นายกฯ ยังไม่ใช้กฎอัยการศึก ไม่กังวลม็อบประกาศชุมนุมแบบไม่ค้างคืน 5 วัน

25 พฤศจิกายน 2563, 15:10น.


          วันนี้ (25 พ.ย.63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมร่วมกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S. - ASEAN Business Council: USABC) ในรูปแบบกึ่งออนไลน์ (hybrid) ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีคณะนักธุรกิจบริษัทสมาชิก USABC จำนวน 28 บริษัท เข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศ  และคณะนักธุรกิจบริษัทสมาชิก USABC จำนวน 11 บริษัท ร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล หารือเกี่ยวกับโอกาสในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ  


 




 


          หลังการประชุม นายกรัฐมนตรี แถลงว่า ได้ชี้แจงกับที่ประชุมสภานักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองขณะนี้ ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของทุกประเทศในระบอบประชาธิปไตย ที่จะมีการชุมนุม และไม่อยากกล่าวหาว่าใครดีไม่ดี ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามกฏหมาย หากทำผิดต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด  พร้อมยอมรับว่า ในระบอบประชาธิปไตย จะทำให้ทุกคนเห็นด้วยเหมือนกันทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนเดินหน้าไปด้วยกันได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต เช่นเมื่อช่วงเช้าที่เกิดปัญหารถติด ส่งผลกระทบกับทุกคน ก็ขอให้พิจารณากันเองว่า เกิดจากอะไร นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า ยังไม่เคยคิดเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก และขณะนี้ใช้กฏหมายปกติก็น่าจะเพียงพอแล้ว วันนี้บ้านเมืองต้องการความสงบสุข ความมีเสถียรภาพ อะไรควรทำ ไม่ควรทำ ทุกคนทราบดี คนไทยทุกคนต้องเรียนรู้ 


          ส่วนกรณีผู้ชุมนุมประกาศจะชุมนุมยืดเยื้อ 5 วัน โดยไม่ค้างคืน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สามารถประกาศได้ เพียงแต่ต้องขออนุญาตชุมนุมให้ถูกต้อง และหากทำผิดกฏหมายก็ดำเนินการตามขั้นตอน


 




 


          สำหรับการประชุมร่วมกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีความเห็นตรงกัน ที่จะปรับเปลี่ยนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งไทยเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ในการปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทย เพื่อให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากรายได้ด้านการส่งออกและท่องเที่ยว เช่น การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น และการยกระดับฝีมือแรงงาน พร้อมเชิญชวนนักธุรกิจสหรัฐฯ จากทุกอุตสาหกรรม มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ยังขอบคุณและชื่นชมสหรัฐฯ ที่ลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ความมั่นใจในศักยภาพ เสถียรภาพ และความเข้มแข็งในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมของไทย 


 




 


          มีรายงานว่า หลังนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นภารกิจที่กระทรวงการต่างประเทศ ในช่วงเย็นวันนี้ เวลา 18.00 น. มีกำหนดเข้าเฝ้ารับเสด็จฯ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระบรมราชานุสรณ์ สวนลุมพินี ถนนพระรามที่ 4 เขตปทุมวัน กทม.
ข่าวทั้งหมด

X