ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2563
นพ.ยง เผยไทยใช้พลาสมา รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ชาวสวิสฯ อาการดีขึ้น
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการแถลงข่าวว่า จากกรณีที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้มีการเก็บพลาสมาจากผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019ในประเทศไทยรักษาหายแล้ว และมีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 มากกว่า 400 ถุง เพื่อเตรียมไว้สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 แต่ที่ผ่านมาด้วยความที่กระทรวงสาธารณสุข และประชาชนร่วมมือกันอย่างดีทำให้ไม่มีการระบาดของโควิด-19 ในไทย จึงไม่ได้มีการใช้พลาสมาที่เก็บไว้
แต่เมื่อราวๆ 10 วันที่แล้ว ได้มีการนำพลาสมาไปรักษาผู้ป่วย 1 คนใน Alternative state quarantine เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีอาการปอดบวมรุนแรง มีค่าออกซิเจนในเลือดต่ำโดยช่วงที่มีอาการหนักสุดจำเป็นต้องให้ออกซิเจนขนาดสูงถึงร้อยละ80 จึงมีการตัดสินใจให้พลาสมาโดยเร็วหลังรับเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยให้ 2 ครั้ง ห่างกัน 2 วัน ตอนนี้ผ่านมา 10 วันล่าสุดผู้ป่วยอาการดีขึ้น สามารถลดค่าออกซิเจนที่ให้ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้ป่วยรายนี้ได้อานิสงส์จากการให้พลาสมาค่อนข้างเร็ว
นอกจากนั้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ยังได้มีการนำพลาสมาที่มีภูมิต้านทานโรคโควิด-19 ในระดับสูงไปสกัดทำเป็นเซรุ่มเพื่อใช้ในการป้องกัน และรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้ ขณะนี้แบ่งพลาสมาครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่มาทำเซรุ่มได้จำนวนทั้งหมดมากกว่า 600 ขวด ขวดละ 2 ซีซี เพื่อสำรองไว้ใช้ยามจำเป็น โดยสามารถเก็บไว้ได้นาน 3 ปี แต่หากเป็นพลาสมาจะเก็บไว้ได้นาน 1 ปี ซึ่งส่วนของ พลาสมาที่ยังเหลืออยู่หากไม่ได้มีการเอามาใช้ก็จะสกัดเป็นเซรุ่มเก็บไว้ด้วย
โดยพลาสมาที่ได้รับจากผู้ที่หายจากโรคและมีภูมิต้านทานสูงจะมีแอนติบอดี้ แต่ต้องให้ระยะแรกที่ผู้ป่วยยังไม่ได้สร้างภูมิต้านทานด้วยตัวเอง และมีอาการรุนแรง การนำเอาพลาสมาทำเป็นเซรุ่ม ก็เช่นเดียวกัน ในเซรุ่มก็จะมีภูมิต้านทานต่อไวรัสก่อโรคโควิด-19 สามารถใช้ได้เช่นเดียวกับการใช้ป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เช่น เมื่อถูกเข็มเจาะเลือดผู้ป่วยตำมือ หรือสัมผัสโรค การให้เซรุ่มจำเพาะรักษาโรคพิษสุนัขบ้า
ข้อดีของเซรุ่มที่สกัดจากพลาสมาผู้ที่หายป่วยและมีภูมิต้านทานสูง เซรุ่มสามารถฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้ ไม่ต้องให้ทางหลอดเลือดแบบการให้พลาสมา สามารถเก็บไว้ได้นานกว่าการเก็บพลาสมา และถูกบรรจุเป็นขวดเล็กๆไม่เหมือนกับพลาสมาที่ต้องเก็บเป็นถุง
คณะทำงานของ ผู้นำคนใหม่สหรัฐฯเตรียมประชุมกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเพื่อหารือเรื่องวัคซีน
หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเริ่มขั้นตอนการถ่ายโอนอำนาจให้กับนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเกือบ 3 สัปดาห์ นายไบเดน เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี นิวส์ว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลของนายทรัมป์ได้พูดคุยเรื่องการถ่ายโอนอำนาจกับคณะทำงานของเขาอย่างจริงใจ ระบุว่า ในเร็วๆนี้ คณะทำงานของเขาจะประชุมกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวในเรื่องยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการกระจายวัคซีนและการจัดซื้อวัคซีน เพราะยังพอมีเวลาอีก 2 เดือน ซึ่งคณะทำงานของเขาจะเร่งมือทำงานต่างๆให้เสร็จก่อนวันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า พร้อมทั้งเปิดเผยรายชื่อของคณะบุคคลที่ตกลงจะเข้ามาทำงานเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของตน เช่น นายแอนโทนี บลิงเคน จะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ และนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง
ในปัจจุบันสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงที่สุดในโลก มีผู้ป่วยสะสม 12,956,783 คน เสียชีวิต 265,956 ราย
ชัดเจนแล้ว "คนละครึ่ง" เฟส 2 ลงทะเบียน 1 ม.ค. 64
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปี 64 รัฐบาล ยังคงเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย โดยเฉพาะการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
ซึ่งกระทรวงการคลังมีแผนที่จะออกมาตรการคนละครึ่ง เฟส 2 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการใน วันที่ 1 ม.ค.64 เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2564 ขยายตัวได้ร้อยละ3.5-4.5
สำหรับเศรษฐกิจไทยนั้น ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในไตรมาส 2 ที่ติดลบร้อยละ 12.2 และหลังจากนี้มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ที่ติดลบลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6 รวมถึงเสถียรภาพทางการคลังยังมีความแข็งแกร่ง 4 เท่าของหนี้ระยะสั้น ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 49.4 อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่ไม่เกินร้อยละ 60 ต่อจีดีพี
ส่วนภาคการท่องเที่ยว หลังจากนี้ประเทศไทยจะค่อย ๆ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา แต่จะเป็นไปอย่างรอบคอบและระมัดระวัง หลังจากที่หลายประเทศมีการระบาดของโควิด-19 รอบ 2 โดยการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังจากนี้จะเน้นกลุ่มที่ใช้จ่ายสูงมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศในภูมิภาคเอเชียก่อนเป็นกลุ่มแรก
ทองร่วง 250 บาท ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
สถานการณ์ราคาทองคำในประเทศ วันนี้ (25 พ.ย.) มีการปรับเปลี่ยนระหว่างวัน 3 ครั้ง เป็นการปรับลดสุทธิ 250 บาท ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยทองแท่ง รับซื้อบาทละ 25,950 บาท ขายออกบาทละ 26,050 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 25,483.96 บาท ขายออกบาทละ 26,550 บาท
หุ้นไทยบวก14 จุด ติดตามชุมนุมการเมือง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,415.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 117,120.20 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถือว่าเหวี่ยงตัวแรงในการปรับขึ้น/ลงระหว่างเทรด จากความไม่มั่นใจตลาดเท่าไร ทำให้เผชิญแรงขายทำกำไรออกมา ท่ามกลางการติดตามการชุมนุมทางการเมือง ทำให้ตลาดเกิดความผันผวนแต่ยังบวกได้ จากแรงหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน, กลุ่มปิโตรเคมี ขานรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มแบงก์ก็ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย จากมุมมองที่ดีขึ้นหลังการประชุมนักวิเคราะห์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก หลังกรุงโตเกียวกำลังวางแผนที่จะขอให้ร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดชั่วโมงการให้บริการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เนื่องจากยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 26,296.86 จุด เพิ่มขึ้น 131.27 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 30,000 จุดครั้งแรกเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ รับความชัดเจนของทิศทางการเมืองสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 26,669.75 จุด เพิ่มขึ้น 81.55 จุด
นายกรัฐมนตรี เผยใช้กฎหมายปกติดูแลการชุมนุม ไม่คิดประกาศกฎอัยการศึก
หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมร่วมกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S. - ASEAN Business Council: USABC) ในรูปแบบกึ่งออนไลน์ (hybrid) ที่กระทรวงการต่างประเทศ
หลังการประชุม นายกรัฐมนตรี แถลงว่า ได้ชี้แจงกับที่ประชุมสภานักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองขณะนี้ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของทุกประเทศในระบอบประชาธิปไตย ที่จะมีการชุมนุม และไม่อยากกล่าวหาว่าใครดีไม่ดี ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากทำผิดต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
สำหรับการประชุมร่วมกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันที่จะปรับเปลี่ยนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งไทยเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทย เพื่อให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากรายได้ด้านการส่งออกและท่องเที่ยว เช่น การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น และการยกระดับฝีมือแรงงาน พร้อมเชิญชวนนักธุรกิจสหรัฐฯ จากทุกอุตสาหกรรม มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ยังขอบคุณและชื่นชมสหรัฐฯ ที่ลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ความมั่นใจในศักยภาพ เสถียรภาพ และความเข้มแข็งในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมของไทย
อัยการคดีปราบปรามทุจริตภาค 9 ตั้งคณะทำงานทำสำนวน’นิพนธ์’ให้เสร็จภายใน 90 วัน
หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา (ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย) กรณีละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ มิได้อนุมัติงบประมาณเบิกจ่ายเงินให้กับบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,850,000 บาท ทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2556 และส่งสำนวนมาถึงสำนักงานอัยการปราบปรามการทุจริต ภาค 9 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลนั้น
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง โฆษกและรองอธิบดีสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 เปิดเผยว่า นายอนุรักษ์ สวัสดิ์บุรี อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9 ได้ได้รับสำนวนพร้อมความเห็นจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว โดยนายอนุรักษ์ได้รายงานคดีต่ออัยการสูงสุด (อสส.) และมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน 3 คน ได้แก่
1.นายชัยวัฒน์ สุวรรณยอด
2.นายโสภณ สมานเดชา อัยการผู้เชี่ยวชาญ
3.นายณรงค์ นุ้ยฉิม อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2563 สำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9 ได้จัด ประชุม และเร่งรัดคณะทำงานดังกล่าวให้รีบพิจารณาสำนวน ดำเนินการให้ทันภายใน 90 วัน หากสำนวนการไต่สวนสมบูรณ์พอจะดำเนินคดีได้ ให้ดำเนินการเสนอต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ถึง อสส. เพื่อฟ้องคดีภายใน 180 วัน ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 77 และมาตรา 93 หาก อัยการสูงสุดหรือ อสส. เห็นว่า การดำเนินการไต่สวนยังไม่สมบูรณ์พอจะดำเนินคดีได้ อสส. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา เพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์โดยเร็วต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายนิพนธ์ เคยแถลงข่าวชี้แจงอย่างเป็นทางการ 2 ครั้ง ยืนยันว่า การจัดซื้อรถ เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมาดำรงตำแหน่ง และเมื่อมารับตำแหน่งต้องคิดให้รอบคอบว่ารถดังกล่าวดำเนินการจัดซื้ออย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมูลการจัดซื้อรถดังกล่าวด้วย ดังนั้นการยังไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถดังกล่าว จึงเป็นการรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ เนื่องจากต้องการให้การสอบสวนกรณีฮั้วประมูลเสร็จสิ้นก่อน
นัดอ่านคำตัดสิน บรรยิน อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา 15 ธ.ค.นี้
การพิจารณาคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทยหลายสมัย กับพวก จำเลยคดีก่อเหตุอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนโอนหุ้น นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้านนั้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ไต่สวนพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้วเสร็จ จึงนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ เวลา 09.00 น.
สำหรับคดีฆาตกรรมอำพราง นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ศาลอาญาพระโขนง ได้สืบพยานโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้วโดยนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 ม.ค. 2564 เวลา 09.00 น. ส่วนคดีปลอมใบโอนหุ้นมูลค่า300 ล้านบาทของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืดนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ก่อนหน้านี้ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก พ.ต.ท.บรรยิน รวม 8 ปี ส่วนจำเลยคนอื่น ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ และมารดานั้นรับโทษลดหลั่นกันไป ซึ่งขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ สำหรับพ.ต.ท.บรรยินขณะนี้ถูกคุมขังที่เรือนจำบางขวาง หลังปรากฏข่าววางแผนหลบหนีจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บรรยิน ที่เรือนจำบางขวาง พร้อมกับทนายความส่วนตัวของผู้ต้องหา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ พ.ต.ท.บรรยิน ได้แก่ เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลหลุดพ้นจากการคุมขัง ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ และหน่วงเหนี่ยวกักขัง เบื้องต้น พ.ต.ท.บรรยิน ยังคงยืนกรานปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใดๆ แก่พนักงานสอบสวน ภาพรวมของสำนวนคดีดังกล่าว ขณะนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะสามารถส่งสำนวนให้อัยการศาลแขวงพระนครเหนือพิจารณาได้ภายในสัปดาห์หน้า