ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน 2563

26 พฤศจิกายน 2563, 12:50น.


ธ.ก.ส.จ่ายเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว รอบ 2 ให้เกษตรกรแล้วกว่า 600,000 ราย



          การแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 เนื่องจาก สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกแต่ละชนิดในปีนี้ลดต่ำกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ส่งผลให้เงินชดเชยส่วนต่างฯ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้ไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างฯ ให้แก่เกษตรกรในงวดที่ 2 ได้ทั้งหมด นายกษาปณ์  เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้หารือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าว เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2563 มีมติให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างฯ งวดที่ 2 ให้กับเกษตรกรตามวันเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรระบุไว้ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร คือตั้งแต่วันที่ 9-14 พ.ย. 2563 จำนวน 636,118 ราย วงเงิน 5,684 ล้านบาท ตามงบประมาณที่เหลือ ในวันที่ 25 พ.ย.2563   



ส่วนเกษตรกรกลุ่มอื่นๆ อีกสองกลุ่ม รอ ครม.อนุมัติงบประมาณ ประกอบด้วย



-เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2563 จำนวน 602,485 ราย วงเงิน 5,641 ล้านบาท



-เกษตรกรที่มีสิทธิ์รับเงินชดเชยส่วนต่างในงวดที่ 3 คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 ได้ประกาศราคากลาง เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2563 และกำหนดชดเชยส่วนต่างราคาประกันไปแล้ว คือ



-ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 3,059 บาท



-ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,281 บาท



-ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,036 บาท



-ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,055 บาท



-ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 996 บาท



          กลุ่มเกษตรกรกลุ่มนี้มีจำนวน 1,497,508 ราย วงเงิน 12,900 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ ได้นำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) แล้ว ซึ่งเมื่อ ครม.ให้ความเห็นชอบ ธ.ก.ส.จะเร่งโอนเงินให้แก่เกษตรกรโดยเร็วต่อไป



          นายกษาปณ์ กล่าวว่า ธ.ก.ส มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับการดำเนินโครงการประกันรายได้พืชเศรษฐกิจสำคัญตามนโยบายรัฐบาลทั้ง 5 ชนิด ไม่ได้ขาดสภาพคล่อง



คาดสัปดาห์หน้า ‘ไบเดน’ เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ พร้อมรับฟังรายงานสรุปด้านข่าวกรอง



          นางเคท เบดิงฟิลด์ ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า นายไบเดน จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจและตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ของคณะบริหารชุดใหม่ หลังจากการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯได้เริ่มขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้



           นางเบดิงฟิลด์ กล่าวว่า ทีมถ่ายโอนอำนาจของนายไบเดน ทำงานอย่างมืออาชีพและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากข้าราชการ ทำให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่น เจ้าหน้าที่ในทีมงานมองข้ามผลกระทบจากความล่าช้าในกระบวนการถ่ายโอนอำนาจ และไม่ได้ให้ความสนใจกับการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงสงสัยว่ามีการโกงเลือกตั้ง ทีมงานมองว่าความเคลื่อนไหวของนายทรัมป์ เป็นเพียงการแสดงโชว์เพื่อคั่นรายการเท่านั้น



          นางเบดิงฟิลด์ คาดว่า วันจันทร์หน้า นายไบเดน จะได้รับการรายงานสรุปด้านข่าวกรองประจำวันในฐานะประธานาธิบดีเป็นครั้งแรก



          นายไบเดน ประกาศชูนโยบาย "America is back" เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐฯ พร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็นผู้นำบนเวทีโลกอีกครั้ง และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู แต่จะไม่ปฏิเสธเหล่าประเทศพันธมิตร



          นอกจากนี้ นายไบเดน ยังให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรเพื่อทำให้สหรัฐฯปลอดภัย และจะไม่สร้างความขัดแย้งทางทหารที่ไม่จำเป็น พร้อมกับกล่าวว่า ทีมงานของเขาได้ประสานงานกับคณะบริหารของนายทรัมป์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และแผนการแจกจ่ายวัคซีน ทันทีที่เขาได้รับการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ



ระงับการจำหน่ายเนื้อสัตว์แช่แข็ง อาหารทะเล ที่ตลาดซินฟาตี้ ของจีน



          ตลาดซินฟาตี้  ตลาดค้าส่งทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่งของจีน ที่เคยพบการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนมิ.ย. 2563 ล่าสุด ได้ระงับการจำหน่ายเนื้อสัตว์แช่เย็น อาหารทะเล และผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง พร้อมทั้งฉีดพ่นฆ่าเชื้อตู้แช่หลายร้อยตู้และตัดกระแสไฟฟ้า หลังจากทางการ อ้างว่าพบเชื้อไวรัสโคโรนาในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์อาหารแช่เย็นและอาหารทะเลนำเข้า ขณะที่ ทางการจีน ชี้ว่า ผู้บริโภคมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะติดเชื้อจากอาหารแช่เย็น



          ช่วงหลายเดือนมานี้เมืองชิงเต่า ทางตอนใต้ของมณฑลชานตง และเมืองเทียนจิน พบผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นผู้ขนส่งอาหารแช่แข็งนำเข้า ทางการจีนได้เพิ่มการตรวจสอบอาหารแช่แข็งนำเข้า หลังจากอ้างหลายครั้งว่าพบเชื้อไวรัสโคโรนาในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์อาหารแช่เย็นและอาหารทะเลนำเข้า เป็นเหตุให้มีการตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่ทั้งอาหารและคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึง งดการนำเข้าอาหารจากบางประเทศ



เยอรมนี ขยายเวลาใช้มาตรการคุมเข้มคุมโควิด-19 จนถึง 20 ธ.ค.



           นางอังเกลา แมร์เคิล นายกฯ เยอรมนี เปิดเผยว่า เยอรมนีจะขยายเวลาการใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ออกไปจนถึงวันที่ 20 ธ.ค.2563 รัฐบาล เริ่มบังคับใช้ มาตรการล็อกดาวน์บางส่วน เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.2563 และกำหนดในเบื้องต้นไว้ว่าจะบังคับใช้เป็นเวลา 1 เดือน



          นางแมร์เคิล ประชุมร่วมกับผู้ว่าการรัฐต่างๆ ของเยอรมนี พร้อมทั้งระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในเยอรมนีอยู่ในระดับที่สูงเกินไป สถานการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลยังไม่สามารถยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่กำหนดในเดือนพ.ย.2563 ได้  



          สถาบันโรเบิร์ต คอช (RKI) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลเยอรมนีในการควบคุมโรคติดเชื้อ เปิดเผยเมื่อวันพุธ 25 พ.ย.2563ว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 410 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิต 14,984 ราย ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 18,633 คน ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งขึ้นเป็น 984,015 คน



 

ข่าวทั้งหมด

X