คลัง กระตุ้นเศรษฐกิจ ขยายโครงการคนละครึ่งเฟส 2 คาดจีดีพี ปีหน้าโต 4%
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วเมื่อไตรมาส 2 ติดลบร้อยละ 12.2 หลังจากนี้มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ที่ติดลบลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6 รวมถึงเสถียรภาพทางการคลังยังมีความแข็งแกร่ง ซึ่งอยู่ที่ 241,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 4 เท่าของหนี้ระยะสั้น ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 49.4 อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่ไม่เกินร้อยละ 60 ต่อจีดีพี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้า จีดีพีจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4 และในช่วง 5 ปี คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3-5 รัฐบาลพร้อมเดินหน้ามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาหลายโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เช่น โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น และเตรียมจะขยายโครงการคนครึ่งเฟส 2 ในปีหน้าด้วย พร้อมย้ำว่า ไทยยังมีฐานะการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง สะท้อนจาก S&P จัดอันดับเครดิตของไทยที่ BBB+ โดยสิ่งสำคัญที่ S&P อยากให้ไทยพัฒนา คือ การลงทุนภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลเตรียมเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการผลักดันโครงการที่มีศักยภาพและสามารถเติบโตได้ในอนาคต เช่น เทคโนโลยีและดิจิตอล ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ
นายอาคม ยอมรับว่า ในช่วงโควิด-19 ความต้องการเงินกู้ในประเทศของภาคเอกชนมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจะมีการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง โดยมองว่าการกู้เงินในประเทศ และต่างประเทศ มีต้นทุนใกล้เคียงกัน การกู้เงินในต่างประเทศ จะต้องพิจารณาเงื่อนไขสำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่
1.การกู้เงินแลกกับเงื่อนไขการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ
2.การลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
3.การลงทุนในเชิงสังคม โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพและสุขอนามัย เพื่อขยายธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการดูแลผู้สูงอายุ
4. การกู้มาใช้ในสาขาที่ประเทศต้องการ เช่น ดิจิตอล เทคโนโลยี และระบบขนส่งมวลชน
อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2564 ยังไม่มีแผนการกู้เงินต่างประเทศ ตามพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท นอกจากที่กู้เงินกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) 1,500 ล้านบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับการดูแลสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า กระทรวงการคลัง ทำงานประสานกับธปท.ในการดูแลค่าเงินบาท เชื่อว่า หลังจากนี้ ธปท.จะมีมาตรการดูแลเพิ่มเติมไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินไป
CR:กระทรวงการคลัง
ตัวเลขคนว่างงานสหรัฐฯ กว่า 770,000 ราย สูงกว่าที่คาด ฉุดหุ้นดาวโจนส์ ร่วงลง173 จุด
สถานการณ์ในต่างประเทศ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมาที่ระดับ 778,000 ราย สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 733,000 ราย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันพุธ 25 พ.ย.2563 ปิดผสมผสาน ตัวเลขผู้รับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน
-ดาวโจนส์ ลดลง 173.77 จุด หรือร้อยละ 0.58 ปิดที่ 29,872.47 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 5.76 จุด หรือร้อยละ 1.60 ปิดที่ 3,629.65 จุด
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 57.08 จุด หรือร้อยละ 0.47 ปิดที่ 12,094.40 จุด
เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ได้แรงขับเคลื่อนจากข่าวความหวังการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 แต่สุดท้ายก็ลดลง เนื่องจาก การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บางพื้นที่ต้องประกาศใช้มาตรการหยุดอยู่บ้าน และสภาคองเกรส ยังไม่สามารถอนุมัติมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนม.ค.2563 เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 45.71 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนม.ค.2563 เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ ปิดที่ 48.61 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ ปิดที่ 1,805.50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
สธ.ชี้แจง 4 ขั้นตอนการประเมินความเสี่ยงการระบาดของโควิด-19
สถานการณ์โควิด-19 ในไทย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การรายงานระดับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่ที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อ สธ.จะประเมินความเสี่ยงของการระบาด (Outbreak Impact Risk : OIR) โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ เพื่อให้กำหนดเพิ่มหรือลดมาตรการได้ตรงตามระดับสถานการณ์ คนในพื้นที่จะได้เข้าใจ
1. ช่วง 1-3 วันแรก เริ่มด้วยมาตรการพื้นฐานเดียวกันทั้งหมด สธ.รีบเข้าไปสอบสวนโรค ประเมินแยกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง-ต่ำ มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติของกลุ่มเสี่ยง เพื่อรายงานว่าพื้นที่นั้นสถานการณ์โรคยังเกิดขึ้นอยู่ (Active) ในระดับ Spike คือเจอผู้ติดเชื้อรายเดียว หรือ Spike and small wave ที่มีผู้ติดเชื้ออื่นตามมา
2. ช่วง 5-7 วัน ถ้าควบคุมจัดการได้ จะรายงานเป็นควบคุมได้ (Control) ถ้ายังไม่ได้ก็ไม่ประกาศ เพื่อที่ระดับพื้นที่จะได้กำหนดมาตรการต่างๆ ให้เหมาะสม
3.ช่วง 10 วัน หากผลตรวจผู้สัมผัสทั้งหมดเป็นลบ ไม่พบการติดเชื้อเพิ่มเติม จะรายงานเป็นระดับปลอดภัย (Safe)
4. ครบ 14 วัน หากไม่มีการระบาดแล้ว จะรายงานเป็นระดับจบ (End)
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า จากนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเดียว แต่ต้องเป็นลักษณะของการอยู่ร่วมกันโดยยึดความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก สร้างความสมดุลระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการเดินทางของคนจากต่างประเทศ จึงต้องใช้ระดับความเสี่ยงของประเทศต่างๆ เปรียบเทียบกับไทยในการบริหารความเสี่ยง โดยหลักการประเทศเสี่ยงน้อยกว่าหรือเท่ากับไทย น่าจะอยู่ในประเทศไทยได้โดยง่าย
สหรัฐฯ พบเด็กป่วยโควิด-19 พุ่งสูงเกือบ 1,200,000 คนแล้ว
สถาบันกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน (AAP) และสมาคมโรงพยาบาลเด็ก (CHA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 วัยเด็กในสหรัฐฯ สูงเกือบ 1,200,000 คนแล้ว นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่
รายงานฉบับใหม่ของสถาบันฯ ระบุว่าสหรัฐฯ ตรวจพบผู้ป่วยเด็กใหม่ 144,145 คน ระหว่างวันที่ 12 พ.ย.– 19 พ.ย.2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 ของจำนวนผู้ป่วยเด็กในประเทศ และถือเป็นตัวเลขสูงสุดรายสัปดาห์นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดใหญ่ในประเทศ
ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 วัยเด็กในสหรัฐฯ มีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 11 ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดในประเทศ ขณะที่อัตราการติดเชื้อโดยรวมของเด็กในสหรัฐฯ อยู่ที่ 1,573 คนต่อประชากรเด็ก 100,000 คน เด็กที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลคิดเป็นร้อยละ 1.2-3.1 ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งหมดของประเทศ ส่วนเด็กที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 คิดเป็นร้อยละ 0-0.23 ของผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตทั้งหมดในสหรัฐฯ
เกาหลีใต้ ติดเชื้อหลักร้อยตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.หวั่นรพ.มีเตียงไม่พอ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีใต้ มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 382 คน มี 363 คน ติดเชื้อในประเทศ และมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 31,745 คน เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อในหลักร้อยติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.2563 ก่อนจะกลับมามีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นเป็น 349 คนอีกครั้ง ทำให้ทางการสาธารณสุขเกาหลีใต้ ยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นระดับ 2 ในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ถ้าตัวเลขผู้ป่วยไม่ลดลง อาจประกาศใช้ทั่วประเทศ ส่งผลให้สถานบันเทิงที่เสี่ยงสูงต่อการระบาดต้องปิดบริการ ทางการเกาหลีใต้ เตือนว่า หากสถานการณ์ระบาดยังไม่ดีขึ้นโรงพยาบาลอาจมีเตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อที่อาการหนักไม่เพียงพอในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
แอร์อินเดียออกเดินทางจากภูเก็ตแล้ว - ตรวจค้นไม่พบระเบิด
...
เตือนศก.เสียหาย หมื่นล้านบาท - ผลกระทบชายแดนไทยกัมพูชา
...
ไหหลำอพยพปชช.นับหมื่น หนี 'ไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ' เคลื่อนเข้าใกล้
...
ข่าวทั้งหมด
