เตือน! 8 จังหวัดภาคใต้ ระวังน้ำป่า คลื่นลมแรง 25-28 พ.ย.
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ระวังฝนตกหนัก หลังจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 8 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร,สุราษฎร์ธานี,นครศรีธรรมราช,พัทลุง, สงขลา,ปัตตานี,ยะลา และนราธิวาส เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 25-28 พ.ย.2563
พื้นที่เฝ้าระวัง 8 จังหวัด
-จ.ชุมพร (อำเภอพะโต๊ะ อำเภอหลังสวน และอำเภอละแม)
-จ.สุราษฎร์ธานี (อำเภอบ้านตาขุน อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอท่าฉาง อำเภอคีรีรัฐนิคม อำเภอพนม อำเภอวิภาวดี อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ และอำเภอดอนสัก)
-จ.นครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม อำเภอช้างกลาง อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอหัวไทร อำเภอท่าศาลา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง อำเภอทุ่งสง อำเภอฉวาง อำเภอพระพรหม อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพิปูน อำเภอสิชล อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอชะอวด อำเภอพรหมคีรี อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอนบพิตำ และอำเภอลานสกา)
-จ.พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอศรีบรรพต อำเภอบางแก้ว อำเภอป่าพะยอม อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด และอำเภอป่าบอน)
-จ.สงขลา (อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ อำเภอสะเดา อำเภอควนเนียง อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอรัตภูมิ อำเภอสิงหนคร อำเภอบางกล่ำ อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอนาทวี อำเภอเทพา อำเภอเมืองสงขลา อำเภอจะนะ อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอนาหม่อม)
-จ.ปัตตานี (อำเภอปะนาเระ อำเภอยะหริ่ง อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอสายบุรี อำเภอแม่ลาน อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอไม้แก่น อำเภอยะรัง อำเภอมายอ อำเภอกะพ้อ อำเภอหนองจิก และอำเภอทุ่งยางแดง)
-จ.ยะลา (อำเภอกาบัง อำเภอบันนังสตา อำเภอกรงปีนัง อำเภอยะหา อำเภอเบตง อำเภอเมืองยะลา อำเภอธารโต และ อำเภอรามัน)
-จ.นราธิวาส (อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงปาดี อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอจะแนะ อำเภอศรีสาคร อำเภอตากใบ อำเภอระแงะ อำเภอยี่งอ อำเภอรือเสาะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอบาเจาะ)
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา จ.ปัตตานี และจ.นราธิวาส
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ชุมชนเมือง พื้นที่ริมแม่น้ำลำคลอง ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเล อีกทั้งจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รถปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที
วันนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ปิดทำการ 1วัน
หลังจากช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ กลุ่มราษฎร ประกาศย้ายการ
ดีอีเอส เรียก 5 แพลตฟอร์ม ถกหามาตรการป้องกันข้อมูลลูกค้าถูกแฮก
กรณีเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2563 มีรายงานว่า ข้อมูลผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่รั่วไหล และมีการนำข้อมูลผู้ใช้บริการดังกล่าวไปเผยแพร่ในเชิงพาณิชย์ ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความเสียหาย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เรียกประชุมหารือกับผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซ รายใหญ่ ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย ประกอบด้วย ลาซาด้า ช้อปปี้ เจดีดอทคอม ช้อปแบ็ค และไทยแลนด์โพสต์มาร์ท รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันจัดทำแนวทางดูแลข้อมูลของผู้ใช้บริการ และมาตรการในการดูแลข้อมูลผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม โดยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสูงสุด ซึ่งในการประชุม ยังให้ผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ชี้แจงข้อเท็จจริงของข่าวที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการรั่วไหล และมีการนำไปประกาศขายกันทางไซเบอร์
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว พบว่า ข้อมูลผู้ใช้บริการที่รั่วไหลไปจากแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ และนำไปประกาศขายผ่านทางไซเบอร์เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เมื่อช่วงปี 2561 ประกอบด้วย ข้อมูล เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ วันที่ทำธุรกรรม จำนวนเงิน ช่องทางการขาย เบื้องต้นได้ประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง (ไทยเซิร์ต) ในการประสานกับผู้ดูแลระบบเพื่อระงับการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวแล้ว
ส่วนสำคัญที่สุดเมื่อเกิดเหตุข้อมูลผู้ใช้บริการรั่วไหล ผู้ให้บริการจะต้องชี้แจงประชาชนผู้ได้รับผลกระทบถึงรายละเอียดข้อมูลที่ถูกเข้าถึง และแนะนำวิธีการปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยง เช่น การเปลี่ยนรหัสผ่าน และระมัดระวังเมื่อมีคนโทรไปเพื่อหลอกลวง นอกจากนี้ ผู้ให้บริการซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้คู่สัญญาที่เป็นผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่เป็นคนกลางในการบริหารจัดการขาย และผู้ให้บริการคลังสินค้าและขนส่ง
ก.อุตฯ คาดอีก 15 วัน สรุปมาตรการรถเก่าแลกรถใหม่
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงมาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ของรัฐบาลว่า น่าจะได้ข้อสรุปไม่เกิน 15 วัน นับจากนี้ มาตรการรถเก่าแลกรถใหม่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ ในการกระตุ้นความต้องการรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์สมัยใหม่ ทั้งกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบเพื่อลดปัญหามลภาวะจาก PM 2.5
นายกอบชัย กล่าวว่า การทำงานในเฟสแรก อาจจะผลักดันมาตรการส่งเสริมเปลี่ยนรถยนต์เก่าเป็นยานยนต์สมัยใหม่ ประมาณ 100,000 คัน และจะมีต่อเฟส 2 หรือไม่ และจะต้องพิจารณาว่า รถยนต์เก่าจะต้องมีอายุการใช้งานกี่ปีที่จะนำมาใช้ตามมาตรการ ซึ่งที่วางแผนไว้ คือ รถเก่า 10-15 ปี แต่ยังไม่มีข้อสรุปจะต้องหารือถึงปริมาณรถยนต์เก่าแต่ละช่วงอายุมีจำนวนมากน้อยเพียงใด และนำมาวางแผน ส่วนเรื่องสุดท้าย คือ การอุดหนุนด้านภาษี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เสียผลประโยชน์ในการจัดเก็บรายได้จากภาษี เพราะจะให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขณะที่ ภาษีสรรพสามิตยังคงมีการจัดเก็บจากรถยนต์อยู่ต่อไป โดยจัดเก็บโดยกรมสรรพสามิต และจะเริ่มต้นดูแลการกำจัดซากรถยนต์เก่าไปด้วย ซึ่งค่ายรถยนต์หลายค่ายสนใจเข้าร่วมโครงการนี้ ก็จะต้องอุดหนุนในส่วนนี้ด้วยตัวเอง
สวิตเซอร์แลนด์ จับหญิงวัย 28 ปี ก่อเหตุก่อการร้าย มีผู้บาดเจ็บ 2 คน
สำนักงานอัยการสวิตเซอร์แลนด์ รายงานว่า ตำรวจสวิสจับกุมหญิงผู้ต้องสงสัยวัย 28 ปี เป็นผู้ก่อการร้าย 1 คน ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คนที่เมืองลูกาโนทางตอนใต้ของประเทศ ตำรวจรัฐบาลกลาง ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ สัญชาติสวิส อาศัยอยู่ในรัฐตีชีโน ที่พูดภาษาอิตาลี มีประวัติเข้าร่วมการก่อการร้ายเมื่อปี 2560 ลงมือก่อเหตุที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ด้วยการรัดคอหญิงคนหนึ่ง และใช้มีดพยายามฆ่าตัดคอหญิงอีกคน โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาขัดขวางการก่อเหตุ ผู้บาดเจ็บคนหนึ่งมีอาการหนัก แต่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตขณะที่อีกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ด้านนายนอร์แมน กอบบิ ประธานาธิบดีรัฐตีชีโน ประณามการโจมตีและกล่าวว่าชุมชนชาวตีชีโนไม่มีพื้นที่สำหรับกลุ่มหัวรุนแรง
แอร์อินเดียออกเดินทางจากภูเก็ตแล้ว - ตรวจค้นไม่พบระเบิด
...
เตือนศก.เสียหาย หมื่นล้านบาท - ผลกระทบชายแดนไทยกัมพูชา
...
ไหหลำอพยพปชช.นับหมื่น หนี 'ไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ' เคลื่อนเข้าใกล้
...
ข่าวทั้งหมด
