นายโซ ชอง-ฮยอพ รักษาการนายกเทศมนตรีกรุงโซล ของเกาหลีใต้ ประกาศช่วงเวลาฉุกเฉินในกรุงโซล จากวันนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ หลังตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 271 คนในวันนี้ แบ่งเป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น 255 คน (ส่วนใหญ่คือ 206 คนในกรุงโซล) ที่เหลือ 16 คนเป็นผู้โดยสารจากต่างประเทศ
ภายใต้มาตรการนี้ การบริการระบบขนส่งสาธารณะเช่น รถไฟใต้ดินหรือรถประจำทางจะถูกลดร้อยละ 20 หลังเวลา 22.00 น.และห้ามประชาชนรวมกลุ่มกันในสถานที่สาธารณะเกิน 10 คน ขณะเดียวกันรัฐบาลกรุงโซลจะตรวจสุขภาพให้กับบรรดาแรงงานของโรงพยาบาล, สถานรับดูแลผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้สูงอายุราว 40,000 คนในกรุงโซล พร้อมทั้งคุมเข้มมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 มากขึ้นสำหรับสถานที่สาธารณะต่างๆเช่น โบสถ์และศูนย์คอลล์ เซนเตอร์ต่างๆ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนงดเว้นการชุมนุมเฉลิมฉลองในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และขอให้ผู้นำองค์กรทางศาสนาจัดกิจกรรมทางศาสนาผ่านระบบออนไลน์
ก่อนหน้านี้ กรุงโซลประกาศมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับที่ 2 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน สำหรับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับที่ 2 มีผลดังนี้คือ การสวมหน้ากากอนามัยจะเป็นมาตรการบังคับสำหรับประชาชนเมื่ออยู่ในอาคารสาธารณะทุกแห่ง,ปิดถานบันเทิงเช่นไนต์คลับ,ร้านอาหารสามารถจะให้บริการเฉพาะแบบเดลิเวอร์รีและสั่งซื้ออาหารไปรับประทานที่บ้านหลังเวลา 21.00 น.,โรงเรียนเปิดแบบให้นักเรียนเข้าชั้นเรียนตามปกติเพียง 1 ใน 3 ของความจุทั้งหมดของห้องเรียน ที่เหลือจัดสอนผ่านระบบออนไลน์
ในปัจจุบัน เกาหลีใต้มีผู้ป่วยสะสม 31,004 คน เสียชีวิต 509 ราย
Cr: CNN