การประชุมสภาปฎิรูปแห่งชาติที่มีวาระการพิจารณาการปฎิรูปเร็ว หรือ ควิก วิน ในวาระเรื่องร่างพระราชบัญญัติการจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นอิสระจากหน่วยงานของรัฐ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานคณะกรรมาธิการปฎิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฎิรูปแห่งชาติ ระบุว่า ร่างพระราชบัญญัตินี้ค้างในรัฐสภา มานานหลายรัฐบาลกว่า 17 ปี เพราะติดปัจจัยหลายประการ ข้อดีของร่างฉบับนี้ จะช่วยคุ้มครองผู้บริโภคและประชาชนให้มีสิทธิมากขึ้น และถูกเอาเปรียบน้อยลง เช่น ให้ความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการจากหน่วยงานรัฐและธุรกิจเอกชน โดยมีการสนับสนุนงบประมาณขององค์การไว้ที่ 3 บาท ต่อประชาชนหนึ่งคนการให้ความเห็นต่อหน่วยงานรัฐในการกำหนดนโยบายหรือมาตรการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคและการตรวจสอบการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น
ด้าน นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกสปช. เห็นด้วยกับการจัดตั้งองค์กรอิสระ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจถึงสิทธิของตัวเองมากขึ้น และทำให้ประชาชนถูกเอาเปรียบน้อยลง โดยในอดีตไม่มีองค์กรอิสระจากภาครัฐมาดูแลประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนั้น ควรมีคณะทำงานขององค์กรในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งประชาชนต้องมีสิทธิฟ้องร้องอย่างเป็นธรรม โดยภาครัฐบาลต้องให้การช่วยเหลือไปพร้อมๆกับภาคเอกชนด้วย
ส่วนนาย วันชัย สอนศิริ ระบุว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคยังอ่อนแอและถูกเอาเปรียบอยู่เสมอ โดยการคุ้มครองผู้บริโภคที่ดีที่สุด คือ การให้ประชาชนมีสิทธิและเข้าถึงการปกป้องตัวเอง ซึ่งการมีร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะช่วยให้ภาคประชาชนมีอำนาจมากขึ้น และเป็นการคุ้มครองที่ดีที่สุด ทั้งนี้ต้องมีการบัญญัติกลไกการทำงานขององร์กรอย่างชัดเจนเพื่อให้สามารถนำมาบังคับใช้ได้จริงตามข้อกฎหมาย เมื่อสิ้นสุดการอภิปราย ที่ประชุมได้ลงมติเห็นด้วยต่อร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 215เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง