นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมของอังกฤษ กล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษว่า หลังมาตรการล็อกดาวน์สิ้นสุดในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของอังกฤษจะยังคงอยู่ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในระดับที่ 2 (High Alert) คือห้ามประชาชนเข้าไปคลุกคลีอยู่ในบ้านของครอบครัวอื่น แม้ในปัจจุบัน การพัฒนาวัคซีนประสบผลสำเร็จ ทุกคนเริ่มมีความหวังมากขึ้น แต่ยังมีความจำเป็นต้องเข้มงวดเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการแพร่ระบาด
นายแฮนค็อก ย้ำว่า ทุกคนไม่ควรมองมาตรการควบคุมโรคเป็นการจำกัดเสรีภาพ แต่ควรมองในแง่บวกว่า เป็นข้อแนะนำทางสาธารณสุขเพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว
ในปัจจุบัน ประชาชนราว 23 ล้านคนใน 21 เขตปกครองทางภาคกลาง,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ รวมถึงเมืองแมนเชสเตอร์และมณฑลเคนต์ ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในระดับที่ 3 (Very High Alert)หรือระดับสูงสุด 3 คือห้ามรวมกลุ่มเกิน 6 คน แต่อนุญาตให้พบปะกับคนจากต่างครอบครัวเฉพาะในสถานที่สาธารณะ หรือนอกอาคาร เช่น ลานจอดรถ
ขณะที่กรุงลอนดอนและเมืองลิเวอร์พูลอยู่ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในระดับที่ 2 ห้ามรวมกลุ่มเกิน 6 คนนอกอาคาร แต่ไม่ห้ามการพบปะกันในอาคาร ห้ามประชาชนจากต่างครอบครัวเข้าไปอยู่ในบ้านของครอบครัวอื่น
ส่วนเกาะไวท์ เทศมณฑลคอร์นวอลล์และหมู่เกาะสซิลี ไม่พบผู้ป่วยใหม่ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว จะเป็นที่เดียวที่อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมระดับต่ำสุดคือ ระดับที่ 1 (Medium Alert) ห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 6 คน ทั้งในและนอกอาคาร
ขณะเดียวกัน สถานที่ออกกำลังกายและสถานเสริมความงาม เช่น ร้านเสริมสวย สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติภายใต้มาตรการควบคุมโรคทุกระดับ
นอกจากนี้ รัฐบาลขอให้คนที่สามารถทำงานที่บ้านให้ทำงานที่บ้านต่อไป เพื่อลดโรค ทั้งนี้ อังกฤษ มีผู้ป่วยสะสม 1,557,007 คน เสียชีวิต 56,533 ราย
Cr: BBC