผ่านแดนอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าชาวกัมพูชา ที่ใช้รถยนต์เดินทางข้ามชายแดนเข้ามาตรวจสอบสินค้าในตลาดโรงเกลือ เฉลี่ย 100 คนต่อวัน
ด้าน พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพราน 12 ได้สั่งการให้ ร.ต.ถนัด มัธยมมาก รองผู้บังคับกองร้อยทหารพราน 1201 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ออกเดินเท้าลาดตระเวนตามแนวชายแดนซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกของตลาดโรงเกลือ และตามช่องทางธรรมชาติที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการลักลอบข้ามชายแดนระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ทั้งกลางวันและกลางคืน ป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมาย
ขณะที่บรรยากาศในตลาดโรงเกลือเริ่มคึกคักขึ้นมาบ้างแล้วเนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย กลับเข้าเปิดร้านจำหน่ายสินค้าไม่น้อยกว่าครึ่ง แต่ทั้งหมดต้องผ่านการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น