นางแคร์รี่ หลั่ม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง แถลงนโยบายประจำปีต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติของฮ่องกงในวันนี้ ระบุว่า ภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาลในขณะนี้คือการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและพัฒนาระบบการเมืองให้เข้มแข็งตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ลดความแตกแยกทางสังคม ระบุว่าในปีที่แล้วฮ่องกงเผชิญกับปัญหาท้าทายทางการเมืองร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ประเทศจีนรับมอบเกาะฮ่องกงคืนมาจากอังกฤษ อดีตเจ้าอาณานิคมของฮ่องกงในปี 2540
นางหลั่มกล่าวหารัฐบาลและสภานิติบัญญัติของต่างชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯว่าเข้ามาแทรกแซงกับกิจการภายในของฮ่องกงซึ่งถือว่าเป็นปัญหาภายในโดยตรงของประเทศจีน ระบุว่ารัฐบาลจะผลักดันแผนก่อสร้างเกาะเทียมมูลค่า 624,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่มีราคาแพงมากที่สุดของฮ่องกงให้เดินหน้าต่อไป พร้อมทั้งจะพัฒนาโครงการที่พักอาศัยขนาด 400,000 ห้องบนที่ดินขนาด 10,625 ไร่ ระหว่างเกาะลันเตา ที่ตั้งสนามบินของฮ่องกงกับเกาะหลักของฮ่องกง
นอกจากนี้ ฮ่องกงจะสนับสนุนความพยายามในการผนวกเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไข่มุกที่ประกอบไปด้วยฮ่องกง มาเก๊า และ 9 เมืองในมณฑลกวางตุ้ง ได้แก่ กวางโจว, เซินเจิ้น, จูไห่, ฝอซาน, ฮุ่ยโจว, ตงกวน, จงซาน, เจียงเหมิน และเจ้าชิ่ง
สำหรับการแถลงนโยบายประจำปีในวันนี้ถูกเลื่อนมาจากกำหนดเวลาเดิมกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากเธอติดภารกิจสำคัญคือการเยือนกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อขอให้ทางการจีนสนับสนุนแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของฮ่องกง หลังได้รับผลกระทบจากการประท้วงในปีที่แล้วและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะติดลบร้อยละ 6.1 ในปีนี้
Cr: Reuters